ส.อ.กองการสารวัตรทหารบก เมาแอ๋ขับรถเฉี่ยวชนแล้วพยายามหนี คู่กรณีขับไล่ตามก็ขู่จะเอาปืนในรถมายิง ต้องโทร.ตามตำรวจมาเคลียร์ กลับอ้างตัวเป็นนายพันสาดกาแฟใส่หน้า ส.ต.อ. พอใส่กุญแจมือยังถีบหน้า ด.ต. อาละวาดจนข้าวของใน สน.พังกระจาย เรียกนายมาดูสภาพเมาหลับคาห้องขังยังส่ายหน้า
วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 02.00 น. ร.ต.อ.จิระพันธุ์ รุจิระกุล พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว รับแจ้งอุบัติเหตุรถเชี่ยวชนกัน บริเวณระหว่างซอยนวมินทร์ 109-111 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ลาดพร้าว ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีน้ำเงิน ทะเบียน วค 8815 กทม. มีนายมนัสวิน นุชนารถ อายุ 26 ปี เป็นผู้ขับขี่จอดขวางหน้ารถยนต์เก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีเทา ทะเบียน พย 9662 กทม. มีนายประพัตร์ เพ็งแข อายุ 43 ปี เป็นผู้ขับขี่โดยชายทั้ง 2 คนกำลังโต้เถียงกันไม่สามารถตกลงกันได้
ระหว่างที่มีการเจรจากันในที่เกิดเหตุ นายประพัตร์มีอาการคล้ายคนเมาสุรา พูดจาเอะอะโวยวายไม่ยอมรับผิด พร้อมกับด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไประงับเหตุ อีกทั้งยังอ้างตัวเองว่าเป็นนายทหารยศพันโท เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวทั้ง 2 ฝ่ายไปสอบสวนที่ สน.ลาดพร้าว แต่นายประพัตร์ไม่ยอม ส.ต.อ.พิชัย ศรีอุ้มสุข ผบ.หมู่ ป.สน.ลาดพร้าว และ ด.ต.วิวัฒธนา ทวีอร่ามเรือง ผบ.หมู่ ป.สน.ลาดพร้าว ได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้ไปที่ สน. แต่นายประพัตร์ก็ไม่ยอมไป พร้อมกับอ้างว่าให้คุยกับนายผู้ใหญ่ก่อน โดยอ้างว่าต้องให้ เสธ.แดง มาเคลียร์ จากนั้นก็สาดกาแฟร้อนที่เพิ่งซื้อออกมาจากร้านเซเว่นฯ ใส่หน้า ส.ต.อ.พิชัย และจะปรี่เข้าไปชกต่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันล็อกตัวแล้วใส่กุญแจมือ
ขณะที่ ด.ต.วิวัฒธนา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่นกำลังควบคุมตัวนายประพัตร์มาสอบสวนที่ สน. และได้นำตัวนายประพัตร์ขึ้นบนกระบะท้ายรถตำรวจ โดยที่ ด.ต.วิวัฒธนา กำลังปิดฝาท้าย จู่ๆนายประพัตร์ก็ถีบเข้าที่ใบหน้าของ ด.ต.วิวัฒธนา อย่างแรง จนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลช้ำบวมบริเวณใบหน้าด้านซ้าย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ค้นตัวนายประพัตร์ที่อ้างว่าเป็นนายทหารยศพันโท พบเอกสารระบุชื่อ ส.อ.ประพัตร์ เพ็งแข อายุ 43 ปี สังกัดกองการสารวัตรทหารบก
ส.ต.อ.พิชัย กล่าวว่า ระหว่างที่ออกตรวจตราท้องที่ก็ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุแล้วคู่กรณีตกลงกันไม่ได้ จึงได้ไปช่วยร้อยเวรดูที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึง ส.อ.ประพัตร์ ก็เอะอะโวยวายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับอ้างว่าตัวเองเป็นนายทหารยศพันโท และพยายามจะปรี่เข้ามาหาตน ตนจึงใช้มือดันตัว ส.อ.ประพัตร์ ออกไปให้ห่าง ระหว่างนั้น ส.อ.ประพัตร์ ก็สาดกาแฟร้อนมาใส่ที่หน้าตนทันที ตนรู้สึกแสบร้อนมา ก่อนจะเข้าล็อคตัวโดยมีเพื่อนตำรวจช่วยกัน จากนั้นก็ใส่กุญแจมือเอาไว้
ด้าน ด.ต.วิวัฒธนา กล่าวว่า ตนตามไปสมทบทีหลัง จากนั้นก็ช่วยกันควบคุมตัว ส.อ.ประพัตร์ เพราะเป็นคนตัวสูงใหญ่ เมื่อเอา ส.อ.ประพัตร์ ขึ้นกระบะท้ายรถ เขาก็เอนตัวลงนอน ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะเหตุการณ์ตอนนั้นเริ่มสงบแล้ว จังหวะที่ตนกำลังปิดฝาท้ายรถก็ถูกเท้าของ ส.อ.ประพัตร์ ถีบเข้าที่หน้าอย่างจัง
“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้ พูดกันดีๆ ก็ได้ อีกอย่างผมก็ไม่ได้เป็นคู่กรณีของเขา และไม่ได้พูดจาโต้ตอบด่าทอกับเขาด้วย แต่ผมพูดกับเขาดีๆ เกลี้ยกล่อมให้เขามาคุยที่โรงพัก จนเขายอมขึ้นรถ แต่เขาก็ถีบผมจนได้รับบาดเจ็บที่แก้มซ้าย ผมก็เข้าใจว่าเขาเมาจนขาดสติและคงโกรธแค้นตำรวจที่จะมาควบคุมตัวเขา แต่เขาก็ไม่น่าทำแบบนี้” ด.ต.วิวัฒธนา กล่าว
ส่วน นายมนัสวิน กล่าวว่า ตนขับรถจะกลับบ้าน แต่รถคู่กรณีไปขับมาชนประตูด้านซ้ายจนเป็นรอยบุบ จากนั้นก็ได้ขับหลบหนี ตนไม่ยอมจึงขับไล่ตามไปแล้วขับปาดหน้าเพื่อให้หยุดรถมาคุยกัน กระทั่งมาหยุดได้ช่วงบริเวณซอยนวมินทร์ 111 ตนก็ลงจากรถไปเคาะกระจกเพื่อตกลงกัน แต่เมื่อไปถึงคู่กรณีก็เอะอะโวยวาย บอกว่าเป็นทหาร พร้อมกับข่มขู่ว่ามีปืน ถ้าไม่ยอมจบก็จะเจอดี ตนเลยไปขอความช่วยเหลือกับตำรวจ จนเกิดเรื่องดังกล่าวตามมา
ร.ต.อ.จิระพันธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ กับ ส.อ.ประพัตร์ ส่วนข้อหาขับรถขณะมึนเมาสุรานั้นยังไม่ได้แจ้ง เพราะยังไม่สามารถให้เป่าเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ได้ เนื่องจาก ส.อ.ประพัตร์ อยู่ในสภาพที่ฉุนเฉียว จึงควบคุมตัวไว้ในห้องขังเพื่อให้สงบสติอารมณ์ก่อน จากนั้นก็จะแจ้งให้ต้นสังกัดทราบ เพื่อรอสอบสวนพร้อมกับทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว ส.อ.ประพัตร์ มาที่ สน.ลาดพร้าว แล้วก็ยังพูดจาเอะอะโวยวายอยู่ตลอด และยังได้ทำลายข้าวของจนได้รับความเสียหายหลายอย่างทั้งหลอดไฟ และกล้องวงจรปิด จากนั้นในเวลาต่อมาผู้บังคับบัญชาของ ส.อ.ประพัตร์ก็เดินทางมาที่ สน.เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อได้ฟังคำชี้แจงจากร้อยเวรและไปดูสภาพ ส.อ.ประพัตร์ในห้องขังซึ่งนอนหลับไปแล้วถึงกับส่ายหัว พร้อมบอกกับร้อยเวรว่าให้ขังเอาไว้ก่อน เอาไว้ตอนเช้าจะส่งเจ้าหน้าที่ทหารมาร่วมสอบสวน และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 02.00 น. ร.ต.อ.จิระพันธุ์ รุจิระกุล พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว รับแจ้งอุบัติเหตุรถเชี่ยวชนกัน บริเวณระหว่างซอยนวมินทร์ 109-111 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ลาดพร้าว ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีน้ำเงิน ทะเบียน วค 8815 กทม. มีนายมนัสวิน นุชนารถ อายุ 26 ปี เป็นผู้ขับขี่จอดขวางหน้ารถยนต์เก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีเทา ทะเบียน พย 9662 กทม. มีนายประพัตร์ เพ็งแข อายุ 43 ปี เป็นผู้ขับขี่โดยชายทั้ง 2 คนกำลังโต้เถียงกันไม่สามารถตกลงกันได้
ระหว่างที่มีการเจรจากันในที่เกิดเหตุ นายประพัตร์มีอาการคล้ายคนเมาสุรา พูดจาเอะอะโวยวายไม่ยอมรับผิด พร้อมกับด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไประงับเหตุ อีกทั้งยังอ้างตัวเองว่าเป็นนายทหารยศพันโท เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวทั้ง 2 ฝ่ายไปสอบสวนที่ สน.ลาดพร้าว แต่นายประพัตร์ไม่ยอม ส.ต.อ.พิชัย ศรีอุ้มสุข ผบ.หมู่ ป.สน.ลาดพร้าว และ ด.ต.วิวัฒธนา ทวีอร่ามเรือง ผบ.หมู่ ป.สน.ลาดพร้าว ได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้ไปที่ สน. แต่นายประพัตร์ก็ไม่ยอมไป พร้อมกับอ้างว่าให้คุยกับนายผู้ใหญ่ก่อน โดยอ้างว่าต้องให้ เสธ.แดง มาเคลียร์ จากนั้นก็สาดกาแฟร้อนที่เพิ่งซื้อออกมาจากร้านเซเว่นฯ ใส่หน้า ส.ต.อ.พิชัย และจะปรี่เข้าไปชกต่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันล็อกตัวแล้วใส่กุญแจมือ
ขณะที่ ด.ต.วิวัฒธนา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่นกำลังควบคุมตัวนายประพัตร์มาสอบสวนที่ สน. และได้นำตัวนายประพัตร์ขึ้นบนกระบะท้ายรถตำรวจ โดยที่ ด.ต.วิวัฒธนา กำลังปิดฝาท้าย จู่ๆนายประพัตร์ก็ถีบเข้าที่ใบหน้าของ ด.ต.วิวัฒธนา อย่างแรง จนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลช้ำบวมบริเวณใบหน้าด้านซ้าย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ค้นตัวนายประพัตร์ที่อ้างว่าเป็นนายทหารยศพันโท พบเอกสารระบุชื่อ ส.อ.ประพัตร์ เพ็งแข อายุ 43 ปี สังกัดกองการสารวัตรทหารบก
ส.ต.อ.พิชัย กล่าวว่า ระหว่างที่ออกตรวจตราท้องที่ก็ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุแล้วคู่กรณีตกลงกันไม่ได้ จึงได้ไปช่วยร้อยเวรดูที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึง ส.อ.ประพัตร์ ก็เอะอะโวยวายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับอ้างว่าตัวเองเป็นนายทหารยศพันโท และพยายามจะปรี่เข้ามาหาตน ตนจึงใช้มือดันตัว ส.อ.ประพัตร์ ออกไปให้ห่าง ระหว่างนั้น ส.อ.ประพัตร์ ก็สาดกาแฟร้อนมาใส่ที่หน้าตนทันที ตนรู้สึกแสบร้อนมา ก่อนจะเข้าล็อคตัวโดยมีเพื่อนตำรวจช่วยกัน จากนั้นก็ใส่กุญแจมือเอาไว้
ด้าน ด.ต.วิวัฒธนา กล่าวว่า ตนตามไปสมทบทีหลัง จากนั้นก็ช่วยกันควบคุมตัว ส.อ.ประพัตร์ เพราะเป็นคนตัวสูงใหญ่ เมื่อเอา ส.อ.ประพัตร์ ขึ้นกระบะท้ายรถ เขาก็เอนตัวลงนอน ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะเหตุการณ์ตอนนั้นเริ่มสงบแล้ว จังหวะที่ตนกำลังปิดฝาท้ายรถก็ถูกเท้าของ ส.อ.ประพัตร์ ถีบเข้าที่หน้าอย่างจัง
“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้ พูดกันดีๆ ก็ได้ อีกอย่างผมก็ไม่ได้เป็นคู่กรณีของเขา และไม่ได้พูดจาโต้ตอบด่าทอกับเขาด้วย แต่ผมพูดกับเขาดีๆ เกลี้ยกล่อมให้เขามาคุยที่โรงพัก จนเขายอมขึ้นรถ แต่เขาก็ถีบผมจนได้รับบาดเจ็บที่แก้มซ้าย ผมก็เข้าใจว่าเขาเมาจนขาดสติและคงโกรธแค้นตำรวจที่จะมาควบคุมตัวเขา แต่เขาก็ไม่น่าทำแบบนี้” ด.ต.วิวัฒธนา กล่าว
ส่วน นายมนัสวิน กล่าวว่า ตนขับรถจะกลับบ้าน แต่รถคู่กรณีไปขับมาชนประตูด้านซ้ายจนเป็นรอยบุบ จากนั้นก็ได้ขับหลบหนี ตนไม่ยอมจึงขับไล่ตามไปแล้วขับปาดหน้าเพื่อให้หยุดรถมาคุยกัน กระทั่งมาหยุดได้ช่วงบริเวณซอยนวมินทร์ 111 ตนก็ลงจากรถไปเคาะกระจกเพื่อตกลงกัน แต่เมื่อไปถึงคู่กรณีก็เอะอะโวยวาย บอกว่าเป็นทหาร พร้อมกับข่มขู่ว่ามีปืน ถ้าไม่ยอมจบก็จะเจอดี ตนเลยไปขอความช่วยเหลือกับตำรวจ จนเกิดเรื่องดังกล่าวตามมา
ร.ต.อ.จิระพันธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ กับ ส.อ.ประพัตร์ ส่วนข้อหาขับรถขณะมึนเมาสุรานั้นยังไม่ได้แจ้ง เพราะยังไม่สามารถให้เป่าเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ได้ เนื่องจาก ส.อ.ประพัตร์ อยู่ในสภาพที่ฉุนเฉียว จึงควบคุมตัวไว้ในห้องขังเพื่อให้สงบสติอารมณ์ก่อน จากนั้นก็จะแจ้งให้ต้นสังกัดทราบ เพื่อรอสอบสวนพร้อมกับทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว ส.อ.ประพัตร์ มาที่ สน.ลาดพร้าว แล้วก็ยังพูดจาเอะอะโวยวายอยู่ตลอด และยังได้ทำลายข้าวของจนได้รับความเสียหายหลายอย่างทั้งหลอดไฟ และกล้องวงจรปิด จากนั้นในเวลาต่อมาผู้บังคับบัญชาของ ส.อ.ประพัตร์ก็เดินทางมาที่ สน.เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อได้ฟังคำชี้แจงจากร้อยเวรและไปดูสภาพ ส.อ.ประพัตร์ในห้องขังซึ่งนอนหลับไปแล้วถึงกับส่ายหัว พร้อมบอกกับร้อยเวรว่าให้ขังเอาไว้ก่อน เอาไว้ตอนเช้าจะส่งเจ้าหน้าที่ทหารมาร่วมสอบสวน และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป