ตำรวจเชื่อปมสังหารทนายความอิสระและนักธุรกิจค้าตรงแอมเวย์เสียชีวิต มาจากการว่าความมีความขัดแย้งกับคู่ความฝั่งตรงข้าม ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบเอกสารมีความเชื่อมโยงถึงใครบ้าง ก่อนเรียกตัวสอบปากคำคลี่คลายคดีต่อไป
จากกรณีมือปืนกระหน่ำยิงนายสมเกียรติ ธาราพร อายุ 48 ปี ทนายความอิสระและนักธุรกิจค้าตรงสินค้าแอมเวย์ เสียชีวิตคารถยนต์เก๋ง วอลโว่ บริเวณปากซอยนวมินทร์ 66 แขวงคลองกลุ่ม เขตบึงกุม กทม.เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ความคืบหน้าวันนี้(7ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.สรลักษณ์ จูสนิท ผกก.สส.บก.น.4 ได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนของบก.น.4 และฝ่ายสืบสวนของสน.ลาดพร้าว เพื่อสรุปเหตุการณ์ และติดตามความคืบหน้าของคดี โดยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ใช้เวลาประชุมกว่า 1 ชั่วโมง
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พ.ต.ท.นรินทร์ สุชาติ สว.สส.บก.น.4 เปิดเผยว่า วันนี้ได้ประชุมทีมสืบสวนของ บก.น.4 และชุดสืบสวน สน.ลาดพร้าว เพื่อแบ่งประเด็นของการเสียชีวิต และแบ่งชุดทำงานติดตามความคืบหน้า ขณะนี้ยังตั้งเอาไว้หลายประเด็น เพราะยังไม่สามารถมุ่งประเด็นใดประเด็นหนึ่งเป็นประเด็นการมุ่งสังหารได้ แต่ยังคงมีประเด็นสำคัญอยู่คือประเด็นการว่าความของผู้ตายและประเด็นธุรกิจแอมเวย์ ซึ่งหลังจากประชุมแยกประเด็นได้แล้วก็จะแบ่งชุดทำงานออกแกะรอยตามประเด็นต่างๆ ประเด็นของใครของมัน
พ.ต.ท.นรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นว่าความของผู้ตายก็ต้องแบ่งชุดไปสืบอีกว่าขณะนี้หรือก่อนหน้านี้ผู้ตายได้ว่าความให้กับใคร คดีอะไรบ้าง แล้วจะประเมินอีกทีว่าคดีความไหนที่สุ่มเสี่ยงและน่าจะเป็นชนวนเหตุองการสังหารได้ ส่วนประเด็นแอมเวย์นั้นก็ต้องจัดแต่ละชุดไปตามดูว่ามีเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือมีเรื่องขัดแย้งส่วนตัวในเรื่องธุรกิจหรือไม่ เพราะการว่าจ้างมือปืนมาก่อเหตุเช่นนี้ถือว่าต้องมีการหักผลประโยชน์ หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียผลประโยชน์อย่างมาก
“นอกจากนี้เราต้องแกะรอยจากกลุ่มมือปืนด้วยว่า กลุ่มไหนซุ้มไหนก๊วนใดที่ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. อยู่ นอกจากนี้เราต้องลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งวิเคราะห์เส้นทางของคนร้ายที่มาก่อเหตุครั้งนี้ว่ามาจากทางไหน ดักซุ่มรออยู่ที่ใด นอกจากนี้เราก็ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งอาจจะจับภาพคนร้ายได้” สว.สส.บก.น.4 กล่าว
สว.สส.บก.น.4 กล่าวด้วยว่าจะเรียกเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงานของผู้ตาย รวมทั้งพยานแวดล้อมมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหามูลเหตุการณ์สังหารครั้งนี้ และจากการสอบญาติผู้ตายก็ไม่มีใครรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ตายมากนักว่าผู้ตายมีเรื่องขัดแย้งอะไรกับใคร ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้ง บก.น.4 และชุดสืบของ สน.ลาดพร้าว กำลังเร่งรัดหาข้อมูลเพื่อคลี่คลายคดี และตามจับกุมผู้ก่อเหตุและผู้จ้างวานมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากกรณีมือปืนกระหน่ำยิงนายสมเกียรติ ธาราพร อายุ 48 ปี ทนายความอิสระและนักธุรกิจค้าตรงสินค้าแอมเวย์ เสียชีวิตคารถยนต์เก๋ง วอลโว่ บริเวณปากซอยนวมินทร์ 66 แขวงคลองกลุ่ม เขตบึงกุม กทม.เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ความคืบหน้าวันนี้(7ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.สรลักษณ์ จูสนิท ผกก.สส.บก.น.4 ได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนของบก.น.4 และฝ่ายสืบสวนของสน.ลาดพร้าว เพื่อสรุปเหตุการณ์ และติดตามความคืบหน้าของคดี โดยเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ใช้เวลาประชุมกว่า 1 ชั่วโมง
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พ.ต.ท.นรินทร์ สุชาติ สว.สส.บก.น.4 เปิดเผยว่า วันนี้ได้ประชุมทีมสืบสวนของ บก.น.4 และชุดสืบสวน สน.ลาดพร้าว เพื่อแบ่งประเด็นของการเสียชีวิต และแบ่งชุดทำงานติดตามความคืบหน้า ขณะนี้ยังตั้งเอาไว้หลายประเด็น เพราะยังไม่สามารถมุ่งประเด็นใดประเด็นหนึ่งเป็นประเด็นการมุ่งสังหารได้ แต่ยังคงมีประเด็นสำคัญอยู่คือประเด็นการว่าความของผู้ตายและประเด็นธุรกิจแอมเวย์ ซึ่งหลังจากประชุมแยกประเด็นได้แล้วก็จะแบ่งชุดทำงานออกแกะรอยตามประเด็นต่างๆ ประเด็นของใครของมัน
พ.ต.ท.นรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นว่าความของผู้ตายก็ต้องแบ่งชุดไปสืบอีกว่าขณะนี้หรือก่อนหน้านี้ผู้ตายได้ว่าความให้กับใคร คดีอะไรบ้าง แล้วจะประเมินอีกทีว่าคดีความไหนที่สุ่มเสี่ยงและน่าจะเป็นชนวนเหตุองการสังหารได้ ส่วนประเด็นแอมเวย์นั้นก็ต้องจัดแต่ละชุดไปตามดูว่ามีเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือมีเรื่องขัดแย้งส่วนตัวในเรื่องธุรกิจหรือไม่ เพราะการว่าจ้างมือปืนมาก่อเหตุเช่นนี้ถือว่าต้องมีการหักผลประโยชน์ หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียผลประโยชน์อย่างมาก
“นอกจากนี้เราต้องแกะรอยจากกลุ่มมือปืนด้วยว่า กลุ่มไหนซุ้มไหนก๊วนใดที่ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. อยู่ นอกจากนี้เราต้องลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งวิเคราะห์เส้นทางของคนร้ายที่มาก่อเหตุครั้งนี้ว่ามาจากทางไหน ดักซุ่มรออยู่ที่ใด นอกจากนี้เราก็ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งอาจจะจับภาพคนร้ายได้” สว.สส.บก.น.4 กล่าว
สว.สส.บก.น.4 กล่าวด้วยว่าจะเรียกเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงานของผู้ตาย รวมทั้งพยานแวดล้อมมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหามูลเหตุการณ์สังหารครั้งนี้ และจากการสอบญาติผู้ตายก็ไม่มีใครรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ตายมากนักว่าผู้ตายมีเรื่องขัดแย้งอะไรกับใคร ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้ง บก.น.4 และชุดสืบของ สน.ลาดพร้าว กำลังเร่งรัดหาข้อมูลเพื่อคลี่คลายคดี และตามจับกุมผู้ก่อเหตุและผู้จ้างวานมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป