แก๊งโจรดักกระโดดถีบ จยย.พนักงานปั๊มน้ำมัน ปตท.ล้ม ใช้ปืนจี้กระชากกระเป๋าเชิดเงิน 6 แสนบาท หน้าปั๊มแถวบางนา-ตราด ขณะเตรียมขนไปฝากแบงก์ ก่อนขึ้นกระบะที่พวกซุ่มสตาร์ทรอจังหวะขับซิ่งหนีลอยนวล แม่เจ้าของสงสัยลูกน้อง 3 คนที่เคยยักยอกเงินปั๊มเป็นสายให้คนร้าย เพราะช่วงเกิดเหตุหายตัวไป แถมคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวภายในปั๊มเป็นอย่างดี
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ท. เฉลิมเกียรติ รุ่งมณี สารวัตรเวร สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุปล้นทรัพย์ ที่ปั๊ม ปตท.สาขาบางนา-ตราด กม.7 เลขที่ 41/5 หมู่ 13 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งเหตุ ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.สมพร รัตนิมิต อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่95/9 หมู่ 6 ต.กุดฉิม อ.ธาตุพนม จ.นครสวรรค์ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ตนเป็นพนักงานส่งเอกสารของปั๊มน้ำมัน โดยปกติแล้วจะมารับเงิน เพื่อไปเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาอาคารบางนาทาวเวอร์ เป็นประจำทุกวัน
ก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปรับเงินในออฟฟิศที่ปั๊มน้ำมัน จำนวนเงิน 600,000 บาท และนำใส่กระเป๋าสะพาย จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าโซนิค สีดำ-แดง ทะเบียน วพม 370 กทม ขณะที่กำลังขับออกจากปั๊มบริเวณปากทางออก ติดกับถนนสุขุมวิท พบชายหนึ่งคน ยืนดักรออยู่ แล้วถีบรถจักรยานยนต์จนล้ม จากนั้นชายคนดังกล่าวได้พยายามกระชากกระเป๋าใส่เงินไป แต่ตนไม่ยอม จึงเกิดการยื้อแย่งกันขึ้น ชายคนดังกล่าวจึงชักอาวุธปืนออกมาขู่ ขณะเดียวกัน ก็มีคนร้ายอีกคนวิ่งเข้ามาใช้ปืนจี้ขู่ตนไม่ให้ขัดขืน แล้วกระฉากกระเป๋าใส่เงินไป ขณะเดียวกัน ก็มีคนร้ายอีกชุดหนึ่งขับรถกระบะ ยี่ห้อวีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน วค7069 กรุงเทพฯ ซึ่งจอดอยู่ภายในปั๊มวิ่งขับมารับคนร้ายทั้งสองคนกระโดดขึ้นกระบะหลัง ก่อนหลบหนีไปตามถนนสายบางนา-ตราด ขาเข้า จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อติดตามตัวคนร้าย
จากการสอบถาม นางรุ่งทิพย์ กสิกิตวรกุล อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นมารดาของ นายสุวิทย์ กสิกิตวรกุล เจ้าของปั๊มน้ำมัน เล่าว่า ทุกวันจะมีพนักงานนำเงินสดไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท ไปเข้าธนาคาร เบื้องต้นสงสัยพนักงานจำนวน 3 คน ซึ่งเคยก่อเหตุยักยอกเงินของปั๊มไปประมาณ 4-5 หมื่นบาท แต่ก็ถูกจับได้ และยอมรับสารภาพ ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้ว โดยทั้ง 3 คน จะขอทำงานชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว และหลังเกิดเหตุปล้นทรัพย์ พบว่า พนักงานทั้ง 3 คนได้หายตัวไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านสกัดจับตามถนนสายสำคัญต่างๆ จนได้รับแจ้งว่า พบรถกระบะวีโก้ ทะเบียนตรงตามที่แจ้ง ได้ขับไปชนกับรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายบริเวณหน้าหมู่บ้านกลางกรุงถนนศรีนครินทร์ ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนขู่เจ้าของรถจักรยานยนต์ ไม่ให้ติดตาม ก่อนขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว และจากการสอบถามพยานแวดล้อม พบว่า มีคนร้ายนอนหมอบอยู่ในกระบะหลังจำนวน 2 คน และอยู่ภายในรถ 3 คน ก่อนขับรถหลบหนี
ด้าน พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ พบว่า คนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.เป็นอย่างดี รู้เวลาที่พนักงานจะนำไปเข้าบัญชีธนาคาร โดยคนร้ายอีกชุดยังได้ขับรถรอจังหวะในการก่อเหตุ ส่วนกล้องวงจรปิดมีบางตัวที่เสียใช้การไม่ได้ แต่บางตัวยังพอเก็บภาพและถือเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญ ส่วนจะเป็นพนักงานของปั๊มทั้ง 3 คน ที่เคยมีปัญหากับปั๊มหรือไม่ยังไม่สามารถระบุได้ ซึ่งจะเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินดคีให้เร็วที่สุด
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ท. เฉลิมเกียรติ รุ่งมณี สารวัตรเวร สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุปล้นทรัพย์ ที่ปั๊ม ปตท.สาขาบางนา-ตราด กม.7 เลขที่ 41/5 หมู่ 13 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งเหตุ ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.สมพร รัตนิมิต อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่95/9 หมู่ 6 ต.กุดฉิม อ.ธาตุพนม จ.นครสวรรค์ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ตนเป็นพนักงานส่งเอกสารของปั๊มน้ำมัน โดยปกติแล้วจะมารับเงิน เพื่อไปเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาอาคารบางนาทาวเวอร์ เป็นประจำทุกวัน
ก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปรับเงินในออฟฟิศที่ปั๊มน้ำมัน จำนวนเงิน 600,000 บาท และนำใส่กระเป๋าสะพาย จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าโซนิค สีดำ-แดง ทะเบียน วพม 370 กทม ขณะที่กำลังขับออกจากปั๊มบริเวณปากทางออก ติดกับถนนสุขุมวิท พบชายหนึ่งคน ยืนดักรออยู่ แล้วถีบรถจักรยานยนต์จนล้ม จากนั้นชายคนดังกล่าวได้พยายามกระชากกระเป๋าใส่เงินไป แต่ตนไม่ยอม จึงเกิดการยื้อแย่งกันขึ้น ชายคนดังกล่าวจึงชักอาวุธปืนออกมาขู่ ขณะเดียวกัน ก็มีคนร้ายอีกคนวิ่งเข้ามาใช้ปืนจี้ขู่ตนไม่ให้ขัดขืน แล้วกระฉากกระเป๋าใส่เงินไป ขณะเดียวกัน ก็มีคนร้ายอีกชุดหนึ่งขับรถกระบะ ยี่ห้อวีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน วค7069 กรุงเทพฯ ซึ่งจอดอยู่ภายในปั๊มวิ่งขับมารับคนร้ายทั้งสองคนกระโดดขึ้นกระบะหลัง ก่อนหลบหนีไปตามถนนสายบางนา-ตราด ขาเข้า จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อติดตามตัวคนร้าย
จากการสอบถาม นางรุ่งทิพย์ กสิกิตวรกุล อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นมารดาของ นายสุวิทย์ กสิกิตวรกุล เจ้าของปั๊มน้ำมัน เล่าว่า ทุกวันจะมีพนักงานนำเงินสดไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท ไปเข้าธนาคาร เบื้องต้นสงสัยพนักงานจำนวน 3 คน ซึ่งเคยก่อเหตุยักยอกเงินของปั๊มไปประมาณ 4-5 หมื่นบาท แต่ก็ถูกจับได้ และยอมรับสารภาพ ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้ว โดยทั้ง 3 คน จะขอทำงานชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว และหลังเกิดเหตุปล้นทรัพย์ พบว่า พนักงานทั้ง 3 คนได้หายตัวไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านสกัดจับตามถนนสายสำคัญต่างๆ จนได้รับแจ้งว่า พบรถกระบะวีโก้ ทะเบียนตรงตามที่แจ้ง ได้ขับไปชนกับรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายบริเวณหน้าหมู่บ้านกลางกรุงถนนศรีนครินทร์ ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนขู่เจ้าของรถจักรยานยนต์ ไม่ให้ติดตาม ก่อนขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว และจากการสอบถามพยานแวดล้อม พบว่า มีคนร้ายนอนหมอบอยู่ในกระบะหลังจำนวน 2 คน และอยู่ภายในรถ 3 คน ก่อนขับรถหลบหนี
ด้าน พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะทัต ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ พบว่า คนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.เป็นอย่างดี รู้เวลาที่พนักงานจะนำไปเข้าบัญชีธนาคาร โดยคนร้ายอีกชุดยังได้ขับรถรอจังหวะในการก่อเหตุ ส่วนกล้องวงจรปิดมีบางตัวที่เสียใช้การไม่ได้ แต่บางตัวยังพอเก็บภาพและถือเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญ ส่วนจะเป็นพนักงานของปั๊มทั้ง 3 คน ที่เคยมีปัญหากับปั๊มหรือไม่ยังไม่สามารถระบุได้ ซึ่งจะเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินดคีให้เร็วที่สุด
