xs
xsm
sm
md
lg

อัยการแถลงปิดคดีย้ำผิด “แม้ว-อ้อ” ขอศาลริบที่ดิน-เงินซื้อ 772 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ภริยา
อัยการ ยื่นคำแถลงปิดคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก สรุปข้อเท็จจริง-ข้อกฎหมาย “ทักษิณ-พจมาน” ผิดอาญา-กฎหมาย ป.ป.ช.ยันให้ศาลฎีกาฯ สั่งริบที่ดินและเงินซื้อที่ดินกว่า 772 ล้านบาทตามคำขอท้ายฟ้อง ด้านทนายหน้าเหลี่ยมระบุไม่เสียเปรียบแม้เจ้านายไม่สั่งให้ยื่นคำแถลงปิดคดี

วันนี้ (10 ก.ย.) นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคระทำงานอัยการรับผิดชอบคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กำหนดให้โจทก์-จำเลยยื่นแถลงปิดคดีภายในวันที่ 10 ก.ย.ว่า ในส่วนของอัยการ โจทก์นั้นได้ยื่นคำแถลงปิดคดีต่อศาลแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยคำแถลงปิดคดีมีความยาวกว่า 10 หน้าซึ่งเนื้อหาเป็นการประมวลข้อเท็จจริงที่เป็นพฤติการณ์การกะทำผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ภริยา จำเลยทั้งสอง ตามคำฟ้องที่นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง และคำเบิกพยานโจทก์ ประกอบกับข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นมาให้ศาลเห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.ด้วยการป้องกันและการปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 อย่างไรบ้าง ซึ่งคำแถลงปิดคดีอัยการยืนยันที่จะให้ศาลพิพากษาสั่งริบที่ดินและเงินซื้อขายที่ดินมูลค่า 772 ล้านบาทเศษด้วยตามคำขอท้ายฟ้อง

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้คู่ความจะต้องรอวันฟังคำพิพากษา ที่ศาลฎีกาฯ กำหนดนัดไว้ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งหากวันดังกล่าวจำเลยทั้งสอง ไม่มาฟังคำพิพากษา ก็ต้องรอฟังคำสั่งศาลว่าจะให้ออกหมายจับตัวมาฟังคำพิพากษา หรือจะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยทันที เพราะเวลานี้ชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานอยู่ที่ประเทศอังกฤษและจะไม่เดินทางกลับมา

ด้าน นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ หนึ่งในทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน กล่าวว่า หลังจากที่ทั้งสองประสงค์ที่ถอนตนและทนายความอีก 5 คน จากการเป็นทนายความรับผิดชอบคดีนี้แล้วตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ตนและทีมทนายความ ก็ไม่ได้รับมอบหมายจากทั้งสองที่จะให้ยื่นคำแถลงปิดคดีแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้ในชั้นไต่สวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ทั้งสองได้ยื่นคำให้การไว้แล้ว และเมื่อยื่นฟ้องคดีในชั้นสอบคำให้การจำเลย ทั้งสองก็ยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรต่อศาลไว้เช่นกัน ดังนั้น การไม่ยื่นคำแถลงปิดคดีจึงไม่ส่งผลต่อรูปคดีที่จะทำให้จำเลยเสียเปรียบ หรือเสียโอกาสในการสู้คดี เพราะที่ผ่านมาฝ่ายจำเลยได้นำสืบพยานครบถ้วน และซักค้านพยานโจทก์เต็มที่แล้ว

“ในวันนัดฟังคำพิพากษานั้น แนวทางปฏิบัติโดยทั่วไปตามที่กฎหมาย ต้องอ่านคำพิพากษาต่อหน้าจำเลย ดังนั้น หากทั้งสองไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาเป็นเรื่องดุลยพินิจที่ศาลจะมีคำสั่งต่อไป ส่วนทนายความจะเดินทางไปศาลในวันที่ 17 ก.ย.หรือไม่ คงต้องสอบถามความประสงค์จากทั้งสองอีกครั้งว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร” นายคำนวณ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น