"สนธิ" ย้ำปัญหาของประเทศขณะนี้เป็นปัญหาความมั่นคงของชาติ การทำร้ายราชบัลลังก์โดยระบอบ "ทักษิณ" ไม่ใช่เรื่องการเมือง เรียกร้องทหารระดับผู้นำกองทัพปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและคำถวายสัตย์ฯ หยุดการใช้อำนาจที่ผิดของรัฐบาล ถ้ายังนิ่งเฉยถือว่า "ตระบัตสัตย์" พันธมิตรฯติดสปอตไลต์รอบทำเนียบฯป้องกันแก๊งป่วนปาระเบิด ย้ำเงื่อนไขเจรจารัฐบาลต้องลาออก-ไม่แก้ รธน.ความขัดแย้งยุติแน่ พร้อมเตรียมทำสมุดปกขาวการเมืองใหม่เผยแพร่ประชาชนทั่วประเทศ "พธม.ขอนแก่น"รวมพลวันนี้บี้ ผบ.ทบ.ปกป้องสถาบันกษัตริย์ในฐานะทหารของพระเจ้าแผ่นดิน ชี้ "ผู้นำเหล่าทัพกองทัพไทย" ค่อนข้างเมินเฉยกับพฤติกรรมคนในระบอบทักษิณ ที่ลบหลู่จาบจ้วงเบื้องสูงต่อเนื่อง
วานนี้ (4 พ.ย.) เวลา 21.00 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรพันธมิตรฯประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล โดยย้ำว่า ปัญหาในเวลานี้ไม่ใช่เป็นเรื่องขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงของชาติ เพราะถ้าเรื่องการเมืองสามารถใช้วิธีหาพวกแบบสันติวิธี เหมือนกับพรรคการเมืองหาเสียง หรือถ้าใครไม่ชอบเสื้อแดงแล้วไปหาเสื้อสีอื่นตั้งเวทีหาพวก
นายสนธิ กล่าวว่า มวลชนที่พวกนั้นนำมา (นปช.) เป็นการจัดตั้ง เพราะถ้ามีมวลชนจริงขอท้าให้อยู่ซัก 1-2 เดือนเพื่อพิสูจน์ ดังนั้น มวลชนที่สนามราชมังคลาฯ ถึงเป็นการออกแบบเอาไว้ล่วงหน้าและต้องใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อการข่มขู่ราชบัลลังก์ ซึ่งวันนี้แม้แต่นายทหารใหญ่ก็ยังออกมายอมรับว่ามีการข่มขู่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นภัยต่อราชบัลลังก์
นายสนธิ ยังชี้ให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้มีการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดเวลาต่างกรรมต่างวาระ มีหนังสือ เว็บไซต์ยังคงอยู่ โดยที่ตำรวจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือแม้แต่กรณีของ นายวีระ มุสิกพงษ์ ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตำรวจก็ยังสอบพยานเพิ่ม
แกนนำพันธมิตรฯผู้นี้ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อลดทอนพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ รวมทั้งจะเสนอให้มีการเลือกตั้งนายกฯ โดยตรงเหมือนกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในระบอบสาธารณรัฐมีการโจมตีศาลที่ทำในนามพระปรมาภิไธย มีการทำร้ายประชาชนที่ปกป้องราชบัลลังก์ เรื่องทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เรื่องยกอธิปไตยให้เขมร
นายสนธิ ได้กล่าวถึงหน้าที่ของทหารตามรัฐธรรมนูญว่า ต้องพิทักษ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน แต่กลับปล่อยให้มีการละเมิดอธิปไตย มีการทำร้ายประชาชน ใช้สื่อของรัฐอุ้มชูนักโทษหนีคดี หรือปล่อยให้มวลชนรับจ้างมากดดันพระเจ้าอยู่หัวเพื่อพระราชทานพระอภิยโทษ หรือปล่อยให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อยกเลิกองคมนตรีลดทอนพระราชอำาจ แต่ทหารที่เป็นระดับผู้บัญชาการกลับไม่ได้ทำหน้าที่ดังกล่าว
จากนั้นนายสนธิ ได้อัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อเหล่าทหารที่สวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.50 ที่ทรงเน้นให้สำนึกในความเป็นชาติและรักษาความมั่นคง และต่อมาได้ทรงตรัสต่อคณะของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่ทรงเตือนให้ใช้เงินระมันระวังไม่เช่นนั้นชาติจะล่มจม
นายสนธิ กล่าวถึงคำถวายสัตย์ที่ว่าจะรักษารัฐธรรมนูญ พระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์เจ้า ซึ่งทุกคำมันชัดเจนอยู่แล้ว แต่ทหารไม่ได้ทำตามคำสาบาน
"ผมไม่อยากสอนคุณอนุพงษ์ ในเรื่องของความเป็นกลาง ว่ามีที่มาจาก 2 ลัทธิ คือลัทธิจารวาทเชื่อว่าถ้าหากจะไปถึงนิพพานได้ต้องมีการร่วมเพศจนเสร็จกามกิจก่อน กับอีกลัทธิหนึ่งที่เรียกว่าลัทธิเชนคือต้องทรมานตัวเอง แต่พระพุทธเจ้าทรงบอกว่าต้องใช้สัมมาปัญญา คือทางสายกลาง คือต้องเลือกธรรมก่อนคือความถูกต้องดีงามนั่นแหละคือความเป็นกลาง" นายสนธิ ระบุ และว่า อยากฝากไปถึงทหารทั้งหลายว่าหน้าที่คือป้องกันประเทศ ป้องกันประชาชนและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ
นายสนธิ ย้ำว่าการต่อสู้ของพวกเราไม่ได้ดึงสถาบันลงมาเล่นการเมือง แต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 พ.ย.มันเห็นชัดเจนว่าใครข่มขู่หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งวันนี้ต้องเลือกข้าง ซึ่งเราเลือกข้างความถูกต้องและเรายึดรัฐธรรมนูญ แต่คนในระบอบทักษิณทำลายความมั่นคง สั่นคลอนราชบัลลังก์ ทหารยังมองไม่เห็นอีกหรือ
"ท่าน(ทหาร)ต้องหยุดการใช้อำนาจที่ผิดแบบนี้ เพราะเป็นอำนาจที่ทำลายความมั่นคงของชาติ ถ้ายังนิ่งเฉยถือว่าไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ตระบัตสัตย์ต่อหน้าพระเจ้าอยู่หัว ต่อหน้าธงไชยเฉลิมพล โดยเฉพาะระดับผู้นำกองทัพทั้งหลายต้องตระหนักให้ดี" นายสนธิระบุ
**ซัด"สมชาย"เจ้าเล่ห์สอดไส้แก้ รธน.
ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นกล่าวว่า จากการพบสื่อมวลชนเมื่อเช้าส่วนตัวมองว่าข่าวที่ได้รับความสนใจของประชาชน คือ การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.ชุดที่ 3) เป็นความหวังของรัฐบาลที่ต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งจะมีการแก้บางมาตรา แต่การป้องกันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 นี้เป็นเป้าหมายของเรา เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่งใช้มาได้ไม่นาน อีกทั้งมีคนลงประชามติรัฐถึง 14 ล้าน 7 แสนเสียง
"รัฐธรรมนูญ 50 ไม่ผิด ที่ผิดคือนักการเมือง ดังนั้นเราจึงต้องค้านแต่ เพียงแต่ให้เขาเสนอก็แล้วกัน" พร้อมกัน นี้พล.ต.จำลอง มองว่า นายสมชายไม่อยากได้รัฐธรรมนูญใหม่จริง เพราะแม้มี ส.ส.ร.3 ก็ต้องใช้เวลาอีก 180 วันหรือ 6 เดือน เมื่อถึงช่วงเวลานั้นพรรคร่วมรัฐบาลถูกยุบไปหมดแล้ว" พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า แสดงว่าเขาไม่ได้ต้องการจริง เพียงแต่ต้องการหมกเม็ดในการขอแก้ไขบางมาตราพร้อมกับการแก้ไขมาตรา 291 ซึ่งจะไวมาก นี่คือเหตุผลจริง แต่ไม่กล้าพูดออกมาว่าจะเอามาตราเก่า รวมถึงต้องการแก้ไข 237 เพื่อให้ไม่มีการยุบพรรค หรือมาตรา309 เพื่อไม้ให้ถูกตรวจสอบจากองค์กรอิสระ และมาตรา 190 เพื่อไม่ให้การลงนามระหว่างประเทศต้องผ่านสภา
ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญฉบับหมอเหวงที่บรรจุเข้าวาระไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องดี และการนำเงินมาใช้จ่ายสำหรับการทำงานของ ส.ส.ร.3 เป็นค่าเงินเดือนคนละ 1 แสนบาท 120 คน ก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน ซึ่งน่าจะเอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
"ตอนนี้พรรคร่วมออกมาค้านนำเสนอแก้รไขรัฐธรรมนูญแล้ว เพราะรู้ทันนายสมชาย ซึ่งเรื่องนี้ทางพันธมิตรฯ ก็รู้ทันเช่นกัน เรากำลังประชุมอยู่ในตอนนี้" พล.ต.จำลองกล่าว
ส่วนเรื่องการเสวนา 4 ฝ่าย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ต้องเป็นเรื่องที่มีแค่พันธมิตรกับรัฐบาลเท่านั้นไม่จำเป้นต้องมีฝ่ายค้าน หรือ นปก.และมีคนกลางที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับ โดยสิ่งที่สื่อมวลชนถามมานั้นเราเข้าใจ เพราะมีบางสื่อที่ไม่ชอบเรา ก็จะไปลงข่าวกล่าวหาว่าเราเรื่องมาก
**ติดสปอตไลต์เพิ่มป้องกันแก๊งลอบบึ้ม
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้แถลงข่าวกรณีเกิดเหตุระเบิดที่บริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเวลาประมาณ 01.50 น.ของวานนี้ (4 พ.ย.) ที่บริเวณสะพานอรทัย ห่างจากประตูทางเข้าของกลุ่มพันธมิตรฯ ประมาณ 200 เมตร แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึกประมาณ 1 นิ้ว กว้าง 30 เซนติเมตร และมีร่องรอยสะเก็ดระเบิดตามต้นไม้ กระสอบทราย และกองขวดน้ำดื่ม แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุตนได้ไปสำรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าวพบว่า มีเศษสะเก็ดระเบิดตกอยู่จำนวนมากพื้นถนนมีหลุมลึกลงไปประมาณ 1 นิ้ว จากการสอบถามการ์ดพันธมิตรฯ ซึ่งอยู่บริเวณดังกล่าวระบุว่าเป็นการขว้างระบิดเข้ามาจากตึกร้างด้านหัวมุมของมหาวิยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โดยหลังจากเกิดเหตุเห็นได้ชัดเจนว่ามีชายฉกรรจ์ 3 คนเดินออกมาจากตึกร้างและขับรถเก๋งออกไปจากพื้นที่ ซึ่งการ์ดไม่กล้าตามออกไปเพราะเกรงมีอาวุธร้ายแรง
"เรามีความจำเป็นต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยและแนวป้องกันเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่ล่อแหลมรอบทำเนียบรัฐบาลจะต้องติดสปอตไลต์รอบๆ พื้นที่ชุมนุมเพื่อให้การ์ดพันธมิตรฯสามารถมองเห็นได้ระยะไกลจะทำให้เห็นผู้ที่จะเข้ามาทำร้าย หรือก่อกวนได้มากขึ้นและหาทางป้องกันก่อนเกิดเหตุได้ทันท่วงที เพราะการชุมนุมของเราต้องช่วยตัวเองไม่มีอาวุธเป็นการชุมนุมอย่างสันติ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของรัฐบาลที่เป็นปล่อยให้มีคนร้ายเข้ามาทำร้ายประชาชนและลอยนวลไปได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างไร ฝ่ายรัฐและตำรวจก็ไม่เคยออกมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น" นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เห็นตรงกันที่จะให้มีเวทีสานเสวนาเพื่อยุติความขัดแย้งในบ้านเมืองว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เกิดจากสองฝ่ายเท่านั้นคือฝ่ายรัฐบาลและพันธมิตรฯ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายอื่นมาเกี่ยวข้อง เพราะการหาทางออกของประเทศอยู่ที่รัฐบาลถ้าทำตามข้อเสนอของพันธมิตรฯ โดยการลาออกและไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ก็สามารถยุติความขัดแย้งได้รวดเร็ว ซึ่งหากรัฐบาลจะมาเจรจาก็สามารถมาได้ทันที ขณะที่คนกลางจะต้องเป็นคนที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ และสังคมเชื่อถือเพื่อเป็นช่องทางนำไปสู่การเจรจาและปฏิรูปการเมืองใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพลังประชาชน (พปช.) เตรียมเสนอยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 ในสัปดาห์หน้าวันที่ 12-13 พ.ย.นี้ ทางพันธมิตรฯจะมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจริง พันธมิตรฯจะคัดค้านให้ถึงที่สุด เพราะพันธมิตรฯไม่มั่นใจว่าพรรค พปช.จะหมกเม็ดแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวหรือไม่ ซึ่งหากเสนอเมื่อไหร่พันธมิตรฯจะคัดค้านทันที
**"จำลอง"ชี้การนองเลือดเป็นฝีมือ"รัฐบาล"
ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่กองทัพมีท่าทีเป็นห่วงเรื่องสถาบันที่ทางพันธมิตรฯก็ดึงสถาบันมาเกี่ยวข้องเช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพันธมิตรฯควรระมัดระวังด้วย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า กองทัพไม่ควรมาห่วงเรื่องที่พันธมิตรฯ นำสถาบันมาพูดบนเวที และใช้เป็นหลักการต่อสู้ของพันธมิตรฯ เพราะเป็นการกระทำตามรัฐธรรมนูญที่คนไทยทุกคนสามารถลุกขึ้นมาปกป้องสถาบันได้ หากพันธมิตรฯไม่ทำ ก็ไม่เห็นว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายรัฐที่เป็นผู้รักษากฎหมายลุกขึ้นปกป้องสถาบัน ทหารไม่ต้องมาห่วงหรือปรามฝ่ายเราหรอก ควรไปปรามฝ่ายอื่นจะดีกว่า
สำหรับกรณีที่ "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาระบุว่ากลัวทหารจะเป็นตัวจุดชนวนให้บ้านเมืองปั่นป่วนนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ขอพูดถึงคนชื่อนี้อีก ส่วนมีประชาชนเป็นห่วงว่าประเทศชาติจะเกิดการนองเลือดนั้น พล.ต.จำลอง ระบุว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลเพราะรัฐบาลเป็นฝ่ายที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชนมาโดยตลอดจะเกิดการนองเลือดหรือไม่เป็นหน้าที่ของ รัฐบาล ทหาร ตำรวจ จะต้องทำให้เกิดความสงบในประเทศ ไม่ใช่หน้าที่ของพันธมิตรฯเพราะเราชุมนุมมาอย่างสงบ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่ม นปช.ได้บุกยึดสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสที่ จ.เชียงใหม่ เป็นการทำให้เกิดความวุ่นวายเหมือนอย่างที่พันธมิตรฯเคยทำหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องถามความชอบธรรมของกลุ่ม นปช.ว่าอยู่ตรงไหนไปบุกยึดสถานีโทรทัศน์ของเอกชนได้อย่างไร เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากการกระทำของพันธมิตรฯ ที่มีความชอบธรรมเพราะเรายึดสถานีที่เป็นของรัฐใช้เงินภาษีของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา ทำเนียบฯ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ทำให้ประชาชนเดือดร้อนประชาชนสามารถบุกยึดและไล่ออกจากทำเนียบรัฐบาลได้
ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ขอร้องให้พันธมิตรฯเปิดเส้นทางสะพานมัฆวานฯ ถนนราชดำเนิน จนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เรื่องการเปิดถนนพันธมิตรฯ ได้ดำเนินการก่อนแล้ว คือ ได้รื้อเวทีใหญ่ออกไปแล้ว ซึ่งในช่วงวันงานตั้งวันที่ 14-19 พ.ย.จะรื้อเต็นท์และสิ่งของต่างๆ ออกไป แต่ยังต้องเหลือบางส่วนไว้ไม่สามารถเปิดได้ 100% จะต้องมียางรถยนต์ไว้เป็นแนวป้องกันให้กับผู้ชุมนุม เพราะว่า ไม่มีใครให้การยืนยันกับพันธมิตรฯได้ว่าจะมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับการชุมนุม ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์เข้ามาทำร้ายผู้ชุมนุมนับครั้งไม่ถ้วน ถึงแม้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ อยากให้เกิดความสวยงามสมพระเกียรติแต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ชุมนุมด้วย
**เปิดถนนเลียบคลองผดุงฯหน้ายูเอ็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 13.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง และเจ้าหน้าที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายฯ ประมาณ 30 คน ได้ช่วยกันรื้อกระสอบทรายและยางรถยนต์ที่กลุ่มพันธมิตรฯนำมาวางเป็นเครื่องกีดขวางอยู่บริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์และบนถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ฝั่งวัดมกุฎกษัตริย์ติยาราม โดยเจ้าหน้าที่ได้ขนสิ่งของทั้งหมดมากองไว้ที่บริเวณข้างกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเปิดถนนและใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯที่จะเสด็จในงานของสถาบันพระปกเกล้า ที่จัดขึ้น ณ สำนักงานองค์การสหประชาชาติ ในช่วงเช้าของวันที่ 5 พ.ย.นี้โดยทางเจ้าหน้าที่จะขอเปิดเส้นทางบริเวณดังกล่าวเป็นเวลา 1 วัน จากนั้นก็จะปิดเส้นทางดังกล่าวเช่นเดิม ทั้งนี้หลังจากที่มีการรื้อยางรถยนต์และกระสอบทรายออก ทางตำรวจจะมีการจัดการเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจะนำไฟส่องสว่างมาติดรอบพื้นที่ดังกล่าว เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น
**ทำสมุดปกขาวการเมืองใหม่แจกทั่วปท.
เวลา 18.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึงการสรุปร่างการเมืองใหม่ประชาภิวัฒน์ว่า ในสัปดาห์หน้าทางพันธมิตรฯจะจัดทำสมุดปกขาวออกมาเผยแพร่ โดยประมวลความคิดทั้งหมดที่มีการประชุมมา 7 ครั้งที่เป็นเค้าโครงการเมืองใหม่ ในขณะนี้ได้มอบหมายให้คณะทำงานรวบรวมข้อมูลทำสมุดปกขาว เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนและคณะทำงานที่คิดแผนการรณรงค์ให้กับกลุ่มเกษตรกร กลุ่มแรงงาน นิสิต นักศึกษา นักธุรกิจ ชนชั้นกลาง และกลุ่มนักการเมือง นอกจากนี้ จะมีการลงพื้นที่ในต่างจังหวัดที่เป็นพื้นที่กลุ่มพันธมิตรฯเพื่อจัดเวทีสัญจรให้ความรู้เรื่องการเมืองใหม่ และข้อเสนอแนะที่ได้มาปรับปรุง
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ทางพันธมิตรฯไม่ได้คาดหวังการตั้ง ส.ส.ร.3 ของทางรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะพรรค พปช.มีวาระซ่อนเร้น ซึ่งแตกต่างจากการเมืองใหม่ที่พันธมิตรฯคิดขึ้น พันธมิตรฯหวังผลในระยะยาว ไม่ต้องรีบร้อนจะรณรงค์ปฏิรูปไปเรื่อยๆ เพื่อให้สังคมไทยได้ตื่นตัวและร่วมออกความคิดเห็น แม้ว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อ แต่เชื่อว่าจะส่งผลดีมากกว่าส่งผลเสีย เพราะว่าการคงอยู่ของกลุ่มพันธมิตรฯจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลเป็นไปได้ยากขึ้น
เมื่อถามว่ามองการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 อย่างไร นายสุริยะใส กล่าวว่า การแก้ไข มาตรา 291 เป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่การทำรัฐประหารได้ตลอดเวลา ซึ่งหากมีการยื่นแก้ไขจริง ทางพันธมิตรฯต้องมีการคัดค้านแน่ แต่ทั้งนี้ต้องมีการประชุมจากแกนนำอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เชื่อว่าทางกลุ่มคนเสื้อแดงหรือ นปช.จะต้องออกมาชุมนุมปิดล้อมที่หน้ารัฐสภาก่อนอยู่แล้ว ซึ่งหากวันนนั้น กลุ่มพันธมิตรฯเคลื่อนไปแล้วเกิดการปะทะ ก็เป็นเหตุผลที่นำไปสู่การรัฐประหารได้ ซึ่งเข้าทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำการลี้ภัยได้ง่ายขึ้น
นายสุริยะใส กล่าวถึงท่าทีของกองทัพว่า กองทัพควรออกมาเคลื่อนไหวมากกว่านี้ ออกมาพูดว่าอึดอัดคงไม่พอ ต้องมีการเรียกร้องที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ระดมมวลชนเพื่อกดดันสถาบันและหมิ่นศาล กองทัพควรแนะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับผิดและหยุดจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงได้แล้ว
**พธม.ขอนแก่นนัดรวมพลวันนี้
จี้"ผบ.ทบ."ป้องสถาบันกษัตริย์**
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้(5 พ.ย.)ประชาชนชาวขอนแก่น ในเครือข่ายพันธมิตรฯขอนแก่น ได้นัดหมายรวมพลังกันในเวลา 10.00 น. ที่ลานอนุสาวรีประชาธิปไตย บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังมลฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรีนทร์ เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผ่านผู้บัญชาการมทบ 23 หรือตัวแทน
การยื่นหนังสือครั้งนี้พันธมิตรฯขอนแก่นต้องการเรียกร้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะตัวแทนทหารหาญ ข้ารับใช้พระเจ้าแผ่นดินแสดงจุดยืนในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ชัดเจนมากกว่าที่แสดงออกกันอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าท่าทีของผู้นำเหล่าทัพ ค่อนข้างจะวางเฉย ต่อกลุ่มบุคคลต่างๆในระบอบทักษิณที่ จาบจ้วง ลบหลู่สถาบันเบื้องสูงอย่างหลากหลายรูปแบบ
โดยเฉพาะล่าสุดกรณีที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร ได้โฟนอินพร้อมภาพเข้าเวทีรายการความจริงวันนี้เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ได้พูดจาเข้าข่ายหมิ่นพระมหากษัตริย์ พยายามจะดึงสถาบันเบื้องสูงลงมาข้องเกี่ยวกับความผิดอาญาแผ่นดินของตนเอง ถือเป็นพฤติกรรมที่ประชาชนชาวไทยผู้จงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์รับไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กองทัพไทยกลับไม่กระตือรือร้นที่จะดำเนินการใดใดกับ นช.ทักษิณ แม้แต่จะออกมาปรามหรือตำหนิก็ไม่มีให้เห็น ดังนั้น เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ของผู้นำเหล่าทัพ โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารบก พี่น้องในเครือข่ายพันธมิตรฯขอนแก่นทั้งใน อ.เมือง และอีกหลายอำเภอ ทั้ง อ.พล ชุมแพ หนองสองห้อง และมัญจาคีรี ฯลฯ จะนัดหมายรวมตัวกันที่อนุสาวรีประชาธิปไตยก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปยังค่ายศรีพัชรินทร์ และระหว่างการเคลื่อนขบวนนั้นจะมีการแจกวีซีดีตำรวจฆ่าประชาชนด้วย
**พธม.ลำปางแห่ให้กำลังใจTOTลำปาง
ภายหลังจากที่แกนำเสื้อแดง (นปก.) ลำปางได้นำประชาชน 10 คน นำพวงหรีดและหนังสือยื่นแก่ นายมนตรี ติยะเทพ ผจก.บจก.TOT ลำปาง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลุ่ม นปก.ไม่พอใจที่กลุ่มพนักงานที่สำนักงานใหญ่ขับไล่นายกรัฐมนตรี โดยกดดันให้สอบสวนความประพฤติของประธานสหภาพแรงงาน TOT นั้น
ปรากฎว่าเมื่อวานนี้(4 พ.ย.)นายสมโชค จันทร์ทอง เลขาธิการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือ พร้อมตัวแทนของเครือข่ายสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาภาคเหนือ 10 องค์กร อันประกอบด้วย กสท. ออมสิน ธ.ก.ส. กฟผ. กฟภ. การประปา รถไฟ บขส. ออป. และพนักงานของ TOT ลำปาง ได้นำกระเช้าดอกไม้และดอกไม้ มอบให้กับ นายมนตรี ติยะเทพ ผู้จัดการ บริษัทTOT ลำปาง เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน และให้ยืนในจุดยืนเดิมที่ถูกต้องในการรักษาผลประโยชน์ให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ อย่าได้เกรงกลัวต่ออิทธิพลทางการเมืองที่คุกคามอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มสมาพันธ์ฯ จะคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดไป
วานนี้ (4 พ.ย.) เวลา 21.00 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรพันธมิตรฯประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล โดยย้ำว่า ปัญหาในเวลานี้ไม่ใช่เป็นเรื่องขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงของชาติ เพราะถ้าเรื่องการเมืองสามารถใช้วิธีหาพวกแบบสันติวิธี เหมือนกับพรรคการเมืองหาเสียง หรือถ้าใครไม่ชอบเสื้อแดงแล้วไปหาเสื้อสีอื่นตั้งเวทีหาพวก
นายสนธิ กล่าวว่า มวลชนที่พวกนั้นนำมา (นปช.) เป็นการจัดตั้ง เพราะถ้ามีมวลชนจริงขอท้าให้อยู่ซัก 1-2 เดือนเพื่อพิสูจน์ ดังนั้น มวลชนที่สนามราชมังคลาฯ ถึงเป็นการออกแบบเอาไว้ล่วงหน้าและต้องใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อการข่มขู่ราชบัลลังก์ ซึ่งวันนี้แม้แต่นายทหารใหญ่ก็ยังออกมายอมรับว่ามีการข่มขู่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นภัยต่อราชบัลลังก์
นายสนธิ ยังชี้ให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้มีการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดเวลาต่างกรรมต่างวาระ มีหนังสือ เว็บไซต์ยังคงอยู่ โดยที่ตำรวจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือแม้แต่กรณีของ นายวีระ มุสิกพงษ์ ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตำรวจก็ยังสอบพยานเพิ่ม
แกนนำพันธมิตรฯผู้นี้ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 เพื่อลดทอนพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ รวมทั้งจะเสนอให้มีการเลือกตั้งนายกฯ โดยตรงเหมือนกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในระบอบสาธารณรัฐมีการโจมตีศาลที่ทำในนามพระปรมาภิไธย มีการทำร้ายประชาชนที่ปกป้องราชบัลลังก์ เรื่องทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เรื่องยกอธิปไตยให้เขมร
นายสนธิ ได้กล่าวถึงหน้าที่ของทหารตามรัฐธรรมนูญว่า ต้องพิทักษ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน แต่กลับปล่อยให้มีการละเมิดอธิปไตย มีการทำร้ายประชาชน ใช้สื่อของรัฐอุ้มชูนักโทษหนีคดี หรือปล่อยให้มวลชนรับจ้างมากดดันพระเจ้าอยู่หัวเพื่อพระราชทานพระอภิยโทษ หรือปล่อยให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อยกเลิกองคมนตรีลดทอนพระราชอำาจ แต่ทหารที่เป็นระดับผู้บัญชาการกลับไม่ได้ทำหน้าที่ดังกล่าว
จากนั้นนายสนธิ ได้อัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อเหล่าทหารที่สวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.50 ที่ทรงเน้นให้สำนึกในความเป็นชาติและรักษาความมั่นคง และต่อมาได้ทรงตรัสต่อคณะของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่ทรงเตือนให้ใช้เงินระมันระวังไม่เช่นนั้นชาติจะล่มจม
นายสนธิ กล่าวถึงคำถวายสัตย์ที่ว่าจะรักษารัฐธรรมนูญ พระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์เจ้า ซึ่งทุกคำมันชัดเจนอยู่แล้ว แต่ทหารไม่ได้ทำตามคำสาบาน
"ผมไม่อยากสอนคุณอนุพงษ์ ในเรื่องของความเป็นกลาง ว่ามีที่มาจาก 2 ลัทธิ คือลัทธิจารวาทเชื่อว่าถ้าหากจะไปถึงนิพพานได้ต้องมีการร่วมเพศจนเสร็จกามกิจก่อน กับอีกลัทธิหนึ่งที่เรียกว่าลัทธิเชนคือต้องทรมานตัวเอง แต่พระพุทธเจ้าทรงบอกว่าต้องใช้สัมมาปัญญา คือทางสายกลาง คือต้องเลือกธรรมก่อนคือความถูกต้องดีงามนั่นแหละคือความเป็นกลาง" นายสนธิ ระบุ และว่า อยากฝากไปถึงทหารทั้งหลายว่าหน้าที่คือป้องกันประเทศ ป้องกันประชาชนและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ
นายสนธิ ย้ำว่าการต่อสู้ของพวกเราไม่ได้ดึงสถาบันลงมาเล่นการเมือง แต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 พ.ย.มันเห็นชัดเจนว่าใครข่มขู่หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งวันนี้ต้องเลือกข้าง ซึ่งเราเลือกข้างความถูกต้องและเรายึดรัฐธรรมนูญ แต่คนในระบอบทักษิณทำลายความมั่นคง สั่นคลอนราชบัลลังก์ ทหารยังมองไม่เห็นอีกหรือ
"ท่าน(ทหาร)ต้องหยุดการใช้อำนาจที่ผิดแบบนี้ เพราะเป็นอำนาจที่ทำลายความมั่นคงของชาติ ถ้ายังนิ่งเฉยถือว่าไม่เคารพรัฐธรรมนูญ ตระบัตสัตย์ต่อหน้าพระเจ้าอยู่หัว ต่อหน้าธงไชยเฉลิมพล โดยเฉพาะระดับผู้นำกองทัพทั้งหลายต้องตระหนักให้ดี" นายสนธิระบุ
**ซัด"สมชาย"เจ้าเล่ห์สอดไส้แก้ รธน.
ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นกล่าวว่า จากการพบสื่อมวลชนเมื่อเช้าส่วนตัวมองว่าข่าวที่ได้รับความสนใจของประชาชน คือ การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.ชุดที่ 3) เป็นความหวังของรัฐบาลที่ต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งจะมีการแก้บางมาตรา แต่การป้องกันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 นี้เป็นเป้าหมายของเรา เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่งใช้มาได้ไม่นาน อีกทั้งมีคนลงประชามติรัฐถึง 14 ล้าน 7 แสนเสียง
"รัฐธรรมนูญ 50 ไม่ผิด ที่ผิดคือนักการเมือง ดังนั้นเราจึงต้องค้านแต่ เพียงแต่ให้เขาเสนอก็แล้วกัน" พร้อมกัน นี้พล.ต.จำลอง มองว่า นายสมชายไม่อยากได้รัฐธรรมนูญใหม่จริง เพราะแม้มี ส.ส.ร.3 ก็ต้องใช้เวลาอีก 180 วันหรือ 6 เดือน เมื่อถึงช่วงเวลานั้นพรรคร่วมรัฐบาลถูกยุบไปหมดแล้ว" พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า แสดงว่าเขาไม่ได้ต้องการจริง เพียงแต่ต้องการหมกเม็ดในการขอแก้ไขบางมาตราพร้อมกับการแก้ไขมาตรา 291 ซึ่งจะไวมาก นี่คือเหตุผลจริง แต่ไม่กล้าพูดออกมาว่าจะเอามาตราเก่า รวมถึงต้องการแก้ไข 237 เพื่อให้ไม่มีการยุบพรรค หรือมาตรา309 เพื่อไม้ให้ถูกตรวจสอบจากองค์กรอิสระ และมาตรา 190 เพื่อไม่ให้การลงนามระหว่างประเทศต้องผ่านสภา
ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญฉบับหมอเหวงที่บรรจุเข้าวาระไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องดี และการนำเงินมาใช้จ่ายสำหรับการทำงานของ ส.ส.ร.3 เป็นค่าเงินเดือนคนละ 1 แสนบาท 120 คน ก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน ซึ่งน่าจะเอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
"ตอนนี้พรรคร่วมออกมาค้านนำเสนอแก้รไขรัฐธรรมนูญแล้ว เพราะรู้ทันนายสมชาย ซึ่งเรื่องนี้ทางพันธมิตรฯ ก็รู้ทันเช่นกัน เรากำลังประชุมอยู่ในตอนนี้" พล.ต.จำลองกล่าว
ส่วนเรื่องการเสวนา 4 ฝ่าย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ต้องเป็นเรื่องที่มีแค่พันธมิตรกับรัฐบาลเท่านั้นไม่จำเป้นต้องมีฝ่ายค้าน หรือ นปก.และมีคนกลางที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับ โดยสิ่งที่สื่อมวลชนถามมานั้นเราเข้าใจ เพราะมีบางสื่อที่ไม่ชอบเรา ก็จะไปลงข่าวกล่าวหาว่าเราเรื่องมาก
**ติดสปอตไลต์เพิ่มป้องกันแก๊งลอบบึ้ม
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้แถลงข่าวกรณีเกิดเหตุระเบิดที่บริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเวลาประมาณ 01.50 น.ของวานนี้ (4 พ.ย.) ที่บริเวณสะพานอรทัย ห่างจากประตูทางเข้าของกลุ่มพันธมิตรฯ ประมาณ 200 เมตร แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึกประมาณ 1 นิ้ว กว้าง 30 เซนติเมตร และมีร่องรอยสะเก็ดระเบิดตามต้นไม้ กระสอบทราย และกองขวดน้ำดื่ม แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุตนได้ไปสำรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าวพบว่า มีเศษสะเก็ดระเบิดตกอยู่จำนวนมากพื้นถนนมีหลุมลึกลงไปประมาณ 1 นิ้ว จากการสอบถามการ์ดพันธมิตรฯ ซึ่งอยู่บริเวณดังกล่าวระบุว่าเป็นการขว้างระบิดเข้ามาจากตึกร้างด้านหัวมุมของมหาวิยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โดยหลังจากเกิดเหตุเห็นได้ชัดเจนว่ามีชายฉกรรจ์ 3 คนเดินออกมาจากตึกร้างและขับรถเก๋งออกไปจากพื้นที่ ซึ่งการ์ดไม่กล้าตามออกไปเพราะเกรงมีอาวุธร้ายแรง
"เรามีความจำเป็นต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยและแนวป้องกันเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่ล่อแหลมรอบทำเนียบรัฐบาลจะต้องติดสปอตไลต์รอบๆ พื้นที่ชุมนุมเพื่อให้การ์ดพันธมิตรฯสามารถมองเห็นได้ระยะไกลจะทำให้เห็นผู้ที่จะเข้ามาทำร้าย หรือก่อกวนได้มากขึ้นและหาทางป้องกันก่อนเกิดเหตุได้ทันท่วงที เพราะการชุมนุมของเราต้องช่วยตัวเองไม่มีอาวุธเป็นการชุมนุมอย่างสันติ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของรัฐบาลที่เป็นปล่อยให้มีคนร้ายเข้ามาทำร้ายประชาชนและลอยนวลไปได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างไร ฝ่ายรัฐและตำรวจก็ไม่เคยออกมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น" นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เห็นตรงกันที่จะให้มีเวทีสานเสวนาเพื่อยุติความขัดแย้งในบ้านเมืองว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เกิดจากสองฝ่ายเท่านั้นคือฝ่ายรัฐบาลและพันธมิตรฯ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายอื่นมาเกี่ยวข้อง เพราะการหาทางออกของประเทศอยู่ที่รัฐบาลถ้าทำตามข้อเสนอของพันธมิตรฯ โดยการลาออกและไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ก็สามารถยุติความขัดแย้งได้รวดเร็ว ซึ่งหากรัฐบาลจะมาเจรจาก็สามารถมาได้ทันที ขณะที่คนกลางจะต้องเป็นคนที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ และสังคมเชื่อถือเพื่อเป็นช่องทางนำไปสู่การเจรจาและปฏิรูปการเมืองใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพลังประชาชน (พปช.) เตรียมเสนอยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 ในสัปดาห์หน้าวันที่ 12-13 พ.ย.นี้ ทางพันธมิตรฯจะมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจริง พันธมิตรฯจะคัดค้านให้ถึงที่สุด เพราะพันธมิตรฯไม่มั่นใจว่าพรรค พปช.จะหมกเม็ดแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวหรือไม่ ซึ่งหากเสนอเมื่อไหร่พันธมิตรฯจะคัดค้านทันที
**"จำลอง"ชี้การนองเลือดเป็นฝีมือ"รัฐบาล"
ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่กองทัพมีท่าทีเป็นห่วงเรื่องสถาบันที่ทางพันธมิตรฯก็ดึงสถาบันมาเกี่ยวข้องเช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพันธมิตรฯควรระมัดระวังด้วย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า กองทัพไม่ควรมาห่วงเรื่องที่พันธมิตรฯ นำสถาบันมาพูดบนเวที และใช้เป็นหลักการต่อสู้ของพันธมิตรฯ เพราะเป็นการกระทำตามรัฐธรรมนูญที่คนไทยทุกคนสามารถลุกขึ้นมาปกป้องสถาบันได้ หากพันธมิตรฯไม่ทำ ก็ไม่เห็นว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายรัฐที่เป็นผู้รักษากฎหมายลุกขึ้นปกป้องสถาบัน ทหารไม่ต้องมาห่วงหรือปรามฝ่ายเราหรอก ควรไปปรามฝ่ายอื่นจะดีกว่า
สำหรับกรณีที่ "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาระบุว่ากลัวทหารจะเป็นตัวจุดชนวนให้บ้านเมืองปั่นป่วนนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่ขอพูดถึงคนชื่อนี้อีก ส่วนมีประชาชนเป็นห่วงว่าประเทศชาติจะเกิดการนองเลือดนั้น พล.ต.จำลอง ระบุว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลเพราะรัฐบาลเป็นฝ่ายที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชนมาโดยตลอดจะเกิดการนองเลือดหรือไม่เป็นหน้าที่ของ รัฐบาล ทหาร ตำรวจ จะต้องทำให้เกิดความสงบในประเทศ ไม่ใช่หน้าที่ของพันธมิตรฯเพราะเราชุมนุมมาอย่างสงบ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่ม นปช.ได้บุกยึดสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสที่ จ.เชียงใหม่ เป็นการทำให้เกิดความวุ่นวายเหมือนอย่างที่พันธมิตรฯเคยทำหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องถามความชอบธรรมของกลุ่ม นปช.ว่าอยู่ตรงไหนไปบุกยึดสถานีโทรทัศน์ของเอกชนได้อย่างไร เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากการกระทำของพันธมิตรฯ ที่มีความชอบธรรมเพราะเรายึดสถานีที่เป็นของรัฐใช้เงินภาษีของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา ทำเนียบฯ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ทำให้ประชาชนเดือดร้อนประชาชนสามารถบุกยึดและไล่ออกจากทำเนียบรัฐบาลได้
ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ขอร้องให้พันธมิตรฯเปิดเส้นทางสะพานมัฆวานฯ ถนนราชดำเนิน จนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เรื่องการเปิดถนนพันธมิตรฯ ได้ดำเนินการก่อนแล้ว คือ ได้รื้อเวทีใหญ่ออกไปแล้ว ซึ่งในช่วงวันงานตั้งวันที่ 14-19 พ.ย.จะรื้อเต็นท์และสิ่งของต่างๆ ออกไป แต่ยังต้องเหลือบางส่วนไว้ไม่สามารถเปิดได้ 100% จะต้องมียางรถยนต์ไว้เป็นแนวป้องกันให้กับผู้ชุมนุม เพราะว่า ไม่มีใครให้การยืนยันกับพันธมิตรฯได้ว่าจะมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับการชุมนุม ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์เข้ามาทำร้ายผู้ชุมนุมนับครั้งไม่ถ้วน ถึงแม้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ อยากให้เกิดความสวยงามสมพระเกียรติแต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ชุมนุมด้วย
**เปิดถนนเลียบคลองผดุงฯหน้ายูเอ็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 13.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง และเจ้าหน้าที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายฯ ประมาณ 30 คน ได้ช่วยกันรื้อกระสอบทรายและยางรถยนต์ที่กลุ่มพันธมิตรฯนำมาวางเป็นเครื่องกีดขวางอยู่บริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์และบนถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ฝั่งวัดมกุฎกษัตริย์ติยาราม โดยเจ้าหน้าที่ได้ขนสิ่งของทั้งหมดมากองไว้ที่บริเวณข้างกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเปิดถนนและใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯที่จะเสด็จในงานของสถาบันพระปกเกล้า ที่จัดขึ้น ณ สำนักงานองค์การสหประชาชาติ ในช่วงเช้าของวันที่ 5 พ.ย.นี้โดยทางเจ้าหน้าที่จะขอเปิดเส้นทางบริเวณดังกล่าวเป็นเวลา 1 วัน จากนั้นก็จะปิดเส้นทางดังกล่าวเช่นเดิม ทั้งนี้หลังจากที่มีการรื้อยางรถยนต์และกระสอบทรายออก ทางตำรวจจะมีการจัดการเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจะนำไฟส่องสว่างมาติดรอบพื้นที่ดังกล่าว เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น
**ทำสมุดปกขาวการเมืองใหม่แจกทั่วปท.
เวลา 18.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึงการสรุปร่างการเมืองใหม่ประชาภิวัฒน์ว่า ในสัปดาห์หน้าทางพันธมิตรฯจะจัดทำสมุดปกขาวออกมาเผยแพร่ โดยประมวลความคิดทั้งหมดที่มีการประชุมมา 7 ครั้งที่เป็นเค้าโครงการเมืองใหม่ ในขณะนี้ได้มอบหมายให้คณะทำงานรวบรวมข้อมูลทำสมุดปกขาว เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนและคณะทำงานที่คิดแผนการรณรงค์ให้กับกลุ่มเกษตรกร กลุ่มแรงงาน นิสิต นักศึกษา นักธุรกิจ ชนชั้นกลาง และกลุ่มนักการเมือง นอกจากนี้ จะมีการลงพื้นที่ในต่างจังหวัดที่เป็นพื้นที่กลุ่มพันธมิตรฯเพื่อจัดเวทีสัญจรให้ความรู้เรื่องการเมืองใหม่ และข้อเสนอแนะที่ได้มาปรับปรุง
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ทางพันธมิตรฯไม่ได้คาดหวังการตั้ง ส.ส.ร.3 ของทางรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะพรรค พปช.มีวาระซ่อนเร้น ซึ่งแตกต่างจากการเมืองใหม่ที่พันธมิตรฯคิดขึ้น พันธมิตรฯหวังผลในระยะยาว ไม่ต้องรีบร้อนจะรณรงค์ปฏิรูปไปเรื่อยๆ เพื่อให้สังคมไทยได้ตื่นตัวและร่วมออกความคิดเห็น แม้ว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อ แต่เชื่อว่าจะส่งผลดีมากกว่าส่งผลเสีย เพราะว่าการคงอยู่ของกลุ่มพันธมิตรฯจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลเป็นไปได้ยากขึ้น
เมื่อถามว่ามองการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 อย่างไร นายสุริยะใส กล่าวว่า การแก้ไข มาตรา 291 เป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่การทำรัฐประหารได้ตลอดเวลา ซึ่งหากมีการยื่นแก้ไขจริง ทางพันธมิตรฯต้องมีการคัดค้านแน่ แต่ทั้งนี้ต้องมีการประชุมจากแกนนำอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เชื่อว่าทางกลุ่มคนเสื้อแดงหรือ นปช.จะต้องออกมาชุมนุมปิดล้อมที่หน้ารัฐสภาก่อนอยู่แล้ว ซึ่งหากวันนนั้น กลุ่มพันธมิตรฯเคลื่อนไปแล้วเกิดการปะทะ ก็เป็นเหตุผลที่นำไปสู่การรัฐประหารได้ ซึ่งเข้าทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำการลี้ภัยได้ง่ายขึ้น
นายสุริยะใส กล่าวถึงท่าทีของกองทัพว่า กองทัพควรออกมาเคลื่อนไหวมากกว่านี้ ออกมาพูดว่าอึดอัดคงไม่พอ ต้องมีการเรียกร้องที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่ปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ระดมมวลชนเพื่อกดดันสถาบันและหมิ่นศาล กองทัพควรแนะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับผิดและหยุดจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงได้แล้ว
**พธม.ขอนแก่นนัดรวมพลวันนี้
จี้"ผบ.ทบ."ป้องสถาบันกษัตริย์**
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้(5 พ.ย.)ประชาชนชาวขอนแก่น ในเครือข่ายพันธมิตรฯขอนแก่น ได้นัดหมายรวมพลังกันในเวลา 10.00 น. ที่ลานอนุสาวรีประชาธิปไตย บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังมลฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรีนทร์ เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผ่านผู้บัญชาการมทบ 23 หรือตัวแทน
การยื่นหนังสือครั้งนี้พันธมิตรฯขอนแก่นต้องการเรียกร้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะตัวแทนทหารหาญ ข้ารับใช้พระเจ้าแผ่นดินแสดงจุดยืนในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ชัดเจนมากกว่าที่แสดงออกกันอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าท่าทีของผู้นำเหล่าทัพ ค่อนข้างจะวางเฉย ต่อกลุ่มบุคคลต่างๆในระบอบทักษิณที่ จาบจ้วง ลบหลู่สถาบันเบื้องสูงอย่างหลากหลายรูปแบบ
โดยเฉพาะล่าสุดกรณีที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร ได้โฟนอินพร้อมภาพเข้าเวทีรายการความจริงวันนี้เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ได้พูดจาเข้าข่ายหมิ่นพระมหากษัตริย์ พยายามจะดึงสถาบันเบื้องสูงลงมาข้องเกี่ยวกับความผิดอาญาแผ่นดินของตนเอง ถือเป็นพฤติกรรมที่ประชาชนชาวไทยผู้จงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์รับไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กองทัพไทยกลับไม่กระตือรือร้นที่จะดำเนินการใดใดกับ นช.ทักษิณ แม้แต่จะออกมาปรามหรือตำหนิก็ไม่มีให้เห็น ดังนั้น เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ของผู้นำเหล่าทัพ โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารบก พี่น้องในเครือข่ายพันธมิตรฯขอนแก่นทั้งใน อ.เมือง และอีกหลายอำเภอ ทั้ง อ.พล ชุมแพ หนองสองห้อง และมัญจาคีรี ฯลฯ จะนัดหมายรวมตัวกันที่อนุสาวรีประชาธิปไตยก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปยังค่ายศรีพัชรินทร์ และระหว่างการเคลื่อนขบวนนั้นจะมีการแจกวีซีดีตำรวจฆ่าประชาชนด้วย
**พธม.ลำปางแห่ให้กำลังใจTOTลำปาง
ภายหลังจากที่แกนำเสื้อแดง (นปก.) ลำปางได้นำประชาชน 10 คน นำพวงหรีดและหนังสือยื่นแก่ นายมนตรี ติยะเทพ ผจก.บจก.TOT ลำปาง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลุ่ม นปก.ไม่พอใจที่กลุ่มพนักงานที่สำนักงานใหญ่ขับไล่นายกรัฐมนตรี โดยกดดันให้สอบสวนความประพฤติของประธานสหภาพแรงงาน TOT นั้น
ปรากฎว่าเมื่อวานนี้(4 พ.ย.)นายสมโชค จันทร์ทอง เลขาธิการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือ พร้อมตัวแทนของเครือข่ายสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาภาคเหนือ 10 องค์กร อันประกอบด้วย กสท. ออมสิน ธ.ก.ส. กฟผ. กฟภ. การประปา รถไฟ บขส. ออป. และพนักงานของ TOT ลำปาง ได้นำกระเช้าดอกไม้และดอกไม้ มอบให้กับ นายมนตรี ติยะเทพ ผู้จัดการ บริษัทTOT ลำปาง เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน และให้ยืนในจุดยืนเดิมที่ถูกต้องในการรักษาผลประโยชน์ให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ อย่าได้เกรงกลัวต่ออิทธิพลทางการเมืองที่คุกคามอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มสมาพันธ์ฯ จะคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดไป
