เกิดเหตุสุดสยองเมื่อพระภิกษุคลุ้มคลั่ง ใช้มีดพกคว้านท้องตัวเองจนไส้ทะลัก กลางแยกบางขุนนนท์ ไม่หมดฤทธิ์ไล่จ้วงแทงชาวบ้านเดินข้ามถนนดับอนาถ 2 ราย ตำรวจต้องชาร์ตตัวส่ง รพ.ผ่าตัดช่วยชีวิต เบื้องต้น พบประวัติเป็นเคยเป็นลมชัก ย้ายวัดหลาย ครั้งยังไม่พบเสพยา
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น.ร.ต.อ.พรชัย ศรีมูล ร้อยเวร สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งมีเหตุพระภิกษุคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดไล่แทงชาวบ้านมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณสี่แยกบางขุนนนท์ ตัดถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม.จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.บางขุนนนท์ พ.ต.ท.เทียนชัย คามะปะโส รอง ผกก.สนบางขุนนนท์ แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณแยกบางขุนนนท์ ห่างจากป้อมจราจรประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่พบศพนายสุนทร หอมพวงภู่ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 15 หมู่ 7 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาล นุ่งกางเกงขาสั้นสีเขียว มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมที่บริเวณหน้าอก ท้อง ท้ายทอย แผ่นหลังและลำคอ รวมกว่า 20 แผล ใกล้กันยังพบย่ามพระตกอยู่ 1 ใบ ตรวจสอบภายในพบสูจิบัตรประจำตัวพระวิชัย ฐิตสีโล สมุดบัญชีเงินฝาก ธ.กสิกรไทย 1 เล่ม เลขที่บัญชีธนาคารอีก 3 ธนาคาร ซองเงินรับบริจาค ด้านหน้าเขียนรายชื่อลูกหนี้อีกกว่า 10 ราย นอกจากนี้ ยังมีเบอร์โทรศัพท์วัดต่างๆ ห่างจากจุดพบศพแรกประมาณ 2 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีชมพู หมายเลขทะเบียน บษม 364 กทม.ล้มคว่ำอยู่ ใกล้กันพบมีดพับความยาวประมาณ 4 นิ้ว ตกอยู่อีก 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย พลเมืองดีนำส่งที่ รพ.ศิริราช ไปก่อนหน้านี้ คือ นายสมาน อินนุ อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.ของบริษัท บาจา เจ้าของรถ จยย.อยู่บ้านเลขที่ 6 แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม.มีบาดแผลถูกอาวุธมีดปาดเข้าที่ลำคอเป็นแผลลึกจนตัดหลอดลม และที่หน้าท้อง รวม 2 แห่ง ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วนอีกรายเป็นพระภิกษุ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุชื่อ พระวิชัย ฐิตสีโล อายุ 37 ปี พระลูกวัดศรีศรัทธาวารี ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ มีบาดแผลลึกที่หน้าท้องจนไส้ทะลักออกมาด้านนอก
สอบสวน นายโรย สุยะยอด อายุ 58 ปี พ่อค้าขายพวงมาลัย อยู่บ้านเลขที่ 7/1147 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 06.00 น.ขณะที่ตนกำลังตั้งโต๊ะขายของก็มีชาวบ้านเดินมาบอกให้ช่วยไปดูพระภิกษุเป็นลมหมดสติ อยู่บนฟุตปาธหัวมุมถนนบางขุนนนท์ ตนจึงรีบเดินไปดูพบพระวิชัย นอนหงายจมกองเลือดหมดสติอยู่ โดยในมือข้างซ้ายถือมีดพับปลายแหลม ยาวประมาณ 4 นิ้วอยู่ด้วย ตนจึงบอกให้ชาวบ้านโทรแจ้งตำรวจ เนื่องจากยังไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อพระวิชัย ได้ยินว่า ชาวบ้านจะโทรแจ้งตำรวจ ก็รีบลุกขึ้น ทำตาขวางใส่ พร้อมแสดงอาการคลุ้มคลั่ง ทำให้ตนและชาวบ้านตกใจ จนต้องรีบวิ่งหนี
“จังหวะนั้น นายสุนทร ผู้ตายกำลังเดินสวนมา และกำลังจะข้ามถนนตรงทางม้าลายพอดี พระวิชัย ซึ่งกำลังคลุ้มคลั่ง จึงได้ตรงปรี่เข้าไปล็อกคอ นายสุนทร แล้วใช้มีดกระหน่ำแทงไม่ยั้งจนนายสุนทร ทรุดฮวบลงกับพื้นแล้วเสียชีวิตในทันที” นายโรย เล่าเหตุการณ์
นายโรย กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น พระวิชัย ยังคลุ้มคลั่งหนักกว่าเดิม โดยวิ่งถือมีดตรงปรี่เข้าไปจ้วงแทงเข้าที่ท้อง และลำคอของ นายสมาน ซึ่งกำลังจอดรถติดไฟแดงอยู่บริเวณแยกดังกล่าวจนรถล้มคว่ำลง แล้วยังเดินควงอาวุธมีดเล่มเดียวกันพร้อมร้องโวยวาย ให้ชาวบ้านเข้ามาดูลำไส้ตน ซึ่งทะลักออกมา จนเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที พระวิชัย ก็เริ่มอ่อนแรงในขณะที่บาดแผลบริเวณหน้าท้อง ซึ่งคาดว่าเจ้าตัวน่าจะทำร้ายตัวเอง เริ่มมีลำไส้ทะลักออกมามากขึ้น เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าชาร์จจับกุมตัวนำส่ง รพ.ศิริราช อย่างทุลักทุเล
พ.ต.ท. เทียนชัย คามะปะโส รอง ผกก.สน.บางขุนนนท์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนชาวบ้านในละแวกดังกล่าวไม่มีใครเคยเห็นพระวิชัย มาก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบทราบเพียงว่า พระวิชัย เป็นพระลูกวัดศรีศรัทธาวารี ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ แต่เดินทางไปพำนักอยู่ที่วัดสระบัว ซึ่งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน และมีประวัติย้ายวัดมาแล้วหลายครั้ง ส่วนเรื่องที่เจ้าตัวเดินทางมากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อไหร่ และมาเพื่อทำธุระใดนั้น ยังไม่มีใครทราบ โดยตอนนี้ตนสามารถติดต่อญาติของพระวิชัย ได้แล้ว และทางญาติได้ให้ข้อมูลมาว่า พระวิชัย เคยมีประวัติเป็นโรคลมชัก แต่ไม่ทราบว่าเคยมีประวัติเสพยาเสพติดหรือไม่
พ.ต.ท.เทียนชัย กล่าวต่อว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ช่วยกันนำตัวพระวิชัยส่ง รพ.ศิริราช นั้น พระวิชัย ยังคงมีอาการคลุ้มคลั่ง คล้ายคนเมายาเสพติด ทีมแพทย์กว่า 10 คน ต้องทำการล็อกตัว และวางยาสลบ ก่อนนำตัวเข้าห้องผ่าตัด เพื่อช่วยชีวิตจนขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น.ร.ต.อ.พรชัย ศรีมูล ร้อยเวร สน.บางขุนนนท์ รับแจ้งมีเหตุพระภิกษุคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีดไล่แทงชาวบ้านมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย บริเวณสี่แยกบางขุนนนท์ ตัดถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม.จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราวุธ จิตต์ระเบียบ ผกก.สน.บางขุนนนท์ พ.ต.ท.เทียนชัย คามะปะโส รอง ผกก.สนบางขุนนนท์ แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบริเวณแยกบางขุนนนท์ ห่างจากป้อมจราจรประมาณ 5 เมตร เจ้าหน้าที่พบศพนายสุนทร หอมพวงภู่ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 15 หมู่ 7 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาล นุ่งกางเกงขาสั้นสีเขียว มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมที่บริเวณหน้าอก ท้อง ท้ายทอย แผ่นหลังและลำคอ รวมกว่า 20 แผล ใกล้กันยังพบย่ามพระตกอยู่ 1 ใบ ตรวจสอบภายในพบสูจิบัตรประจำตัวพระวิชัย ฐิตสีโล สมุดบัญชีเงินฝาก ธ.กสิกรไทย 1 เล่ม เลขที่บัญชีธนาคารอีก 3 ธนาคาร ซองเงินรับบริจาค ด้านหน้าเขียนรายชื่อลูกหนี้อีกกว่า 10 ราย นอกจากนี้ ยังมีเบอร์โทรศัพท์วัดต่างๆ ห่างจากจุดพบศพแรกประมาณ 2 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีชมพู หมายเลขทะเบียน บษม 364 กทม.ล้มคว่ำอยู่ ใกล้กันพบมีดพับความยาวประมาณ 4 นิ้ว ตกอยู่อีก 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย พลเมืองดีนำส่งที่ รพ.ศิริราช ไปก่อนหน้านี้ คือ นายสมาน อินนุ อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.ของบริษัท บาจา เจ้าของรถ จยย.อยู่บ้านเลขที่ 6 แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม.มีบาดแผลถูกอาวุธมีดปาดเข้าที่ลำคอเป็นแผลลึกจนตัดหลอดลม และที่หน้าท้อง รวม 2 แห่ง ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วนอีกรายเป็นพระภิกษุ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุชื่อ พระวิชัย ฐิตสีโล อายุ 37 ปี พระลูกวัดศรีศรัทธาวารี ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ มีบาดแผลลึกที่หน้าท้องจนไส้ทะลักออกมาด้านนอก
สอบสวน นายโรย สุยะยอด อายุ 58 ปี พ่อค้าขายพวงมาลัย อยู่บ้านเลขที่ 7/1147 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 06.00 น.ขณะที่ตนกำลังตั้งโต๊ะขายของก็มีชาวบ้านเดินมาบอกให้ช่วยไปดูพระภิกษุเป็นลมหมดสติ อยู่บนฟุตปาธหัวมุมถนนบางขุนนนท์ ตนจึงรีบเดินไปดูพบพระวิชัย นอนหงายจมกองเลือดหมดสติอยู่ โดยในมือข้างซ้ายถือมีดพับปลายแหลม ยาวประมาณ 4 นิ้วอยู่ด้วย ตนจึงบอกให้ชาวบ้านโทรแจ้งตำรวจ เนื่องจากยังไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อพระวิชัย ได้ยินว่า ชาวบ้านจะโทรแจ้งตำรวจ ก็รีบลุกขึ้น ทำตาขวางใส่ พร้อมแสดงอาการคลุ้มคลั่ง ทำให้ตนและชาวบ้านตกใจ จนต้องรีบวิ่งหนี
“จังหวะนั้น นายสุนทร ผู้ตายกำลังเดินสวนมา และกำลังจะข้ามถนนตรงทางม้าลายพอดี พระวิชัย ซึ่งกำลังคลุ้มคลั่ง จึงได้ตรงปรี่เข้าไปล็อกคอ นายสุนทร แล้วใช้มีดกระหน่ำแทงไม่ยั้งจนนายสุนทร ทรุดฮวบลงกับพื้นแล้วเสียชีวิตในทันที” นายโรย เล่าเหตุการณ์
นายโรย กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น พระวิชัย ยังคลุ้มคลั่งหนักกว่าเดิม โดยวิ่งถือมีดตรงปรี่เข้าไปจ้วงแทงเข้าที่ท้อง และลำคอของ นายสมาน ซึ่งกำลังจอดรถติดไฟแดงอยู่บริเวณแยกดังกล่าวจนรถล้มคว่ำลง แล้วยังเดินควงอาวุธมีดเล่มเดียวกันพร้อมร้องโวยวาย ให้ชาวบ้านเข้ามาดูลำไส้ตน ซึ่งทะลักออกมา จนเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที พระวิชัย ก็เริ่มอ่อนแรงในขณะที่บาดแผลบริเวณหน้าท้อง ซึ่งคาดว่าเจ้าตัวน่าจะทำร้ายตัวเอง เริ่มมีลำไส้ทะลักออกมามากขึ้น เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าชาร์จจับกุมตัวนำส่ง รพ.ศิริราช อย่างทุลักทุเล
พ.ต.ท. เทียนชัย คามะปะโส รอง ผกก.สน.บางขุนนนท์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนชาวบ้านในละแวกดังกล่าวไม่มีใครเคยเห็นพระวิชัย มาก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบทราบเพียงว่า พระวิชัย เป็นพระลูกวัดศรีศรัทธาวารี ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ แต่เดินทางไปพำนักอยู่ที่วัดสระบัว ซึ่งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน และมีประวัติย้ายวัดมาแล้วหลายครั้ง ส่วนเรื่องที่เจ้าตัวเดินทางมากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อไหร่ และมาเพื่อทำธุระใดนั้น ยังไม่มีใครทราบ โดยตอนนี้ตนสามารถติดต่อญาติของพระวิชัย ได้แล้ว และทางญาติได้ให้ข้อมูลมาว่า พระวิชัย เคยมีประวัติเป็นโรคลมชัก แต่ไม่ทราบว่าเคยมีประวัติเสพยาเสพติดหรือไม่
พ.ต.ท.เทียนชัย กล่าวต่อว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ช่วยกันนำตัวพระวิชัยส่ง รพ.ศิริราช นั้น พระวิชัย ยังคงมีอาการคลุ้มคลั่ง คล้ายคนเมายาเสพติด ทีมแพทย์กว่า 10 คน ต้องทำการล็อกตัว และวางยาสลบ ก่อนนำตัวเข้าห้องผ่าตัด เพื่อช่วยชีวิตจนขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
