เริ่มตั้งแต่ "เสธ.แดง" หรือพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายทหารที่กองทัพบกแต่งตั้งให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นเชิงข่มขู่ จะมีเหตุระเบิดรายวันในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา มีกาารก่อเหตุบึ้มพันธมิตรฯอย่างต่อเนื่อง จนต้องสังเวยเลือด - ชีวิต กับพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์นรกไปแล้ว 1 ศพ บาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัสอีกหลายราย
วันที่ 16 กันยายน 2551 เวลาประมาณ 14.00 น. "พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล" หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้ป่วนแปี้ยนอยู่แถวร้านโรตีมะตะบะ ถนนพระอาทิตย์ เยื้องกับป้อมพระสุเมรุ ซึ่งใกล้กับสถานที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และ ที่ตั้งของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งการปรากฎตัวของ เสธ.แดงครั้งนี้ได้ประกาศชัดเจนจะต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และจะมีเหตุระเบิดมีเหตุการรุนแรงรายวัน
วันที่ 8 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 22.00 น. เกิดเหตุระเบิดป้อมตำรวจริมคลองผดุงฯ ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ แต่ไม่มีคนเจ็บ - คนตาย
เวลา 01.00 น. เกิดเหตุลอบวางระเบิดที่แยกวัดเบญจมบพิตร แถวพุ่มไม้ริมรั้วสนามม้านางเลิ้ง ถนนพระราม 5 มุ่งหน้าสะพานชมัยมรุเชฐ ขณะที่ “บิ๊กเบื๊อก” พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ไม่ให้ตำรวจพักผ่อน
วันที่ 10 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 12.50 น. พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.นางเลิ้ง ได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยที่บริเวณหน้าบ้านพิษณุโลก ถนนพิษณุโลก แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กทม. โดยวัตถุต้องสงสัย เป็นกระป๋องกาแฟสำเร็จรูป 2 กระป๋อง พันด้วยเทปกาว และสายไฟ ไปวางไว้ที่หน้าบ้านพิษณุโลก ตำรวจต้องใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลาย ตร.สรุป น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์
วันที่ 21 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 01.00 น. เกิดเหตุระเบิดในบริเวณบ้านพักประมุขศาลปกครอง “อักขราทร จุฬารัตน” โดยมือมืดปาระเบิดใส่ ไม่มีคนเจ็บ ตำรวจ คาดแค่สร้างสถานการณ์ พร้อมสั่งชุดสืบสวนเร่งล่า พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั่วพื้นที่เผื่อจับภาพได้
วันที่ 30 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 00.30 น. เกิดเหตุลอบปาระเบิดใส่บ้าน “จรัญ ภักดีธนากุล” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ย่านคลองตัน จุดเกิดเหตุอยู่ที่สวนต้นไม้ภายในบ้าน แรงระเบิดทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์-กระจกแตก เจ้าตัวและครอบครัวปลอดภัย และไม่ติดใจเอาความ และในวันเดียวกัน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ปิดปากเงียบไม่แสดงความคิดเห็น หรือให้รายละเอียดความคืบหน้าใดกับการติดตามจับคนร้ายเหตุปาระเบิดใส่การ์ดพันธมิตรฯ อ้างต้องรอดูกล้องวงจรปิดจากบริเวณรอบที่เกิดเหตุก่อน
วันเดียวกัน“เสธ.แดง” ให้สัมภาษณ์ข่มขู่ ว่า จากนี้ไปจะมีคนเสียชีวิตทุกวัน ขณะที่ “พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ” ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฐานะโฆษก สตช. บอกว่า เป็นคำพูดลอย ๆ ต้องนำข่าวต่างๆ มาวิเคราะห์ การพูดของคนใดคนหนึ่ง อาจทำให้เกิดความตกใจ เจ้าหน้าที่ก็ต้องดูข้อเท็จจริง เตรียมการดำเนินการไปตามแผนการทำงาน
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2551 เวลาประมาณ 02.00 น.คนร้ายนั่งรถเบนซ์สีดำ ทะเบียน 4444 โยนระเบิดควันใกล้สะพานมัฆวานฯ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจอ้างว่าเป็นแค่ประทัดเล็กๆไม่มีการปาระเบิด และเชื่อว่าเป็นการก่อกวน
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 02.00 น.กลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คน ขับรถเก๋งเข้ามายังบริเวณสะพานมัฆวาน และชูนิ้วกลางให้การ์ดพันธมิตรฯ แล้วยิงปืนเข้าใส่ หลังจากนั้นพยายามขับรถหนีแต่ถูกสกัดจับไว้ได้
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 02.00 น.มีเสียงระเบิดบริเวณเชิงสะพานอรทัย ห่างจากแผงเหล็กกั้นบริเวณชุมนุมของพันธมิตรฯ เพียง 3 เมตร แรงระเบิดทำให้พื้นถนนเป็นหลุมลึก 2.5 เซนติเมตร ขวดน้ำแตกกระจาย มีรอยสะเก็ดระเบิดที่ต้นไม้และกระสอบทราย เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นการยิงระเบิดจากด้านนอก เพราะบริเวณเกิดเหตุไม่มีผู้ใดเห็นผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 01.00 น. เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้ง บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้านฝั่งหน้าตึกอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และบริเวณถนนเรียบคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างรั้วกระทรวงศึกษาธิการในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะเกิดเหตุระเบิดมีกลุ่มควันสีขาวขนาดใหญ่และมีเสียงดังทั่วบริเวณเสียงคล้ายประทัดยักษ์ ภายหลังจากการ์ดอาสาพันธมิตรฯ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ ไม่พบเห็นความเสียหาย กลุ่มคนร้าย หรือสะเก็ดระเบิดแต่อย่างใด เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี และต้องการสร้างสถานการณ์ก่อกวนการชุมนุมของพันธมิตรเท่านั้น
ต่อมาเวลาประมาณ 04.00 น.มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด บริเวณถนนข้างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ติดกับโรงเรียนเบญจมบพิตร เมื่อการ์ดพันธมิตรฯ เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมไปถึงไม่พบร่องรอยวัตถุที่คนร้ายใช้ทำระเบิดแต่อย่างใด
ต่อมามีเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด บริเวณถนนอีกด้านของคลองตรงข้ามกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม โดยการ์ดพันธมิตรฯได้ตะโกนให้ทุกคนหมอบลง ขณะผู้สื่อข่าววิ่งหนีหลบเข้าไปภายใน ป.ป.ช.ทั้งนี้ เสียงที่ได้ยินคล้ายเสียงปืนและระเบิด ยังไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 04.40 น. คนร้ายปาระเบิดเข้าใส่เต็นท์นอนนักรบอิสระ 9 ในที่ชุมนุมของพันธมิตรฯบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรี เยื้องเวทีปราศรัยประมาณ 250 เมตร แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึกประมาณ 10 ซม. กว้าง 20 ซม. มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือนายเมธี อู่ทอง มีบาดแผลบริเวณหน้าผากด้านซ้าย และบริเวณหน้าอก ถูกส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่ รพ.วชิระพยาบาลและย้ายไปที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ การ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ ขณะที่การสอบสวนของตำรวจยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
11 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 12.00 น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผบช.น. บอกเหตุบึ้มข้างเวทีพันธมิตรฯ ไม่ใช่การยิงจากรอบนอกเข้ามา แต่เป็นระเบิดขึ้นภายใน คาดไม่ใช่ระเบิดเอ็ม 29 ตามที่หลายฝ่ายให้สัมภาษณ์ ส่วนจะเป็นระเบิดเอ็ม 79 หรือไม่นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากอานุภาพทำลายล้างต้องมากกว่านี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากพันธมิตรฯ ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปภายใน
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา 14.00 น.ที่ สน.นางเลิ้ง นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รอง ผกก.สส.สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.ขัตติยะ หรือ เสธ.แดง สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ข้อหา อั้งยี่ ซ่องโจร คุกคามพันธมิตรฯ ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209, 210, 211, 212, 213, 215, 221, 222 และ 309 โดยนำเอกสารสำเนาภาพข่าวจากเว็บไซต์ต่างๆ มามอบไว้เป็นหลักฐานด้วย เนื่องจาก นายวีระ มองว่าหลังการให้สัมภาษณ์ของเสธ.แดง และทุกครั้งที่เสธ.แดงให้สัมภาษณ์จะต้องเกิดเหตุระเบิดทุกครั้ง
ล่าสุด วันที่ 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา 03.25 น. คนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่เต็นท์ของผู้ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลก่อนเกิดการระเบิดขึ้น ทำให้เต็นท์มีรู้กว้างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 ซม. จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากเวทีปราศรัยเพียงแค่ 15 เมตร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บทันที จำนวน 23 ราย อาการสาหัส 2 ราย และเสียชีวิต 1 รายในเวลาต่อมา คือ นายเจนกิจ กลัดสาคร ชาวจังหวัดชลบุรี ในจำนวนผู้บาดเจ็บมีช่างภาพของ ASTV คือนายนพพร สุขราม รวมอยู่ด้วย
โดยสรุปเหตุการณ์ลอบทำร้ายพันธมิตรฯ ด้วยการขว้างและยิงระเบิด ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ อีกทั้งยังปล่อยให้มีการก่อเหตุอย่างสะดวก ก่อนที่จะออกมาให้สัมภาษณ์ในภายหลังในลักษณะกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ เป็นผู้สร้างสถานการณ์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเองกลับไม่ได้มีการสอบสวนหรือดำเนินการติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีแต่อย่างใด
เหตุการณ์ต่างวันต่างเวลาที่เกิดการระเบิดขึ้น รัฐบาล และตำรวจย่อมปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ส่วนเสธ.แดง จะเกี่ยวข้อง และถูกเรียกตัวไปสอบสวนด้วยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่"ตำรวจ" จะเบิกตาโพรงทั้งสองข้าง หรือจะหรี่ตาข้างเดียว เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทุกๆครั้ง
วันที่ 16 กันยายน 2551 เวลาประมาณ 14.00 น. "พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล" หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้ป่วนแปี้ยนอยู่แถวร้านโรตีมะตะบะ ถนนพระอาทิตย์ เยื้องกับป้อมพระสุเมรุ ซึ่งใกล้กับสถานที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และ ที่ตั้งของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งการปรากฎตัวของ เสธ.แดงครั้งนี้ได้ประกาศชัดเจนจะต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และจะมีเหตุระเบิดมีเหตุการรุนแรงรายวัน
วันที่ 8 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 22.00 น. เกิดเหตุระเบิดป้อมตำรวจริมคลองผดุงฯ ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ แต่ไม่มีคนเจ็บ - คนตาย
เวลา 01.00 น. เกิดเหตุลอบวางระเบิดที่แยกวัดเบญจมบพิตร แถวพุ่มไม้ริมรั้วสนามม้านางเลิ้ง ถนนพระราม 5 มุ่งหน้าสะพานชมัยมรุเชฐ ขณะที่ “บิ๊กเบื๊อก” พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ไม่ให้ตำรวจพักผ่อน
วันที่ 10 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 12.50 น. พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.นางเลิ้ง ได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยที่บริเวณหน้าบ้านพิษณุโลก ถนนพิษณุโลก แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กทม. โดยวัตถุต้องสงสัย เป็นกระป๋องกาแฟสำเร็จรูป 2 กระป๋อง พันด้วยเทปกาว และสายไฟ ไปวางไว้ที่หน้าบ้านพิษณุโลก ตำรวจต้องใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลาย ตร.สรุป น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์
วันที่ 21 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 01.00 น. เกิดเหตุระเบิดในบริเวณบ้านพักประมุขศาลปกครอง “อักขราทร จุฬารัตน” โดยมือมืดปาระเบิดใส่ ไม่มีคนเจ็บ ตำรวจ คาดแค่สร้างสถานการณ์ พร้อมสั่งชุดสืบสวนเร่งล่า พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั่วพื้นที่เผื่อจับภาพได้
วันที่ 30 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 00.30 น. เกิดเหตุลอบปาระเบิดใส่บ้าน “จรัญ ภักดีธนากุล” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ย่านคลองตัน จุดเกิดเหตุอยู่ที่สวนต้นไม้ภายในบ้าน แรงระเบิดทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์-กระจกแตก เจ้าตัวและครอบครัวปลอดภัย และไม่ติดใจเอาความ และในวันเดียวกัน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ปิดปากเงียบไม่แสดงความคิดเห็น หรือให้รายละเอียดความคืบหน้าใดกับการติดตามจับคนร้ายเหตุปาระเบิดใส่การ์ดพันธมิตรฯ อ้างต้องรอดูกล้องวงจรปิดจากบริเวณรอบที่เกิดเหตุก่อน
วันเดียวกัน“เสธ.แดง” ให้สัมภาษณ์ข่มขู่ ว่า จากนี้ไปจะมีคนเสียชีวิตทุกวัน ขณะที่ “พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ” ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฐานะโฆษก สตช. บอกว่า เป็นคำพูดลอย ๆ ต้องนำข่าวต่างๆ มาวิเคราะห์ การพูดของคนใดคนหนึ่ง อาจทำให้เกิดความตกใจ เจ้าหน้าที่ก็ต้องดูข้อเท็จจริง เตรียมการดำเนินการไปตามแผนการทำงาน
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2551 เวลาประมาณ 02.00 น.คนร้ายนั่งรถเบนซ์สีดำ ทะเบียน 4444 โยนระเบิดควันใกล้สะพานมัฆวานฯ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจอ้างว่าเป็นแค่ประทัดเล็กๆไม่มีการปาระเบิด และเชื่อว่าเป็นการก่อกวน
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 02.00 น.กลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คน ขับรถเก๋งเข้ามายังบริเวณสะพานมัฆวาน และชูนิ้วกลางให้การ์ดพันธมิตรฯ แล้วยิงปืนเข้าใส่ หลังจากนั้นพยายามขับรถหนีแต่ถูกสกัดจับไว้ได้
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 02.00 น.มีเสียงระเบิดบริเวณเชิงสะพานอรทัย ห่างจากแผงเหล็กกั้นบริเวณชุมนุมของพันธมิตรฯ เพียง 3 เมตร แรงระเบิดทำให้พื้นถนนเป็นหลุมลึก 2.5 เซนติเมตร ขวดน้ำแตกกระจาย มีรอยสะเก็ดระเบิดที่ต้นไม้และกระสอบทราย เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นการยิงระเบิดจากด้านนอก เพราะบริเวณเกิดเหตุไม่มีผู้ใดเห็นผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 01.00 น. เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้ง บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้านฝั่งหน้าตึกอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และบริเวณถนนเรียบคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างรั้วกระทรวงศึกษาธิการในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะเกิดเหตุระเบิดมีกลุ่มควันสีขาวขนาดใหญ่และมีเสียงดังทั่วบริเวณเสียงคล้ายประทัดยักษ์ ภายหลังจากการ์ดอาสาพันธมิตรฯ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ ไม่พบเห็นความเสียหาย กลุ่มคนร้าย หรือสะเก็ดระเบิดแต่อย่างใด เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี และต้องการสร้างสถานการณ์ก่อกวนการชุมนุมของพันธมิตรเท่านั้น
ต่อมาเวลาประมาณ 04.00 น.มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด บริเวณถนนข้างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ติดกับโรงเรียนเบญจมบพิตร เมื่อการ์ดพันธมิตรฯ เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมไปถึงไม่พบร่องรอยวัตถุที่คนร้ายใช้ทำระเบิดแต่อย่างใด
ต่อมามีเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด บริเวณถนนอีกด้านของคลองตรงข้ามกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม โดยการ์ดพันธมิตรฯได้ตะโกนให้ทุกคนหมอบลง ขณะผู้สื่อข่าววิ่งหนีหลบเข้าไปภายใน ป.ป.ช.ทั้งนี้ เสียงที่ได้ยินคล้ายเสียงปืนและระเบิด ยังไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 04.40 น. คนร้ายปาระเบิดเข้าใส่เต็นท์นอนนักรบอิสระ 9 ในที่ชุมนุมของพันธมิตรฯบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรี เยื้องเวทีปราศรัยประมาณ 250 เมตร แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึกประมาณ 10 ซม. กว้าง 20 ซม. มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือนายเมธี อู่ทอง มีบาดแผลบริเวณหน้าผากด้านซ้าย และบริเวณหน้าอก ถูกส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่ รพ.วชิระพยาบาลและย้ายไปที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ การ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ ขณะที่การสอบสวนของตำรวจยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
11 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 12.00 น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผบช.น. บอกเหตุบึ้มข้างเวทีพันธมิตรฯ ไม่ใช่การยิงจากรอบนอกเข้ามา แต่เป็นระเบิดขึ้นภายใน คาดไม่ใช่ระเบิดเอ็ม 29 ตามที่หลายฝ่ายให้สัมภาษณ์ ส่วนจะเป็นระเบิดเอ็ม 79 หรือไม่นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากอานุภาพทำลายล้างต้องมากกว่านี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากพันธมิตรฯ ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปภายใน
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา 14.00 น.ที่ สน.นางเลิ้ง นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รอง ผกก.สส.สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.ขัตติยะ หรือ เสธ.แดง สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ข้อหา อั้งยี่ ซ่องโจร คุกคามพันธมิตรฯ ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209, 210, 211, 212, 213, 215, 221, 222 และ 309 โดยนำเอกสารสำเนาภาพข่าวจากเว็บไซต์ต่างๆ มามอบไว้เป็นหลักฐานด้วย เนื่องจาก นายวีระ มองว่าหลังการให้สัมภาษณ์ของเสธ.แดง และทุกครั้งที่เสธ.แดงให้สัมภาษณ์จะต้องเกิดเหตุระเบิดทุกครั้ง
ล่าสุด วันที่ 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา 03.25 น. คนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่เต็นท์ของผู้ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลก่อนเกิดการระเบิดขึ้น ทำให้เต็นท์มีรู้กว้างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 ซม. จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากเวทีปราศรัยเพียงแค่ 15 เมตร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บทันที จำนวน 23 ราย อาการสาหัส 2 ราย และเสียชีวิต 1 รายในเวลาต่อมา คือ นายเจนกิจ กลัดสาคร ชาวจังหวัดชลบุรี ในจำนวนผู้บาดเจ็บมีช่างภาพของ ASTV คือนายนพพร สุขราม รวมอยู่ด้วย
โดยสรุปเหตุการณ์ลอบทำร้ายพันธมิตรฯ ด้วยการขว้างและยิงระเบิด ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ อีกทั้งยังปล่อยให้มีการก่อเหตุอย่างสะดวก ก่อนที่จะออกมาให้สัมภาษณ์ในภายหลังในลักษณะกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ เป็นผู้สร้างสถานการณ์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเองกลับไม่ได้มีการสอบสวนหรือดำเนินการติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีแต่อย่างใด
เหตุการณ์ต่างวันต่างเวลาที่เกิดการระเบิดขึ้น รัฐบาล และตำรวจย่อมปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ส่วนเสธ.แดง จะเกี่ยวข้อง และถูกเรียกตัวไปสอบสวนด้วยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่"ตำรวจ" จะเบิกตาโพรงทั้งสองข้าง หรือจะหรี่ตาข้างเดียว เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทุกๆครั้ง
