xs
xsm
sm
md
lg

กฎหมายอ่อนหรือตำรวจแม้วเมินจับ “เสธ.แดง”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

วันที่ 17 พ.ย.2551 ตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย “วีระ สมความคิด” ได้เข้าแจ้งตำรวจจับ “พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล” หรือที่หลายคนรู้จักพฤติกรรมชั่วของคนผู้นี้ในนาม “เสธ.แดง” ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209, 210, 211, 212, 213, 215, 221, 222 และ 309 ข้อหา อั้งยี่ ซ่องโจร คุกคามพันธมิตรฯ โดยระบุชัดว่า หลังการให้สัมภาษณ์ของ “เสธ.แดง” ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.51 และทุกครั้ง มักเกิดระเบิด และการ์ดพันธมิตรฯถูกทำร้ายเสมอ

จากการประมวลและลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด มักปรากฎภาพชัดเจนว่า “เสธ.แดง” น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงในการใช้ระเบิดที่บุคคลธรรมดา หรือประชาชนทั่วไปจะครอบครองระเบิดแต่ละชนิดที่มีการทำร้ายล้างรุนแรงได้ เนื่องจากไม่ได้หาซื้อได้จากท้องตลาดทั่วไป นอกจากในคลังอาวุธหน่วยงานราชการสั่งซื้อไว้ทำสงครามเท่านั้น

ล่าสุด “เสธ.แดง” ยังออกมาพล่ามให้สัมภาษณ์ในเชิงข่มขู่ด้วยว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่ออกจากทำเนียบรัฐบาล ภายในวันที่ 19 พ.ย.51 จะเจออาวุธหนักและมีระเบิดอีกแน่นอน และยังขู่ด้วยว่าหากเจ้าตัวได้ทำงานให้กับ กอ.รมน.ก็จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน และ จับ 5 แกนนำผูกห้อยกับเฮลิคอปเตอร์ไปสอบสวนที่เกาะตะรุเตา เป็นเวลา 6 เดือน”

โดยการกล่าวข่มขู่เช่นนี้ในด้านกฎหมายก็สามารถเอาผิดกับบุคคลผู้นั้นได้เช่นกัน แต่ทำไมผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จึงนิ่ง และเพิกเฉย ไม่ดูดำดูดีกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนพันธมิตรฯ แต่กลับให้ (คนบ้า) ผู้นี้ยังลอยนวล ป่าวประกาศ ข่มขู่ ประชาชนผู้รักชาติไปวันๆ พร้อมกับมีเหตุการณ์ รุนแรงเกิดขึ้นทุกวันประกอบกันไปด้วย

แม้ว่า เรื่องนี้ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ผบ.ทบ.จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่มีความเกรงกลัว แต่ดูเหมือนเป็นการสอบสวนเพื่อลดแรงกดดันทางสังคมเท่านั้น อีกทั้งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนก็เป็นเสมือนสีสรรที่ทำไปเพื่อยื้อเรื่องให้มีแรงเสียดทานทางการเมืองน้อยลง เพื่อเป็นการกลบกระแสบางอย่างให้ผ่อนคลายลง

หากย้อนไล่เลียงเหตุการณ์ที่ส่อไปในทางจะเกิดเหตุรุนแรง ก่อนมีการปาระเบิดก่อความวุ่นวาย จะเห็นได้ว่า เมื่อ วันที่ 16 ก.ย.51 มีประชาชนผู้หวังดี แจ้งว่าได้พบเห็น “เสธ.แดง” มีพิรุธป้วนเปี้ยนใกล้สำนักงาน “ASTV-ผู้จัดการ” ทำทีนั่งกินโรตีมะตะบะ อยู่ถนนพระอาทิตย์ เยื้องป้อมพระสุเมรุ เฝ้าสังเกตการณ์ คาดอาจก่อเหตุที่ไม่คาดคิดได้

ซึ่งที่ผ่านมา “พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง” ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า อยู่ฝ่ายเดียวกับกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในนามแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และก่อนหน้านี้ วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดป้อมตำรวจ บริเวณเชิงสะพานวิศสุกรรมนฤมาน ริมคลองผดุงกรุงเกษม แยกประชาเกษม ถ.กรุงเกษม “เสธ.แดง” ได้เดินทางมาตรวจดูที่เกิดเหตุระเบิดพร้อมกับนายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

จากนั้นวันที่ 2 ก.ย. “เสธ.แดง” ได้ร่วมกับกลุ่ม นปช.นำม็อบมาปะทะกับพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวาน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต สุดท้ายก็นำไปสู่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อหวังสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ แต่ไม่สำเร็จ จากนั้นก็ได้เงียบหายไป จนกระทั่งมีคนพบเห็น เสธ.แดง ปรากฏตัว ซึ่งการปรากฏตัวในครั้งนี้อาจจะก่อเหตุที่ไม่คาดคิดก็ได้

วันที่ 7 ต.ค. “เสธ.แดง” โผล่ บช.น.โต้ “พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา” รอง ผบช.น.ระบุ นักรบพระเจ้าตากรักชาติ ไม่นิยมความรุนแรง รวมกลุ่มกันด้วยใจรักและพร้อมเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน โดย เสธ.แดง บอกว่า กลุ่มนักรบพระเจ้าตากที่ตนฝึกฝนกว่า 300 คน ไม่นิยมความรุนแรง เปรียบเสมือนผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่มารวมตัวกันด้วยใจ ไม่คิดก่อเหตุรุนแรงและไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง

วันที่ 8 ต.ค.เวลา 22.00 น.มือมืดวางระเบิดป้อมตำรวจริมคลองผดุงฯ ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ ซ้ำรอบสอง แต่ไม่รุนแรงเท่าคราวที่แล้ว ไม่มีคนเจ็บ-ตายเช่นเดิม ส่วนอีกจุดลอบวางบึ้มที่แยกวัดเบญฯ ในเวลาประมาณ 01.00 น.ทำพุ่มไม้ริมรั้งสนามม้านางเลิ้ง แยกวัดเบญจมบพิตร ถนนพระราม 5 มุ่งหน้าสะพานชมัยมรุเชฐ กระจุย ด้าน “บิ๊กเบื๊อก” พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ไม่ให้ตำรวจพักผ่อน แต่จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ บอก ก่อนเกิดเหตุ เห็นชาย 2 คนขี่รถ จยย.ไม่ทราบป้ายทะเบียน มาถึงจุดเกิดเหตุ คนขี่ได้จอดให้คนนั่งซ้อนท้ายนำวัตถุบางอย่างไปวางในพุ่มไม้ก่อนจะจุดไฟแช็กที่ จากนั้นก็ขี่รถ จยย.มุ่งไปทางทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะก็เกิดระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ทำให้พุ่มไม้และต้นหญ้ากระจุยกระจายไปทั่วบริเวณ

วันที่ 10 ต.ค.มีมือมืดวางวัตถุต้องสงสัย เป็นกระป๋องกาแฟสำเร็จรูป 2 กระป๋อง พันด้วยเทปกาว และสายไฟ ไปวางไว้ที่หน้าบ้านพิษณุโลก ตำรวจต้องใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลาย ตร.สรุป น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์

วันที่ 21 ต.ค.เวลา 01.00 น.เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อบ้านพักประมุขศาลปกครอง “อักขราทร จุฬารัตน” ถูกมือมืดปาระเบิดใส่ โชคดีไม่มีคนเจ็บ ตำรวจคาดแค่สร้างสถานการณ์ พร้อมสั่งชุดสืบสวนเร่งล่า พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั่วพื้นที่เผื่อจับภาพได้

วันที่ 30 ต.ค.เวลา 00.30 น.มือมืดสร้างสถานการณ์ ลอบปาระเบิดใส่บ้าน “จรัญ ภักดีธนากุล” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ย่านคลองตัน ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์-กระจกแตก เจ้าตัวและครอบครัวปลอดภัย และไม่ติดใจเอาความ และในวันเดียวกัน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ปิดปากเงียบไม่แสดงความคิดเห็น หรือให้รายละเอียดความคืบหน้าใดกับการติดตามจับคนร้ายเหตุปาระเบิดใส่การ์ดพันธมิตรฯ อ้างต้องรอดูกล้องวงจรปิดจากบริเวณรอบที่เกิดเหตุก่อน

วันที่ 30 ต.ค. “เสธ.แดง” ก็ยังไม่หยุดพ่นน้ำลาย ป่าวประกาศให้สัมภาษณ์ข่มขู่ ว่า จากนี้ไปจะมีคนเสียชีวิตทุกวัน ขณะที่ “พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ” ผู้ช่วย ผบ.ตร.ฐานะโฆษก สตช. บอกว่า เป็นคำพูดลอย ๆ ซึ่งหน่วยข่าวกรองต่างๆ ทั้งทหาร-ตำรวจ มีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องนำข่าวต่างๆ มาวิเคราะห์ การพูดของคนใดคนหนึ่ง อาจทำให้เกิดความตกใจ เจ้าหน้าที่ก็ต้องดูข้อเท็จจริง เตรียมการดำเนินการไปตามแผนการทำงาน

วันที่ 4 พ.ย.เวลา 02.00 น.สน.นางเลิ้ง ได้รับแจ้งเหตุระเบิดบริเวณสะพานอรทัย หลังจากสัตว์นรกยังไม่ยอมหยุดลอบกัดกลุ่มพันธมิตรฯ ยังซุ่มปาระเบิดใส่การ์ดพันธมิตรฯ และยังมีชายฉกรรจ์ประมาณ 4-5 คน ปีนข้ามรั้วแนวกั้นของตำรวจบริเวณด้านหลังกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้ามาเปิดฉากยิงปืนใส่กลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนหลายนัด แต่ครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต มีเพียงกิ่งไม้หัก กระสอบทราย-ขวดน้ำแตก

วันที่ 11 พ.ย. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผบช.น. บอกเหตุบึ้มข้างเวทีพันธมิตรฯ ไม่ใช่การยิงจากรอบนอกเข้ามา แต่เป็นระเบิดขึ้นภายใน คาดไม่ใช่ระเบิดเอ็ม 29 ตามที่หลายฝ่ายระบุ

ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า จนถึงขณะนี้ได้เกิดเหตุการลอบทำร้ายพันธมิตรฯ แบบรายวัน โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ อีกทั้งยังปล่อยให้มีการก่อเหตุอย่างสะดวก ก่อนที่จะออกมาให้สัมภาษณ์ในภายหลังในลักษณะกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ เป็นผู้สร้างสถานการณ์ โดยที่ไม่ได้มีการสอบสวนหรือดำเนินการติดตามตัวผู้กระทำความผิด

ท้ายสุด คนที่อยู่เบื้องหลังการก่อกวน สร้างความวุ่นวายในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันนี้ ตำรวจก็เห็นภาพชัดเจนอยู่แล้วว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ใครเป็นผู้ชี้นำให้กระทำ แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับนั่งสมาธิ วางตนนิ่งเฉย ต่อเหตุการณ์ ปล่อยให้ “เสธ.แดง” พันธุ์หมาบ้า วาดหลวดลายสร้างวีรกรรมที่ทำร้ายพันธมิตรฯ อยู่เมื่อเชื่อวัน อีกทั้ง ฝ่ายทหารก็ทำทีออกมาตั้งกรรมการสอบวินัย “เสธ.แดง” เท่านั้น แต่ผลสุดท้ายก็ไม่มีการสั่งลงโทษคนที่อยู่ภายใต้กฎหมายได้ เพราะเหนือกว่านั้นทุกฝ่ายเกรงกลัว “พ่อแม้ว” และตกเป็นทาสน้ำเงินของ “ทักษิณ ชินวัตร” จนถึงกับต้องให้ประเทศจะฉิบหายเช่นไร ไม่เคยรู้สึกถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง...

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผลเสธแดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กับ นปก.
นายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร(รูปในวงกลม) วันไปตรวจระเบิดกับ เสธ.แดง
ภาพ เมื่อ 2 ก.ย. 51 นปก. บุกปะทะ พันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานฯ
มือมืดลอบปาบึ้ม ที่ตำรวจบอกสร้างสถานการณ์ไม่หยุดหย่อน

รูโหว่จากลูกระเบิดที่ตำรวจอ้างว่าเกิดจากภายในทำเนียบ
บางส่วนของพันธมิตรฯ ที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด

สภาพประตูบ้าน จรัญ หลังถูกมือดีปาระเบิด
กำลังโหลดความคิดเห็น