ตำรวจเชื่อปมฆ่า 2 สามี-ภรรยา ชนวนจากธุรกิจปล่อยเงินกู้ คนร้ายต้องการล้างหนี้ ชี้มือสังหารมีมากกว่าหนึ่งคน และสนิทสนมกับผู้ตายเป็นอย่างดี ได้เร่งสอบพยานแวดล้อมและญาติ พร้อมกู้คืนข้อมูลในคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้องกับการตายนำตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว
จากเกตุการณ์ที่คนร้ายก่อเหตุอุกอาจใช้อาวุธปืนสังหารโหด นายอนุศักดิ์ วรรณสกุล อายุ 38 ปี และน.ส.รจนา พงษ์โสภิตา อายุ 48 ปี 2 สามีภรรยา ภายในบ้านเลขที่ 3 ซอยอ่อนนุช 12 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ว่าน่าจะมาจากเรื่องการเงินที่ผู้ตายปล่อยเงินกู้และทำธุรกิจนอกกฎหมาย ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (7 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.พระโขนง เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามหาเบาะแสของคนร้าย โดยมีการสนธิกำลังกันระหว่าง กก.สส.บก.น.5 ศส.บช.น. และฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ทั้งที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจพิสูจน์รอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย รวมถึงขนาดของกระสุนที่คนร้ายใช้สังหารผู้ตาย คาดว่าผลตรวจจากนิติเวชน่าจะได้เร็วๆ นี้ ขณะเดียวกันก็มีการสอบพยานไปแล้วหลายปาก ญาติของผู้ตายก็ให้ความร่วมมือและการเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม คนร้ายที่ก่อเหตุไม่น่าจะมีเพียงคนเดียว และเป็นคนที่รู้จักสนิทสนมคุ้ยเคยกับผู้ตายเป็นอย่างดี สามารถเข้าออกบ้านของผู้ตายได้ ซึ่งหลักฐานที่มีอยู่น่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้เร็วๆนี้
ด้าน พ.ต.ท.รณชัย รอดลอย สว.สส.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว จำนวน 6 ปาก ทั้งญาติของผู้ตายและพยานแวดล้อม นอกจากนี้ยังได้เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุพร้อมกับญาติของผู้ตายอีกครั้ง เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยในวันนี้จะนำคอมพิวเตอร์ของผู้ตายไปทำการกู้คืน เพราะอาจจะมีข้อมูลสำคัญหายไปในวันที่เกิดเหตุ และจะนำเอกสารทั้งหมดที่อยู่ในบ้านไปตรวจสอบด้วย แต่เบื้องต้นยังไม่พบเอกสารที่เกี่ยวกับสัญญาการกู้เงิน รายชื่อของลูกหนี้ หรือเอกสารที่เกี่ยวกับธุรกิจของผู้ตายเลย แต่จากการสอบปากคำเพื่อนสนิทของผู้ตายทราบว่า สมุดโน้ตเล่มเล็กที่ผู้ตายพกติดตัวตลอดเวลาได้หายไปพร้อมกับปืน ซึ่งไม่ทราบว่าสมุดเล่มดังกล่าวผู้ตายได้บันทึกอะไรเอาไว้บ้าง ส่วนปืนที่หายไปตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นอาวุธปืนขนาด.357 จำนวน1 กระบอกและปืนออโตเมติก ขนาด.38อีก 1 กระบอก ซึ่งเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้อง แต่ปืนขนาด .38 ผู้ตายได้ซื้อต่อมาจากเพื่อนและอยู่ระหว่างการรับโอน
พ.ต.ท.รณชัย กล่าวต่อไปว่า ขณะนึ้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุจากกองพิสูจน์หลักฐานและนิติเวช นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะนำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ด้วย เพราะอาจจะสาวไปถึงตัวคนร้ายได้ ส่วนปมการสังหารในครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องการเงินอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคนร้ายเป็นลูกหนี้ หรือเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ซึ่งรายละเอียดแนวทางการสืบสวนที่สำคัญไม่สามารถเปิดเผยได้เกรงว่าคนร้ายจะไหวตัว ซึ่งจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อติดตามหาเบาะแสของคนร้ายและจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด