ตำรวจกองปราบปราม ติดตามจับกุมผู้ใหญ่บ้านร่วมฆ่า พ่อแม่ลูกรวม 3 ศพ 4 ชีวิตอย่างโหดเหี้ยม รับสารภาพแค้นที่ผู้ตายนำรถไถมาขายให้แล้วยืมไปขายต่อ แต่อ้างฆ่าแค่ศพเดียว
วันนี้ (7 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ธนสัณฑ์ กุลงามเนตร สว.งาน 4 กก.4 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายเทียม หรือมง มั่นสลุง อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ผู้ตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 304/2551 ลงวันที่ 16 ส.ค.2551 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทารุณโหดร้าย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ที่ห้างโลตัส สาขาลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาร่วมกับ นายหลง เพ็งสลุง อายุ 58 ปี และนายสมปอง สุขสลุง อายุ 45 ปี ร่วมกันฆ่า นายไพรัตน์ จักร์กระเวน อายุ 40 ปี นางสมัย อธิพงษ์ อายุ 32 ปี ภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ และ ด.ญ.ปิยะพร เกตุพงษ์ อายุ 5 ปี บุตรสาว อย่างโหดเหี้ยม หลังจากนั้นได้นำศพไปทิ้งไว้ในบึงน้ำกลางหุบเขาในพื้นที่หมู่ 7 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
จากนั้น เมื่อวันที่ 25 ส.ค. พ.ต.อ. สงบ อัดโดดดร ผกก.สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.ศสส.บช.ภ.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นายทำการปิดล้อมบริเวณเขาแผงม้า หมู่ 5 ต.หนองยายโต๊ะ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี หลังทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้หลบหนีไปกบดานบนเขา แต่ผู้ต้องหาได้ยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงสวนกลับไปทำให้นายหลงถูกยิงเข้าที่อกด้านซ้าย 1 นัด กระสุนตัดขั้วหัวใจ และแขนขวาอีก 1 นัด เสียชีวิตคาที่ ในมือขวายังกำอาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ มีปลอกกระสุนคาอยู่ ส่วน นายเทียม และนายสมปอง หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองปราบปรามทราบว่านายเทียมหลบหนีมากบดานที่บ้านญาติย่านรังสิต จ.ปทุมธานี จึงติดตามจับกุมได้ขณะเดินทางมาทำธุระที่ห้างโลตัส สาขาลาดพร้าว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
สอบสวน นายเทียมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือสังหารนายไพรัตน์จริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของภรรยา และบุตรสาวนายไพรัตน์แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุมาจากโกรธแค้นที่นายไพรัตน์ซึ่งมีอาชีพรับจ้างเก็บมันสำปะหลังนำรถไถมาขายให้กับตนในราคา 1.7 แสนบาท แล้วยังมาขอยืมรถไปรับจ้างเก็บมัน ตนจึงให้ไป เวลาผ่านมาเกือบเดือนผู้ตายยังไม่นำรถมาคืน จึงไปทวงถามปรากฏว่าผู้ตายได้นำรถไถของตนไปขายแล้ว จึงไปเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้นายหลง และนายสมปอง ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านฟัง จากนั้นได้ออกอุบายให้ทั้งสองหลอกผู้ตายมาเจรจา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ใช้ปืนยิงใส่นายไพรัตน์จำนวน 1 นัดจนเสียชีวิต จากนั้นได้หลบหนีไป มาทราบภายหลังว่าภรรยาและบุตรนายไพรัตน์ถูกฆ่าตายอีก 2 ศพ
วันนี้ (7 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ธนสัณฑ์ กุลงามเนตร สว.งาน 4 กก.4 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายเทียม หรือมง มั่นสลุง อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ผู้ตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 304/2551 ลงวันที่ 16 ส.ค.2551 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทารุณโหดร้าย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ที่ห้างโลตัส สาขาลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาร่วมกับ นายหลง เพ็งสลุง อายุ 58 ปี และนายสมปอง สุขสลุง อายุ 45 ปี ร่วมกันฆ่า นายไพรัตน์ จักร์กระเวน อายุ 40 ปี นางสมัย อธิพงษ์ อายุ 32 ปี ภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ และ ด.ญ.ปิยะพร เกตุพงษ์ อายุ 5 ปี บุตรสาว อย่างโหดเหี้ยม หลังจากนั้นได้นำศพไปทิ้งไว้ในบึงน้ำกลางหุบเขาในพื้นที่หมู่ 7 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
จากนั้น เมื่อวันที่ 25 ส.ค. พ.ต.อ. สงบ อัดโดดดร ผกก.สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.ศสส.บช.ภ.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นายทำการปิดล้อมบริเวณเขาแผงม้า หมู่ 5 ต.หนองยายโต๊ะ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี หลังทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้หลบหนีไปกบดานบนเขา แต่ผู้ต้องหาได้ยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงสวนกลับไปทำให้นายหลงถูกยิงเข้าที่อกด้านซ้าย 1 นัด กระสุนตัดขั้วหัวใจ และแขนขวาอีก 1 นัด เสียชีวิตคาที่ ในมือขวายังกำอาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ มีปลอกกระสุนคาอยู่ ส่วน นายเทียม และนายสมปอง หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองปราบปรามทราบว่านายเทียมหลบหนีมากบดานที่บ้านญาติย่านรังสิต จ.ปทุมธานี จึงติดตามจับกุมได้ขณะเดินทางมาทำธุระที่ห้างโลตัส สาขาลาดพร้าว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
สอบสวน นายเทียมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือสังหารนายไพรัตน์จริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของภรรยา และบุตรสาวนายไพรัตน์แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุมาจากโกรธแค้นที่นายไพรัตน์ซึ่งมีอาชีพรับจ้างเก็บมันสำปะหลังนำรถไถมาขายให้กับตนในราคา 1.7 แสนบาท แล้วยังมาขอยืมรถไปรับจ้างเก็บมัน ตนจึงให้ไป เวลาผ่านมาเกือบเดือนผู้ตายยังไม่นำรถมาคืน จึงไปทวงถามปรากฏว่าผู้ตายได้นำรถไถของตนไปขายแล้ว จึงไปเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้นายหลง และนายสมปอง ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านฟัง จากนั้นได้ออกอุบายให้ทั้งสองหลอกผู้ตายมาเจรจา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ใช้ปืนยิงใส่นายไพรัตน์จำนวน 1 นัดจนเสียชีวิต จากนั้นได้หลบหนีไป มาทราบภายหลังว่าภรรยาและบุตรนายไพรัตน์ถูกฆ่าตายอีก 2 ศพ