แกนนำพันธมิตรฯ แสดงความเป็นสุภาพบุรุษงดวิจารณ์ เหตุ “แม้ว-อ้อ" หย่าร้าง ชี้เป็นเรื่องภายในครอบครัว รอนักกฏหมายวิเคราะห์ผลกระทบต่อรูปคดีหรือไม่ ด้าน “จำลอง” ย้ำเดินมาถูกทางแล้ว ส่งผลให้ “หมัก” ลาออก “ชาย” ร่อแร่ “แม้ว” สัมภเวสี
วันนี้ (17 พ.ย.) แกนนำพันธมิตรฯ ประกอบด้วย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ร่วมกับผู้ชุมนุมกว่า 500 คน ทำการเปิดสะพานไม้ไผ่ ข้ามคลองผดุงกรุงเกษม โดยตั้งชื่อว่า “สะพานอังคณาเมธี” ซึ่งเป็นสะพานที่ข้ามไประหว่างทำเนียบรัฐบาล กับตลาดนัดริมกำแพงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการพระนคร โดยตลาดนัดดังกล่าวทางพันธมิตรฯ ระบุว่า เป็นการจัดการตลาดในรูปแบบของการเมืองใหม่
หลังจากนั้น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายพิภพ ธงไชย ร่วมกันแถลงข่าวหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศงดแถลงข่าวทางการเมืองระหว่าง 14-16 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายพิภพ กล่าวถึงกระแสข่าวการหย่าร้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ว่า ไม่ขอวิเคราะห์ หรือคาดการณ์ใดๆ ล่วงหน้า เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ชุมนุมคัดค้านแก้รัฐธรรมนูญ คัดค้านรัฐบาลพลังประชาชน ต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนและให้มีคำแถลงที่ชัดเจนอย่างเป็นทางการก่อน เพราะเรามองว่ายังเป็นเรื่องของครอบครัว และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังมีฐานะเป็นนักโทษหนีคดี
ขณะที่ฝ่ายค้าน มองว่า การหย่าร้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องของการเมือง แต่พันธมิตรฯยังมองว่าเป็นเรื่องครอบครัว นายพิภพ กล่าวว่า เพราะยังไม่ปรากฏชัดเจน ขอดูท่าทีระยะหนึ่งก่อน
ส่วนกรณีที่คนใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า จะมีการโฟนอิน เพื่อชี้แจงกรณีการหย่าร้างวันที่ 10 ธ.ค.ที่สนามศุภชลาศัย นั้น ตนก็เชื่อว่า อาจจะมีท่าทีออกมาเร็วๆ นี้ หรือในสัปดาห์นี้ว่าจะเกี่ยวข้องกับทางการเมืองของไทยหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังอยู่ในงานพระราชพิธี
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯเดินทางกลับจากประเทศจีนแล้วหรือยัง และจะกลับมาชี้แจงกรณีเข้าพบผู้ใหญ่ในประเทศจีน ถึงกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า นายสนธิ เมื่อกลับมาแล้วคงขึ้นไปพูดปราศรัยว่าไปทำอะไรมาบ้าง ตนก็รอฟังเหมือนกัน เมื่อถามว่า การรุกคืบของพันธมิตรฯ จะช้าไปหรือไม่หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกจากประเทศจีน โดยใช้การหย่ามาเป็นแผนรุก พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ นายสนธิ ตัดสินใจไปประเทศจีนเอง และเป็นการไปก่อนข่าวการหย่าร้าง
เมื่อถามว่า การหย่าจะส่งผลต่อการดำเนินการทางคดีหรือไม่ นายพิภพ กล่าวว่า ขอให้นักกฎหมายเป็นผู้ตอบและพันธมิตรฯก็ไม่ได้กังวลเรื่องหล่านี้ เราไม่กังวลเรื่องครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า จะมีผลต่อคดีหรือไม่ เนื่องจากเป็นการดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง การหย่าไม่น่ามีผลต่อคดีความ เพราะเรามุ่งที่ตัวอดีตนายกรัฐมนตรีมากกว่า และอยู่ที่ตัวกฎหมายว่าจะสาวไปถึงคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งกฏหมายก็มีการเปิดช่องให้มีการต่อสู้คดีและศาลก็จะเป็นผู้พิจารณาให้ความยุติธรรม จึงต้องรอดูข้อเท็จจริงว่าการหย่าร้างจะมีผลต่อคดีหรือจะมีผลต่อคดียึดทรัพย์หรือไม่
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ดังนั้น การดำเนินการของพันธมิตรฯในขณะนี้ จึงไม่ใช่ว่า ทำแบบเสีย แรงปล่า เพราะการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ สามารถผลักดันให้ นายสมัคร ลาออก นายสมชาย ก็เริ่มร่อแร่ ดังนั้น เชื่อว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หย่าร้างน่าจะมีปัญหา เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่หย่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เร็วๆ นี้ ข้อเท็จจริงจะปรากฏ