นครศรีธรรมราช – คนร้ายนครศรีธรรมราชออกอาละวาดคงปืนจี้เซเว่น-อีเลฟเว่น ฉกเงินแค่พันกว่าบาท ก่อนหน้านี้ปล้นฆ่ารายวัน 2 รายซ้อน หวั่นเหตุพิษเศรษฐกิจทรุดส่งผลให้เกิดโจรชุกชุม
เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (14 ธ.ค.) ร.ต.ท.สุพจน์ เทือกสุบรรณ ร้อยเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านเซฟเวน-อีเลฟเว่น สาขาถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จึงเข้าทำการสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ รอง ผกก.ป.และสายตรวจ ในที่เกิดเหตุพบพนักงานร้านยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตื่นตระหนก ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นิชาพร กาญจนอักษร อายุ 26 ปี อยู่ 157/12 ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นเจ้าหน้าที่แคชเชียร์เวรช่วงเกิดเหตุ
น.ส.นิชาพร แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าก่อนเกิดเหตุนั้นได้มีคนร้าย 1 คน อายุประมาณ 30 ปีเศษ สวมเสื้อแจ็กเกตชนิดมีหมวกคลุมศีรษะเข้ามาในร้าน และใช้อาวุธปืนจี้บังคับเอาเงินที่ได้จากการขายสินค้าในช่วงกลางคืนจำนวน 1,220 บาท ที่อยู่ในลิ้นชักเครื่องคิดเงินก่อนที่จะออกไปจากร้านซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนรออยู่หลบหนีไปทางถนนเทวบุรีโดยไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นนั้นคาดว่าคนร้ายอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 วันที่ผ่านมาคดีอุกฉกรรจ์ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายแรกเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดย ร.ต.อ.ศุภชัย งามปลอด ร้อยเวร สภ.จุฬาภรณ์ นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกปล้นฆ่าเจ้าของร้านอู่ซ่อมรถยนต์เลขที่ 15/3 ม.1 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์
หลังจากเข้าสอบสวนพบศพ นายสุธี แซ่เห้ง อายุ 56 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ดังกล่าว โดยเบื้องต้นนั้นคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็น สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น เงินสด 5,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
นางพูนศรี แซ่เห้ง ภรรยาผู้ตายซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่านายสุธี พร้อมกับตนได้อพยพมากจากจังหวัดยะลา หนีสถานการณ์รุนแรง มาปักหลักประกอบอาชีพในที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายรวม 5 คน ใช้มีดเป็นอาวุธงัดบ้านบุกเข้าในขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้องจากนั้นได้รุมทำร้ายจนนายสุธีเสียชีวิต แล้วรื้อค้นเอาทรัพย์สินหลบหนีไป
นอกจากนี้ ในเวลาไล่เลี่ยกัน ร.ต.ท.ศิริธรรม นาควรรณ ร้อยเวร สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ที่หน้าบ้านเลขที่ 169/1 ม.6 ต.เสาเภา อ.สิชล จึงเข้าทำการสอบสวนพบศพนายฉัตรระวี วาววัง อายุ 20 ปี อยู่ 2/59 ม.1 ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ สภาพศพนอนจมกองเลือดหน้าบ้านดังกล่าว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าบริเวณกกหูซ้าย 1 นัด นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ชาวบ้านนำตัวส่ง รพ.ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง เบื้องต้นทราบว่าเป็นบิดาของนายฉัตรระวี อยู่ในอาการสาหัสไม่สามารถให้การได้
สอบสวนทราบว่านายฉัตรระวีพร้อมด้วยบิดาได้มาร่วมงานศพของญาติในละแวก ต.เสาเภา โดยได้เข้าร่วมเล่นพนันที่จัดขึ้นภายในงานจนชนะได้เงินมาราว 6 หมื่นบาทเศษ หลังจากนั้นนายฉัตรระวีพร้อมด้วยบิดา ได้ปลีกตัวจากวงพนันกลับบ้าน
ขณะที่กลับมาถึงบ้านได้มีคนร้ายไม่น้อยกว่า 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ตามมาใช้อาวุธปืนจี้บังคับเอาเงินที่ได้มาจากการเล่นพนันในงานศพแต่นายฉัตรระวีขัดขืนจึงถูกคนร้ายยิงจนเสียชีวิตส่วนบิดาพยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่ถูกคนร้ายยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกคนส่วนเงินที่ได้มาจากวงพนันถูกคนร้ายชิงไปจนหมด
เบื้องต้นนั้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายเป็นคนในวงพนันที่เล่นเสียแล้วจึงตามมาปล้นชิงเงินคืนก็เป็นได้ ซึ่งจะได้สืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (14 ธ.ค.) ร.ต.ท.สุพจน์ เทือกสุบรรณ ร้อยเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านเซฟเวน-อีเลฟเว่น สาขาถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จึงเข้าทำการสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ รอง ผกก.ป.และสายตรวจ ในที่เกิดเหตุพบพนักงานร้านยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตื่นตระหนก ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นิชาพร กาญจนอักษร อายุ 26 ปี อยู่ 157/12 ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นเจ้าหน้าที่แคชเชียร์เวรช่วงเกิดเหตุ
น.ส.นิชาพร แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าก่อนเกิดเหตุนั้นได้มีคนร้าย 1 คน อายุประมาณ 30 ปีเศษ สวมเสื้อแจ็กเกตชนิดมีหมวกคลุมศีรษะเข้ามาในร้าน และใช้อาวุธปืนจี้บังคับเอาเงินที่ได้จากการขายสินค้าในช่วงกลางคืนจำนวน 1,220 บาท ที่อยู่ในลิ้นชักเครื่องคิดเงินก่อนที่จะออกไปจากร้านซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนรออยู่หลบหนีไปทางถนนเทวบุรีโดยไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นนั้นคาดว่าคนร้ายอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 วันที่ผ่านมาคดีอุกฉกรรจ์ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายแรกเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดย ร.ต.อ.ศุภชัย งามปลอด ร้อยเวร สภ.จุฬาภรณ์ นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกปล้นฆ่าเจ้าของร้านอู่ซ่อมรถยนต์เลขที่ 15/3 ม.1 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์
หลังจากเข้าสอบสวนพบศพ นายสุธี แซ่เห้ง อายุ 56 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ดังกล่าว โดยเบื้องต้นนั้นคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็น สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น เงินสด 5,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
นางพูนศรี แซ่เห้ง ภรรยาผู้ตายซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่านายสุธี พร้อมกับตนได้อพยพมากจากจังหวัดยะลา หนีสถานการณ์รุนแรง มาปักหลักประกอบอาชีพในที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายรวม 5 คน ใช้มีดเป็นอาวุธงัดบ้านบุกเข้าในขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้องจากนั้นได้รุมทำร้ายจนนายสุธีเสียชีวิต แล้วรื้อค้นเอาทรัพย์สินหลบหนีไป
นอกจากนี้ ในเวลาไล่เลี่ยกัน ร.ต.ท.ศิริธรรม นาควรรณ ร้อยเวร สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ที่หน้าบ้านเลขที่ 169/1 ม.6 ต.เสาเภา อ.สิชล จึงเข้าทำการสอบสวนพบศพนายฉัตรระวี วาววัง อายุ 20 ปี อยู่ 2/59 ม.1 ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ สภาพศพนอนจมกองเลือดหน้าบ้านดังกล่าว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าบริเวณกกหูซ้าย 1 นัด นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ชาวบ้านนำตัวส่ง รพ.ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง เบื้องต้นทราบว่าเป็นบิดาของนายฉัตรระวี อยู่ในอาการสาหัสไม่สามารถให้การได้
สอบสวนทราบว่านายฉัตรระวีพร้อมด้วยบิดาได้มาร่วมงานศพของญาติในละแวก ต.เสาเภา โดยได้เข้าร่วมเล่นพนันที่จัดขึ้นภายในงานจนชนะได้เงินมาราว 6 หมื่นบาทเศษ หลังจากนั้นนายฉัตรระวีพร้อมด้วยบิดา ได้ปลีกตัวจากวงพนันกลับบ้าน
ขณะที่กลับมาถึงบ้านได้มีคนร้ายไม่น้อยกว่า 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์ตามมาใช้อาวุธปืนจี้บังคับเอาเงินที่ได้มาจากการเล่นพนันในงานศพแต่นายฉัตรระวีขัดขืนจึงถูกคนร้ายยิงจนเสียชีวิตส่วนบิดาพยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่ถูกคนร้ายยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกคนส่วนเงินที่ได้มาจากวงพนันถูกคนร้ายชิงไปจนหมด
เบื้องต้นนั้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายเป็นคนในวงพนันที่เล่นเสียแล้วจึงตามมาปล้นชิงเงินคืนก็เป็นได้ ซึ่งจะได้สืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
