เอเอฟพี – องค์กรด้านนโยบายการพัฒนาชั้นนำของโลกเตือน อีกไม่กี่ปีกรุงปักกิ่งอาจไม่มีน้ำใช้ โดยวิกฤตการณ์ขาดแคลนน้ำในเมืองหลวงแดนมังกรจะรุนแรงถึงขั้นทำเศรษฐกิจเมืองล่ม
ในการเผยแพร่รายงาน “วิกฤตการณ์น้ำของกรุงปักกิ่ง : 1949-โอลิมปิก2008” ซึ่งเผยแพร่ก่อนหน้ามหกรรมโอลิมปิกสีเขียวจะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่ถึง 6 สัปดาห์ข้างหน้า
เกรนนี่ ไรเดอร์ ผู้อำนวยการด้านนโยบายของ”พร้อบ อินเตอร์เนชั่นแนล” (Probe International) ซึ่งมีสำนักงานในแคนาดา กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญระบุว่ากรุงปักกิ่งอาจไม่มีน้ำใช้ในอีก5-10 ปีข้างหน้า และมีแนวโน้มจะต้องเริ่มปิดอุตสาหกรรม ในขณะที่เมืองไม่สามารถหล่อเลี้ยงประชากรและสาธารณูปโภคในระดับปัจจุบันได้
รายงานยังระบุด้วยว่า ทางการจีนได้เริ่มหารือกันแล้วเกี่ยวกับการอพยพประชาชนออกจากเมืองหลวงไปอาศัยในเมืองอื่น ๆ ในอนาคต
ปัจจุบัน แม่น้ำลำธารกว่า 200 สายในกรุงปักกิ่งกำลังเหือดแห้ง ขณะที่อ่างเก็บน้ำในเมืองก็เกือบแห้งขอด โดยปริมาณน้ำที่มีอยู่มีไม่ถึง 200 คิวบิกเมตรเฉลี่ยต่อคนในแต่ละปี
ทั้งนี้ น้ำ 1,000 คิวบิกเมตรถือเป็นเกณฑ์ของปริมาณน้ำที่มีจำกัดอย่างถึงที่สุดแล้วตามมาตรฐานสากล
อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน กรุงปักกิ่งก็มีความต้องการใช้น้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ และในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั้น ต้องใช้น้ำถึงราว 200 ล้านคิวบิกเมตร ซึ่งมีปริมาณเฉลี่ยเท่ากับน้ำในสระว่ายน้ำสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกถึง 80,000 สระทีเดียว
รายงานระบุว่า ปริมาณน้ำที่ใช้ในกรุงปักกิ่งกว่า 2 ใน 3 ได้มาจากน้ำใต้ดิน นอกจากนั้น กรุงปักกิ่งยังจำเป็นต้องดึงน้ำจากใต้ดิน ซึ่งมีความลึกถึง 1,000 เมตร หรือลึกกว่านั้น เพื่อใช้ยามฉุกเฉิน เช่นในยามสงครามอีกด้วย
ไม่เพียงแต่เท่านั้น รายงานยังระบุด้วยว่า กรุงปักกิ่งต้องเริ่มผันน้ำจากเขื่อนในมณฑลเหอเป่ยในปีนี้ และมีแผนดึงน้ำจากแม่น้ำแยงซีในภาคกลางของประเทศมาใช้นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์เจียง เวินไหล แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรของจีนมองว่า รายงานดังกล่าวเป็นการพูดใหญ่โตเกินจริง
“ทุกวันนี้ กรุงปักกิ่งใช้น้ำซึ่งผ่านการบำบัดนำมาใช้ใหม่ในปริมาณ 0.5 พันล้านในแต่ละปี ซึ่งสูงกว่าระดับของทั้งประเทศ”
นอกจากนั้น ยังมีโครงการผันน้ำจากแม่น้ำแยงซีไปยังพื้นที่ตอนเหนือของจีน โดยมีการขุดคลองหลายสาย ซึ่งจะผันน้ำ 1,200 ล้านคิวบิกเมตรป้อนกรุงปักกิ่ง
“แต่รายงานฉบับนี้ถือเป็นคำเตือนพวกเราทั้งหมดให้เอาใจใส่มากขึ้นเรื่องการขาดแคลนน้ำ” ศาสตราจารย์เจียงกล่าว
พร้อบ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องให้รัฐบาลจีนจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ เพื่อควบคุมระบบน้ำ เนื่องจากทุกวันนี้ ความรับผิดชอบทับซ้อนกันอยู่ระหว่างหลายหน่วยงาน
นอกจากนั้น รายงานยังแนะให้รัฐบาลจีนเก็บค่าน้ำแพงขึ้น เพื่อให้ประชาชนใช้น้ำน้อยลง และใช้อย่างคุ้มค่า
รายงานระบุว่า ปัจจุบัน ค่าน้ำในกรุงปักกิ่งอยู่ที่ 0.54 ดอลลาร์ต่อคิวบิกเมตร ขณะที่ในบราซิลอยู่ที่ 0.65-0.80 ดอลลาร์ และในอิงแลนด์และเวลส์ อยู่ที่2.2 และ2.7 ดอลลาร์
“ปักกิ่งจำเป็นต้องเริ่มดำเนินการเสมือนว่าได้เกิดการขาดแคลนน้ำขึ้นแล้ว” ไรเดอร์เตือน
ในการเผยแพร่รายงาน “วิกฤตการณ์น้ำของกรุงปักกิ่ง : 1949-โอลิมปิก2008” ซึ่งเผยแพร่ก่อนหน้ามหกรรมโอลิมปิกสีเขียวจะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่ถึง 6 สัปดาห์ข้างหน้า
เกรนนี่ ไรเดอร์ ผู้อำนวยการด้านนโยบายของ”พร้อบ อินเตอร์เนชั่นแนล” (Probe International) ซึ่งมีสำนักงานในแคนาดา กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญระบุว่ากรุงปักกิ่งอาจไม่มีน้ำใช้ในอีก5-10 ปีข้างหน้า และมีแนวโน้มจะต้องเริ่มปิดอุตสาหกรรม ในขณะที่เมืองไม่สามารถหล่อเลี้ยงประชากรและสาธารณูปโภคในระดับปัจจุบันได้
รายงานยังระบุด้วยว่า ทางการจีนได้เริ่มหารือกันแล้วเกี่ยวกับการอพยพประชาชนออกจากเมืองหลวงไปอาศัยในเมืองอื่น ๆ ในอนาคต
ปัจจุบัน แม่น้ำลำธารกว่า 200 สายในกรุงปักกิ่งกำลังเหือดแห้ง ขณะที่อ่างเก็บน้ำในเมืองก็เกือบแห้งขอด โดยปริมาณน้ำที่มีอยู่มีไม่ถึง 200 คิวบิกเมตรเฉลี่ยต่อคนในแต่ละปี
ทั้งนี้ น้ำ 1,000 คิวบิกเมตรถือเป็นเกณฑ์ของปริมาณน้ำที่มีจำกัดอย่างถึงที่สุดแล้วตามมาตรฐานสากล
อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน กรุงปักกิ่งก็มีความต้องการใช้น้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ และในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั้น ต้องใช้น้ำถึงราว 200 ล้านคิวบิกเมตร ซึ่งมีปริมาณเฉลี่ยเท่ากับน้ำในสระว่ายน้ำสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกถึง 80,000 สระทีเดียว
รายงานระบุว่า ปริมาณน้ำที่ใช้ในกรุงปักกิ่งกว่า 2 ใน 3 ได้มาจากน้ำใต้ดิน นอกจากนั้น กรุงปักกิ่งยังจำเป็นต้องดึงน้ำจากใต้ดิน ซึ่งมีความลึกถึง 1,000 เมตร หรือลึกกว่านั้น เพื่อใช้ยามฉุกเฉิน เช่นในยามสงครามอีกด้วย
ไม่เพียงแต่เท่านั้น รายงานยังระบุด้วยว่า กรุงปักกิ่งต้องเริ่มผันน้ำจากเขื่อนในมณฑลเหอเป่ยในปีนี้ และมีแผนดึงน้ำจากแม่น้ำแยงซีในภาคกลางของประเทศมาใช้นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์เจียง เวินไหล แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรของจีนมองว่า รายงานดังกล่าวเป็นการพูดใหญ่โตเกินจริง
“ทุกวันนี้ กรุงปักกิ่งใช้น้ำซึ่งผ่านการบำบัดนำมาใช้ใหม่ในปริมาณ 0.5 พันล้านในแต่ละปี ซึ่งสูงกว่าระดับของทั้งประเทศ”
นอกจากนั้น ยังมีโครงการผันน้ำจากแม่น้ำแยงซีไปยังพื้นที่ตอนเหนือของจีน โดยมีการขุดคลองหลายสาย ซึ่งจะผันน้ำ 1,200 ล้านคิวบิกเมตรป้อนกรุงปักกิ่ง
“แต่รายงานฉบับนี้ถือเป็นคำเตือนพวกเราทั้งหมดให้เอาใจใส่มากขึ้นเรื่องการขาดแคลนน้ำ” ศาสตราจารย์เจียงกล่าว
พร้อบ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องให้รัฐบาลจีนจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ เพื่อควบคุมระบบน้ำ เนื่องจากทุกวันนี้ ความรับผิดชอบทับซ้อนกันอยู่ระหว่างหลายหน่วยงาน
นอกจากนั้น รายงานยังแนะให้รัฐบาลจีนเก็บค่าน้ำแพงขึ้น เพื่อให้ประชาชนใช้น้ำน้อยลง และใช้อย่างคุ้มค่า
รายงานระบุว่า ปัจจุบัน ค่าน้ำในกรุงปักกิ่งอยู่ที่ 0.54 ดอลลาร์ต่อคิวบิกเมตร ขณะที่ในบราซิลอยู่ที่ 0.65-0.80 ดอลลาร์ และในอิงแลนด์และเวลส์ อยู่ที่2.2 และ2.7 ดอลลาร์
“ปักกิ่งจำเป็นต้องเริ่มดำเนินการเสมือนว่าได้เกิดการขาดแคลนน้ำขึ้นแล้ว” ไรเดอร์เตือน