xs
xsm
sm
md
lg

โอละพ่อ! โคตรเพชร 315 ล้าน แค่เศษแร่ 200 บาท!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

โคตรเพชร ที่คนร้ายนำมาคืน สุดท้ายแค่แร่ราคา 200 บาท
กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ เมื่อโคตรเพชร 2,100 กะรัต มูลค่า 315 ล้านบาท ที่ถูกโจรฉกไปและนำกลับมาคืนนั้น กลายเป็นแค่แร่คิวบิท มีมูลค่าเพียงแค่ 200 บาทเท่านั้น

ภายหลังจากที่ คนร้ายนำเพชรใสแอฟริกาน้ำหนัก 2,100 กะรัต มูลค่าประมาณ 315 ล้านบาท ของ นายจักพันธ์ ประมวลสุข อายุ 71 ปี ที่ขโมยไป มาคืนยังที่เกิดเหตุบริเวณภายในบริษัทจัดหางาน ซาป้า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิส จำกัด เลขที่ 161/414-411 ภายในซอยวิภาวดี 76 ถนนวิภาวดี แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.เมื่อกลางดึกวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น

วันนี้ (31 ก.ค.) พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง เปิดเผยว่า หลังจากที่คนร้ายได้นำเพชรที่ขโมยไป กลับมาคืนยังที่เกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ช่วงเช้าได้สั่งให้ พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ พนักงานสอบสวน (สบ.3) นำเพชรไปตรวจสอบที่ บริษัทบางกอก เจมส์ แอนด์ จิเวอร์รี่แฟร์ ย่านสีลม เพื่อตรวจสอบว่าเป็นเพชรจริงหรือไม่และมีมูลค่าเท่าไร โดยผู้ที่ทำการตรวจสอบเพชร คือ นายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานบริษัท บางกอก เจมส์ แอนด์ จิวเวอร์รี่แฟร์ และนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับ ซึ่งผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเพชรดังกล่าว ที่ถูกคนร้ายฉกไปนั้นเป็นเพียงแร่ชนิดหนึ่ง ชื่อ "คิวบิกเซอร์โคเนีย" ไม่ใช่เพชรแอฟริกาอย่างที่มีการแจ้งความเอาไว้ ส่วนใบเซอร์ที่นายจักพันธ์เจ้าของเพชรนำมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นพบว่าเป็นของปลอม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้นำไปให้ สถาบันอัญมณีศาสตร์สากล (International Gemological Institute) หรือ IGI ตรวจสอบแล้ว ซึ่งก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่ได้มีการออกใบรับรองดังกล่าวให้แต่อย่างใด

พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ทางสถาบันดังกล่าวไม่เคยตรวจสอบเพชรดิบ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการออกใบรับรองให้ ส่วนจะมีการแจ้งข้อหากับนายจักรพันธ์หรือไม่นั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรอให้มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความ ซึ่งเจ้าทุกข์คนแรกในคดีนี้ก็คือทางสถาบันที่นายจักรพันธ์อ้างว่าเป็นผู้ออกใบรับรองให้ และเจ้าทุกข์รายอื่นๆที่ได้รับความเสียหายจากเอกสารฉบับนี้ ซึ่งถ้าหากมีเจ้าทุกข์มาแจ้งความก็จะต้องมีการดำเนินคดีกับนายจักรพันธ์ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร แต่สำหรับข้อหาแจ้งความเท็จนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องพิจารณาจากเจตนาและหลักฐานทั้งหมดว่านายจักรพันธ์ มีเจตนาที่จะหลอกลวงหรือไม่ เพราะนายจักรพันธ์อาจจะไม่รู้ว่าเพชรที่ครอบครองอยู่นั้นเป็นเพียงแร่ชนิดหนึ่ง แต่ถ้าหากมีเจตนาที่จะหลอกลวงจริงก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จกับนายจักรพันธ์

“เบื้องต้นหลังจากที่ให้พนักงานสอบสวนนำเพชรไปตรวจสอบแล้ว ก็จะต้องสอบปากคำผู้เสียหายและพยานอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดต่อนายจักรพันธ์ ผู้ที่เป็นเจ้าของเพชรดังกล่าวได้ ทราบแต่เพียงว่าไม่สบายต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งก็จะให้พนักงานสอบสวนเชิญตัวมาสอบปากคำในภายหลังเพื่อรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับคดีนี้ต่อไป” พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับแร่คิวบิกฯดังกล่าวนั้น มีราคาซื้อขายกันตามท้องตลาดในราคากิโลกรัมละ 500 บาท ส่วนแร่ของกลางที่ถูกขโมยไปและคนร้ายได้นำมาคืนนั้น มีน้ำหนักเพียง 4 ขีด ราคาประมาณ 200 บาทเท่านั้น

ด้านพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า เพชรดังกล่าวรวมถึงใบรับประกันเป็นของปลอม ซึ่งส่วนนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมติดตามจับกุมตัวมาให้ได้ แม้จะมีการนำของกลางมาคืน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ แสดงว่ามีเจตนาทุจริตตั้งแต่แรกแล้ว จึงให้ติดตามจับกุมตัวมาให้ได้ เพราะไม่ว่าเพชรนั้นจะจริงหรือไม่จริง ราคาจะสามร้อยล้าน หรือ สามบาท แต่ถือว่าได้ทำความผิดไปแล้ว ต้องได้รับโทษที่เท่ากันและเชื่อว่าเจ้าของเพชรไม่น่าจะคิดกระทำการเพียงคนเดียว ต้องมีคนอื่นร่วมมือด้วยอย่างแน่นอน คงเป็นลักษณะเดียวกันเหมือน ผีเน่า กับโลงผุ ซึ่งส่วนนี้จะติดตามตัวมาดำเนินคดีทั้งหมด

“ของที่อ้างว่ามีมูลค่า สามถึง สี่ร้อยล้าน แล้วนำไปส่องไปยืนดู กลางถนน โดยธรรมชาติไม่น่ามีความเป็นไปได้อยู่แล้ว อีกทั้งยังนั่งรถเมล์มาจากจันทบุรี ยิ่งไม่มีความเป็นไปได้ เพียงแค่มีเงินแสนก็ต้องใช้ความระมัดระวัง แต่นี่พกเพชรที่มีมูลค่าขนาดนั้น ทำเหมือนกับเป็นเศรษฐี มีเงินเป็นพันล้านล้าน ซึ่งโดยธรรมชาติของมนุษย์ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว” พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว

พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า เชื่อว่าการโกหกลักษณะนี้ยังมีอีกมากในกรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะปั่นราคาให้ผู้ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อและรับซื้อไปในราคาสูง ๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น