ป.ป.ส.เตรียมขยายผลสอบวินัยข้าราชการระดับสูง พัวพันอมเงินล่อซื้อยาบ้า 10 ล้าน คาดใช้เวลาไม่นานเพราะการเบิกจ่ายเงินต้องมีขั้นตอน
วันนี้ (26 ก.ย.) นายชายชาติ สุทธิกลม ที่ปรึกษาด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีการยักยอกเงินล่อซื้อยาเสพติด สำนักงานป.ป.ส.ภาค 7 จำนวน 10 ล้านบาท ว่า ป.ป.ส.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ธุรการ ระดับ 5 ที่ยักยอกเงินของทางราชการ และได้สั่งตรวจสอบเงินล่อซื้อยาเสพติดของป.ป.ส.ทุกภาคแล้ว ไม่พบปัญหาเงินล่อซื้อสูญหายจากบัญชีป.ป.ส.ในภาคอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ป.ป.ส.ยังคงขยายผลการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย ส่วนจะตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงข้าราชการระดับใดบ้างนั้น ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เพราะตามขั้นตอนปกติการขอยืมเงินจากสำนักงานป.ป.ส. เพื่อล่อซื้อยาเสพติดร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเสร็จสิ้นภารกิจจะต้องส่งเงินคืนเพื่อเข้าบัญชีภายใน 7 วัน จากเหตุการณ์ยักยอกเงินดังกล่าวคาดว่า เจ้าหน้าที่อาจส่งเงินคืนแล้วแต่ เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่นำเงินเข้าบัญชี ส่วนประเด็นที่คาดว่าเป็นการเบิกเงินออกจากบัญชีด้วยตัวเองคงทำไม่ได้ เพราะผู้มีอำนาจเบิกจ่ายต้องเป็น ผอ.สำนักงานป.ป.ส.ภาค ต่างๆ
นายมนตรี จิตมหาวงศ์ ที่ปรึกษาด้านการปราบปรามยาเสพติด ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบวินัยกรณีการยักยอกเงินล่อซื้อยาเสพติด เปิดเผยว่า ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารทางการเงินทั้งหมดว่า มีข้าราชการคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง คาดว่าการสอบสวนจะใช้เวลาไม่นาน เพราะการเบิกจ่ายเงินทุกขั้นตอนมีเอกสารควบคุมอย่างรัดกุม ส่วนการร่วมรับผิดของผู้บังคับบัญชาเนื่องจากข้าราชการธุรการระดับ 5 ไม่มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงิน เว้นแต่มีลายเซ็นของผอ.สำนักงานภาค กรณีดังกล่าวคงต้องรอการตัดสินใจจากพล.ต.ท.กฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการป.ป.ส.
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ป.ป.ส.ที่ยักยอกเงินล่อซื้อ มีความสนิทสนมกับผู้บริหารระดับสูงบางคนในสำนักงานป.ป.ส. จนได้รับความไว้วางใจมอบหมายให้ดูแลเงิน โดยขณะนั้นผู้บริหารคนดังกล่าว ทำหน้าที่เป็นผอ.สำนักงานป.ป.ส.ภาค 7 ก่อนจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูง
