ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาคดีนัดแรก “แม้ว” ปล่อยกู้พม่าเอื้อชินฯ ศาลระบุจำเลยมีเจตนาหลบหนีคดี สั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ และให้ออกหมายจับ ขณะที่คดีทุจริตซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ ศาลนัดฟังคำพิพากษาพรุ่งนี้
วันนี้ (16 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายปัญญา สุทธิบดี รองประธานศาลฎีกา ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะ 9 คน ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีครั้งแรก ในคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2551 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานใช้อำนาจหน้าที่กระทำผิด เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเอง หรือผู้อื่นด้วยกิจการนั้น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152, 157 กรณีที่จำเลยอนุมัติเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์ ให้แก่รัฐบาลพม่า วงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการปรับปรุงระบบโทรคมนาคมของประเทศพม่า เพื่อเอื้อประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียมที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์จากบริษัทชิน แซทเทลไลท์ และบริษัทในเครือตระกูลชินวัตร
การนำพิจารณาคดีวันนี้ ทางนายสิทธิโชค ศรีเจริญ ทนายโจทก์ และคณะ และนายวัชระ สุคนธ์ กับคณะ ทนายจำเลย มาศาล ส่วนจำเลยไม่มาศาล
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยได้รับหมายเรียก ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง พฤติการณ์เชื่อว่ามีเจตนาจะหลบหนี จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว และให้ออกหมายจับจำเลยมาเพื่อพิจารณาคดีต่อไป โดยเมื่อได้ตัวจำเลยมาจึงจะนำคดีขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง ส่วนที่ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 15 ก.ย.51 ขอถอนนายวัชระ สุคนธ์ และคณะรวม 3 คน ออกจากการเป็นทนายความจำเลย องค์คณะพิจารณาแล้วอนุญาต ส่วนที่จำเลยยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 31 ก.ค.51 โต้แย้งข้อกฎหมายที่ใช้บังคับคดีนี้ว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ศาลเห็นควรมีคำสั่งประเด็นดังกล่าวไว้ในคำพิพากษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นับว่าเป็นหมายจับครั้งที่ 3 แล้ว โดยหมายจับสองครั้งแรก องค์คณะคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาฯ เป็นผู้สั่งซึ่งศาลได้สั่งปรับนายประกันแล้วเป็นเงินจำนวน 8 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานนั้น ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) เวลา 10.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาฯ มูลค่า 772 ล้านบาทเศษ ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ทั้งสอง เป็นจำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และ 157 ซึ่งอัยการขอให้ยึดที่ดินและเงินจำนวน 772 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นทรัพย์ที่กระทำผิด
อย่างไรก็ดี เมื่อขณะนี้เป็นที่ยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยทั้งสองจะไม่มาฟังคำพิพากษา ในวันพรุ่งนี้องค์คณะผู้พิพากษาจะได้ใช้ดุลยพินิจพิจารณาออกหมายจับจำเลยทั้งสองมาศาลภายใน 30 วัน หากยังไม่ได้ตัวจำเลยมา ศาลจะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยต่อไป ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เช้าวันเดียวกัน นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกรรมการบริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และนายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เป็น 1 ใน 47 จำเลยในคดีออกสลากเลขท้ายพิเศษ 2 ตัว และ 3 ตัว (หวยบนดิน) เดินทางมายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ เพื่อขอประกันตัว โดยใช้เงินสดและบัญชีเงินฝาก ประกันตัวออกไป โดยศาลตีราคาประกันคนละ500,000 บาท ซึ่งคดีหวยบนดิน องค์คณะฯ นัดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 26 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น.