xs
xsm
sm
md
lg

มือสังหารนักข่าวมติชนนครศรีฯโร่มอบตัวปฏิเสธทุกข้อหา - ผบก.ยันหลักฐานชัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช – ทีมสังหารนักข่าวมติชน จ.นครศรีธรรมราช โร่พบนายอำเภอพามอบตัวปฏิเสธทุกข้อหา แม่เผยลูกเรียบร้อย ด้าน ผบก.ยันแนวสืบสวนสอบสวนชัดร่วมแก๊งสังหารจนศาลออกหมายจับ

จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนขนาด .32 ก่อเหตุสังหาร นายอธิวัฒน์ ไชยนุรัตน์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชน ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2551 ที่บ้านเลขที่ 25 ม.3 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนจนทราบว่า สาเหตุนั้นเกิดจากการเสนอข่าวของ นายอธิวัฒน์ ไชยนุรัตน์ เกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้บริหารท้องถิ่นดังกล่าวอย่างรุนแรง เป็นสาเหตุสำคัญ กระทั่งมีการสอบสวนสืบสวนจนนำไปสู่การเสนออนุมัติหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ในชั้นต้นจำนวน 2 ราย คือ 1.หมายจับที่ 312/2551 ลงวันที่ 28 ส.ค.2551 ให้จับกุมนายศักดิ์ชาย หรือชาย หรือบังโกบ อับดุลอารีย์ อายุ 32 ปี บ้านอยู่ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และ 2.หมายจับที่ 313/2551 ลงวันที่ 28 ส.ค.2551 ให้จับกุมนายลำดวน หรือกบ แก้วสีสด อายุ 25 ปี บ้านอยู่ ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน

และความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (22 ต.ค.) นายลำดวน หรือ กบ แก้วสีสด อายุ 25 ปี อยู่ 185 ม.1 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 312/2551 ได้แสดงตัวกับ นายอำนวย จริตงาม ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน เข้ามอบตัวกับ นายมนัส เพ็งสุทธิ์ นายอำเภอบางขัน ซึ่งหลังจากนั้น นายมนัส ได้นำผู้ต้องหาพร้อมด้วย นางประเสริฐ แก้วสีสด อายุ 55 ปี มารดา และเครือญาติของผู้ต้องหาเข้าพบกับ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช โดย นายลำดวน ผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการตายของนายอธิวัฒน์แต่อย่างใดทั้งสิ้น

ภายหลัง นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ของผู้ต้องหาถือว่าเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งขอรับรองในความปลอดภัยเมื่อเข้าสู่กระบวนการแล้ว นายภาณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เข้าพบหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ท.สัณฐาน ชยานนท์ ผบช.ภ.8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าค้นบ้านพักของนายวิฑูรย์ ด้วยว่านายก อบจ.ได้เข้ามาพบเพื่อให้กำลังใจในการทำงานในฐานะที่ตนเข้ามารับตำแหน่งใหม่และไม่ได้พูดถึงในการที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นแต่อย่างใด

นางประเสริฐ แก้วสีสด อายุ 55 ปี มารดาผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ทราบเรื่องจากหนังสือพิมพ์ว่าลูกชายถูกออกหมายจับ ซึ่งขอยืนยันว่า นายลำดวน นั้น อยู่บ้านตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา กรีดยางอยู่กับตน และยังมีโรคประจำตัวด้วย ก่อนหน้านี้ นายลำดวน ได้เดินทางไปที่ จ.เพชรบุรี ไปหาภรรยาและรับลูกมาอยู่ที่นครศรีธรรมราช ด้วยเมื่อทราบเรื่องจึงเดินกลับมาหาผู้ใหญ่บ้านและเข้ามอบตัวเขาอยู่บ้านตลอด บ้านก็อยู่ห่างจากโรงพักแค่ 1.5 กม.ออกหมายจับตั้งหลายวันแล้วเหตุใดตำรวจจึงไม่เข้าจับกุม

ขณะที่ นายอำนวย จริตงาม ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 บ้านลำนาว ในฐานะผู้นำนายลำดวนเข้ามอบตัวกล่าวว่าอยากรู้ว่าตำรวจใช้พยานหลักฐานอะไรในการขอหมายจับ เขาอยู่บ้านตลอดเหตุใดจึงไม่เร่งรัดจับกุม ซึ่งเมื่อเข้ามอบตัวแล้วเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้ต้องหาและขอฝากในเรื่องของความปลอดภัยด้วย

ต่อมา นายมนัส เพ็งสุทธิ์ นายอำเภอบางขัน ได้นำตัวนายลำดวนผู้ต้องเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอน ซึ่งเมื่อ พล.ต.ต.สราวุธ สอบถามถึงบันทึกการมอบตัวนั้นจะให้บันทึกฝ่ายปกครองเป็นรู้รับมอบหรือไม่นายมนัส ระบุว่าให้นายอำนวยเป็นผู้พาตัวมาส่งมอบ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกและสอบปากคำเบื้องต้นทันที โดยทุกขั้นตอนเป็นที่น่าสังเกตว่านายลำดวนยังคงมีหน้ายิ้มแย้มไม่วิตกกังวลใดๆ เลย ขณะที่ผู้ที่ติดตามนายลำดวนบางคนนั้นมีสีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด และบางคนนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าเป็นผู้ติดตามนักการเมืองใหญ่คนหนึ่ง

พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรับมอบตัวนายลำดวน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว ส่วนอีกรายนั้นยังหลบหนี แม้ว่าผู้ต้องหาจะปฏิเสธแต่ในทางการสืบสวนและสอบสวนนั้น พบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องชัดเจนแต่ไม่ขอบอกว่าเกี่ยวอย่างไร บอกได้เพียงว่าตามกระบวนการสอบสวนสืบสวนนั้นผู้ต้องรายนี้เป็น 1 ในทีมงานสังหาร ศาลจึงออกหมายจับให้ แม้ว่าผู้ต้องหาจะปฏิเสธในทางคดีนั้นต้องว่าไปตามพยานหลักฐานที่มี

ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งในสายงานสืบสวน เปิดเผยว่า จากการสืบสวน ผู้ต้องหารายนี้นั้นเป็น 1 ใน 4 คน ที่เข้ามาก่อเหตุสังหาร นายอธิวัฒน์ แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือแบ่งงานกันทำในหน้าที่ใด หลังจากก่อเหตุได้แยกย้ายกับหลบหนี ซึ่งการสืบสวนของเจ้าหน้าที่นั้นชัดเจนหมดแล้วทั้งการจ้างวานหรือแม้กระทั่งผู้ที่รับเงินไปแบ่งจ่ายให้ทีมลงมือสังหาร

สำหรับอาวุธปืนขนาด .32 ปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้นมีการสืบสวนจนพบแล้วว่าปืนดังกล่าวนั้นเป็นปืนที่มีทะเบียนอยู่ใน จ.สุราษฎร์ธานี แต่เจ้าของได้แจ้งหายไว้นานแล้ว ในทางการสืบสวนนั้นพบว่าปืนกระบอกนี้ก่อนเกิดเหตุสังหาร นายอธิวัฒน์ ได้มาอยู่ในความครอบครองของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้กว้างขวางรายหนึ่งในอำเภอแถบชายฝั่งทะเลของนครศรีธรรมราช

จนกระทั่งได้มาเกิดเหตุขึ้น และมีความเชื่อมโยงระหว่างผู้ที่บงการกับนักการเมืองท้องถิ่นรายนี้อย่างแยกไม่ออกทั้งความสัมพันธ์ด้านการช่วยเหลือเกื้อกูลต่างๆ ทั้งงานด้านการเมืองและงานในด้านมืด ขณะเดียวกันยังมีคนในเครื่องแบบรายหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในการชี้เป้าให้ทีมสังหารลงมือปฏิบัติการ
กำลังโหลดความคิดเห็น