จนท.สป.สน.ห้วยขวาง ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อถูก “ร.ต.อ.” สน.เดียวกันใช้ปืนจี้ท้ายทอยบังคับถอดเสื้อ-ค้นตัว แจ้งข้อหาพกพาวิทยุสื่อสารไม่ได้รับอนุญาต ย้ำจะเอาผิดถึงที่สุด ขณะที่นายร้อยผู้ถูกกล่าวหา ยันทำตามนายสั่ง เพราะมีผู้ร้องเรียน จนท.คนนี้ชอบอ้างตัวเป็นตำรวจรีดไถประชาชน และพกพาอาวุธปืน ลั่นทำตามหน้าที่พร้อมสู้ยิบตา
วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.45 น.ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายอธิโชค หรือ “ตี๋” ชัยกูล อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 440 ซอยสุทธิสาร แยก 1 แขวงและเขตดินแดง ว่าถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ทำร้ายร่างกายและใช้ปืนจี้บังคับ ก่อนถูกแจ้งข้อหาพกพาวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วถูกนำตัวไปขังในห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.ห้วยขวาง จึงรีบรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึง นายอธิโชคได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม (สป.) ของ สน.ห้วยขวาง ทำหน้าที่ช่วยเหลืองานตำรวจโรงพักนี้มานานแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ตนได้รับคำสั่งให้ขับรถควบคุมผู้ต้องขังไปรับตัวเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ลักลอบเข้าไปเที่ยวในสถานบริการบริเวณปากซอยรัชดา 6 เมื่อเดินทางไปถึงก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่สายตรวจว่าให้ขับรถคันดังกล่าวไปรับตัวผู้ต้องหาต่างด้าวเพศหญิง 2 คน ซึ่งถูกจับได้ที่ไนท์แมนชั่น 2 บริเวณแยกเหม่งจ๋าย เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีที่โรงพักก่อน ตนจึงรีบเดินทางไปตามคำสั่ง
เมื่อไปถึง ตนก็รับผู้ต้องหาหญิงทั้ง 2 คนให้ขึ้นมานั่งที่เบาะด้านหน้าด้วยกัน แต่ขณะที่ตนขับรถผ่านแยกเทียมร่วมมิตร เพื่อจะมุ่งหน้าไปที่โรงพักนั้น ก็มีโทรศัพท์แจ้งเข้ามาอีกว่า ไม่ต้องเดินทางไปที่โรงพักแล้ว และให้รีบนำตัวคนต่างด้าวกลับไปส่งที่ไนท์แมนชั่น 2 อย่างเดิม ซึ่งตนก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี หลังจากที่ตนนำตัวคนต่างด้าวไปส่งตามคำสั่ง ก็รีบขับรถไปรับผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน จำนวน 17 คน ที่ถูกจับกุมตัวในข้อหาไม่พกพาบัตรประชาชน และอายุไม่ถึง 20 ปี ที่บริเวณปากซอยรัชดา 6 อีกรอบหนึ่ง หลังจากที่ตนขับรถพาเยาวชนทั้ง 17 คน มาถึงโรงพักแล้ว ก็ควบคุมตัวทั้งหมดเข้าไปทำประวัติภายในห้องสายตรวจ แต่ระหว่างที่ทำประวัติอยู่นั้น ร.ต.อ.วุฒิชัย ปักกังเวสัง รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง ที่อยู่ในอาการมึนเมา ได้เข้ามาล็อกคอตนแล้วลากตนออกมาจากห้องสายตรวจ ไปที่หน้าห้องน้ำหลังโรงพัก ก่อนจะชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกมาขึ้นลำ แล้วจ่อที่ท้ายทอยบังคับให้ตนเดินเข้าไปในห้องสืบสวน แล้วบังคับให้ตนถอดเสื้อ ทำการค้นตัว และนำโทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล และวิทยุสื่อสาร ของตนโยนไปไว้บนโต๊ะ พร้อมทั้งแจ้งข้อหาพกพาวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาตกับตน
“ในขณะที่ ร.ต.อ.วุฒิชัย จะนำตัวผมส่งให้พนักงานสอบสวน ร.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พิพัฒศุภมงคล รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผม เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยให้แล้ว แต่ทาง ร.ต.อ.วุฒิชัย ก็ไม่ยอมฟัง ซึ่งผมคาดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความเข้าใจผิดที่ทางเขาคิดว่าผมไปจับคนต่างด้าวในความดูแลของฝ่ายสืบสวนก็เป็นได้ ซึ่งผมขอยืนยันว่า หากได้รับการประกันตัวออกไปแล้วจะแจ้งความเอาผิด และทำเรื่องร้องเรียนถึงพฤติกรรมของเขาอย่างถึงที่สุด” นายอธิโชค กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน ร.ต.อ.วุฒิชัย ซึ่งเป็นคู่กรณีได้เดินทางมาที่ สน.ห้วยขวาง พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตนขอยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา เนื่องจากก่อนเกิดเหตุทาง พ.ต.ต.ภูเมศ อั้งสุวรรณกูล สว.สส.สน.ห้วยขวาง ได้สั่งการให้ตนเข้าไปจับกุมตัวนายอธิโชค เพราะสืบทราบว่านายอธิโชคชอบพกพาอาวุธปืน สวมเสื้อเกราะกันกระสุนไปแอบอ้างตัวเป็นตำรวจเพื่อรีดไถประชาชน โดยก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายบางรายเคยเดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเอาไว้แล้ว ซึ่งขณะที่ตนเข้าจับกุมก็ได้นำมือข้างหนึ่งกำด้ามปืนที่อยู่ในเอวเอาไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่านายอธิโชคพกอาวุธติดตัวหรือไม่ ถือเป็นการป้องกันตัวตามสมควรแก่เหตุ
“ส่วนเรื่องที่นายอธิโชคกล่าวหาว่าผมชักปืนออกมาขึ้นลำจ่อที่ท้ายทอยนั้น ผมไม่ทราบว่าเขามีตาด้านหลังด้วยหรือ ถึงมองเห็นได้ ซึ่งผมขอยืนยันว่าไม่ได้ชักปืนออกมาจากเอว และไม่ได้กินเหล้าเพราะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ถ้าหากนายอธิโชคต้องการจะแจ้งความหรือตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนเรื่องนี้ก็ทำได้เลย เพราะผมสามารถชี้แจงให้ผู้บังคับบัญชาทราบได้อยู่แล้วว่า ผมเข้าจับกุมผู้กระทำผิดไปตามหน้าที่จริงๆ” ร.ต.อ.วุฒิชัย กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ระยอง ยังอยู่ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาของ ร.ต.อ.วุฒิชัย นั้นมีของกลางยืนยันชัดเจนอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ฝ่ายเคยมีเรื่องกันมาก่อนหรือไม่ตนไม่ทราบ ต้องสอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนเรื่องการให้ประกันตัว นายอธิโชค ตนก็ไม่ได้ขัดข้องแต่ประการใด โดยได้ให้ญาตินำหลักทรัพย์จำนวน 20,000 บาท มาติดต่อขอประกันตัวแล้ว และหากทางนายอธิโชคต้องการจะร้องเรียนก็สามารถทำได้โดยการทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรเข้ามาหาตน ตนก็จะตั้งคณะกรรมการสอบไปตามขั้นตอน
พ.ต.อ.ระยอง กล่าวด้วยว่า ในเรื่องที่นายอธิโชคซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานไปขูดรีดผู้เสียหายจนถูกแจ้งความนั้น ตนก็ยังไม่เคยได้รับรายงานมาก่อนเลย ส่วนเรื่องที่นายอธิโชคนำรถควบคุมผู้ต้องขังของโรงพักออกไปใช้ต้องดูที่เจตนาว่าเป็นการช่วยเหลือราชการหรือไม่ หากเป็นการนำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ตนก็จะพิจารณาโทษกับผู้มีหน้าที่ดูแลรถคันดังกล่าวต่อไป
มีรายงานว่า หลังจากที่ พ.ต.อ.ระยอง ยังอยู่ ผกก.สน.ห้วยขวาง อนุญาตให้ประกันตัวนายอธิโชค ผู้ต้องหาคดีนี้แล้ว โดย ร.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พิพัฒศุภมงคล รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของนายอธิโชคได้ใช้ตำแหน่งประกันตัวลูกน้องออกไป
สำหรับ ร.ต.อ.วุฒิชัย ปักกังเวสัง รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง เมื่อปี 2550 เคยเป็นข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์มาเกือบทุกฉบับ จากเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายพนักงานเก็บขยะของ กทม. ซ้ำยังไปมีเรื่องกับ พ.ต.ท.อุดรชัย ขุนพินิจ สวป.สน.สุทธิสาร บนโรงพักที่พยายามเข้าไประงับสติอารมณ์ ร.ต.อ.วุฒิชัย หลังถูกจับกุมมายัง สน.สุทธิสาร จนพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสารได้แจ้งข้อหารวม 5 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกาย ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ พกพาอาวุธมีด และเมาสุราประพฤติตนวุ่นวายด้วย
“ผู้การ” โดดป้อง “ร.ต.อ.กร่าง นรต.54” อ้างสมานฉันท์!!
เหล้าเป็นเหตุ “ร.ต.อ.” เมากร่าง! ไล่แทงพนักงานเก็บขยะ
![นายอธิโชค หรือ “ตี๋” ไชยกูล ที่ถูก ร.ต.อ.วุฒิชัย ปักกังเวสัง รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง จับกุม](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000012770601.JPEG)
![ร.ต.อ.วุฒิชัย ปักกังเวสัง รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000012770602.JPEG)
![ร.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พิพัฒศุภมงคล รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง ผู้บังคับบัญชาของนายอธิโชค](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/551000012770603.JPEG)
วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.45 น.ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายอธิโชค หรือ “ตี๋” ชัยกูล อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 440 ซอยสุทธิสาร แยก 1 แขวงและเขตดินแดง ว่าถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง ทำร้ายร่างกายและใช้ปืนจี้บังคับ ก่อนถูกแจ้งข้อหาพกพาวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วถูกนำตัวไปขังในห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.ห้วยขวาง จึงรีบรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึง นายอธิโชคได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม (สป.) ของ สน.ห้วยขวาง ทำหน้าที่ช่วยเหลืองานตำรวจโรงพักนี้มานานแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา ตนได้รับคำสั่งให้ขับรถควบคุมผู้ต้องขังไปรับตัวเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ลักลอบเข้าไปเที่ยวในสถานบริการบริเวณปากซอยรัชดา 6 เมื่อเดินทางไปถึงก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่สายตรวจว่าให้ขับรถคันดังกล่าวไปรับตัวผู้ต้องหาต่างด้าวเพศหญิง 2 คน ซึ่งถูกจับได้ที่ไนท์แมนชั่น 2 บริเวณแยกเหม่งจ๋าย เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีที่โรงพักก่อน ตนจึงรีบเดินทางไปตามคำสั่ง
เมื่อไปถึง ตนก็รับผู้ต้องหาหญิงทั้ง 2 คนให้ขึ้นมานั่งที่เบาะด้านหน้าด้วยกัน แต่ขณะที่ตนขับรถผ่านแยกเทียมร่วมมิตร เพื่อจะมุ่งหน้าไปที่โรงพักนั้น ก็มีโทรศัพท์แจ้งเข้ามาอีกว่า ไม่ต้องเดินทางไปที่โรงพักแล้ว และให้รีบนำตัวคนต่างด้าวกลับไปส่งที่ไนท์แมนชั่น 2 อย่างเดิม ซึ่งตนก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี หลังจากที่ตนนำตัวคนต่างด้าวไปส่งตามคำสั่ง ก็รีบขับรถไปรับผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน จำนวน 17 คน ที่ถูกจับกุมตัวในข้อหาไม่พกพาบัตรประชาชน และอายุไม่ถึง 20 ปี ที่บริเวณปากซอยรัชดา 6 อีกรอบหนึ่ง หลังจากที่ตนขับรถพาเยาวชนทั้ง 17 คน มาถึงโรงพักแล้ว ก็ควบคุมตัวทั้งหมดเข้าไปทำประวัติภายในห้องสายตรวจ แต่ระหว่างที่ทำประวัติอยู่นั้น ร.ต.อ.วุฒิชัย ปักกังเวสัง รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง ที่อยู่ในอาการมึนเมา ได้เข้ามาล็อกคอตนแล้วลากตนออกมาจากห้องสายตรวจ ไปที่หน้าห้องน้ำหลังโรงพัก ก่อนจะชักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออกมาขึ้นลำ แล้วจ่อที่ท้ายทอยบังคับให้ตนเดินเข้าไปในห้องสืบสวน แล้วบังคับให้ตนถอดเสื้อ ทำการค้นตัว และนำโทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล และวิทยุสื่อสาร ของตนโยนไปไว้บนโต๊ะ พร้อมทั้งแจ้งข้อหาพกพาวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาตกับตน
“ในขณะที่ ร.ต.อ.วุฒิชัย จะนำตัวผมส่งให้พนักงานสอบสวน ร.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พิพัฒศุภมงคล รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผม เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยให้แล้ว แต่ทาง ร.ต.อ.วุฒิชัย ก็ไม่ยอมฟัง ซึ่งผมคาดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความเข้าใจผิดที่ทางเขาคิดว่าผมไปจับคนต่างด้าวในความดูแลของฝ่ายสืบสวนก็เป็นได้ ซึ่งผมขอยืนยันว่า หากได้รับการประกันตัวออกไปแล้วจะแจ้งความเอาผิด และทำเรื่องร้องเรียนถึงพฤติกรรมของเขาอย่างถึงที่สุด” นายอธิโชค กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน ร.ต.อ.วุฒิชัย ซึ่งเป็นคู่กรณีได้เดินทางมาที่ สน.ห้วยขวาง พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตนขอยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา เนื่องจากก่อนเกิดเหตุทาง พ.ต.ต.ภูเมศ อั้งสุวรรณกูล สว.สส.สน.ห้วยขวาง ได้สั่งการให้ตนเข้าไปจับกุมตัวนายอธิโชค เพราะสืบทราบว่านายอธิโชคชอบพกพาอาวุธปืน สวมเสื้อเกราะกันกระสุนไปแอบอ้างตัวเป็นตำรวจเพื่อรีดไถประชาชน โดยก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายบางรายเคยเดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเอาไว้แล้ว ซึ่งขณะที่ตนเข้าจับกุมก็ได้นำมือข้างหนึ่งกำด้ามปืนที่อยู่ในเอวเอาไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่านายอธิโชคพกอาวุธติดตัวหรือไม่ ถือเป็นการป้องกันตัวตามสมควรแก่เหตุ
“ส่วนเรื่องที่นายอธิโชคกล่าวหาว่าผมชักปืนออกมาขึ้นลำจ่อที่ท้ายทอยนั้น ผมไม่ทราบว่าเขามีตาด้านหลังด้วยหรือ ถึงมองเห็นได้ ซึ่งผมขอยืนยันว่าไม่ได้ชักปืนออกมาจากเอว และไม่ได้กินเหล้าเพราะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ถ้าหากนายอธิโชคต้องการจะแจ้งความหรือตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนเรื่องนี้ก็ทำได้เลย เพราะผมสามารถชี้แจงให้ผู้บังคับบัญชาทราบได้อยู่แล้วว่า ผมเข้าจับกุมผู้กระทำผิดไปตามหน้าที่จริงๆ” ร.ต.อ.วุฒิชัย กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ระยอง ยังอยู่ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาของ ร.ต.อ.วุฒิชัย นั้นมีของกลางยืนยันชัดเจนอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ฝ่ายเคยมีเรื่องกันมาก่อนหรือไม่ตนไม่ทราบ ต้องสอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนเรื่องการให้ประกันตัว นายอธิโชค ตนก็ไม่ได้ขัดข้องแต่ประการใด โดยได้ให้ญาตินำหลักทรัพย์จำนวน 20,000 บาท มาติดต่อขอประกันตัวแล้ว และหากทางนายอธิโชคต้องการจะร้องเรียนก็สามารถทำได้โดยการทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรเข้ามาหาตน ตนก็จะตั้งคณะกรรมการสอบไปตามขั้นตอน
พ.ต.อ.ระยอง กล่าวด้วยว่า ในเรื่องที่นายอธิโชคซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานไปขูดรีดผู้เสียหายจนถูกแจ้งความนั้น ตนก็ยังไม่เคยได้รับรายงานมาก่อนเลย ส่วนเรื่องที่นายอธิโชคนำรถควบคุมผู้ต้องขังของโรงพักออกไปใช้ต้องดูที่เจตนาว่าเป็นการช่วยเหลือราชการหรือไม่ หากเป็นการนำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ตนก็จะพิจารณาโทษกับผู้มีหน้าที่ดูแลรถคันดังกล่าวต่อไป
มีรายงานว่า หลังจากที่ พ.ต.อ.ระยอง ยังอยู่ ผกก.สน.ห้วยขวาง อนุญาตให้ประกันตัวนายอธิโชค ผู้ต้องหาคดีนี้แล้ว โดย ร.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พิพัฒศุภมงคล รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของนายอธิโชคได้ใช้ตำแหน่งประกันตัวลูกน้องออกไป
สำหรับ ร.ต.อ.วุฒิชัย ปักกังเวสัง รอง สว.สส.สน.ห้วยขวาง เมื่อปี 2550 เคยเป็นข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์มาเกือบทุกฉบับ จากเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายพนักงานเก็บขยะของ กทม. ซ้ำยังไปมีเรื่องกับ พ.ต.ท.อุดรชัย ขุนพินิจ สวป.สน.สุทธิสาร บนโรงพักที่พยายามเข้าไประงับสติอารมณ์ ร.ต.อ.วุฒิชัย หลังถูกจับกุมมายัง สน.สุทธิสาร จนพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสารได้แจ้งข้อหารวม 5 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกาย ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ พกพาอาวุธมีด และเมาสุราประพฤติตนวุ่นวายด้วย
“ผู้การ” โดดป้อง “ร.ต.อ.กร่าง นรต.54” อ้างสมานฉันท์!!
เหล้าเป็นเหตุ “ร.ต.อ.” เมากร่าง! ไล่แทงพนักงานเก็บขยะ