ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำภูเก็ตเห็นชอบ ให้บริษัท เดอะยามู วางท่อในทะเลดึงน้ำขึ้นมาผลิตน้ำจืด เผยไม่ขัดกับกฎหมายและไม่กระทบสิ่งแวดล้อมรวมถึงสัตว์น้ำทะเลในบริเวณนั้น
วันนี้ (27 พ.ค.) นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 4/2551 ณ ห้องประชุมปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต หรือ ห้อง POC โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวและตัวแทนจากบริษัท เดอะยามู จำกัด เข้าร่วม เนื่องจากการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เพื่อพิจารณาการขออนุญาตวางท่อพาดสายและนำน้ำทะเลมาจำเป็นน้ำจืด ของบริษัท เดอะยามู จำกัด ริมฝั่งทะเลแหลมยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
โดยการประชุมคณะกรรมการฯเมื่อครั้งที่ 2/2551 ได้เห็นชอบในหลักการให้ทางบริษัท เดอะยามู จำกัด สามารถที่จะวางท่อพาดสายและนำน้ำทะเลขึ้นมาผลิตเป็นน้ำจืดได้ โดยมีเงื่อนไขว่าทางบริษัทจะต้องดำเนินการอนุญาตการใช้ที่ดินตามกฎหมายที่ดิน ทำผลการศึกษาการขุดเจาะวางท่อให้ทะเลที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำในทะเลและสิ่งวแวดล้อม และมอบหมายให้ทางโยธาธิการและผังเมืองภูก็ต ร่วมกับ อบต.ป่าคลอก ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างเข้าไปควบคุมการก่อสร้างและตรวจสอบการผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดเป็นระยะๆ เพื่อให้ทางบริษัทดำเนินการไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและน้ำในทะเลในบริเวณนั้น รวมทั้งให้รวบรวมการดำเนินการเป็นเอกสารเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการของเอกชนรายต่อไป เพราะโครงการนี้ถือเป็นโครงการแรกที่ทางเอกชนขอผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด
การอนุญาตให้ทางบริษัทดำเนินการพาดวางท่อและผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดนั้น เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภูเก็ตแต่ละหน่วยงานไม่ขัดข้อง เนื่องจากปริมาณน้ำที่เกิดจากการผลิตน้ำทะเลทิ้งลงทะเลไม่เกินวันละ 1,000 คิวบิกเมตร ไม่มีแนวปะการังในแนวที่มีการวางท่อ ไม่กีดขวางการจราจรทางน้ำ ไม่ขัดต่อกฎหมายผังเมือง และ อบต.ป่าคลอก เจ้าของพื้นที่ไม่ขัดข้อง
แต่อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำได้เป็นห่วงในเรื่องของน้ำทะเลที่เหลือจากการผลิตและปล่อยลงทะเลจะมีความเค็มเกินมาตรการหรือไม่ ซึ่งจุดนี้ทางบริษัทฯได้ทำการชี้แจงว่าน้ำที่ทิ้งลงทะเลไม่เกินวันละ 1,000 คิวบิกเมตร และค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพราะหากมีความเค็มเกินค่ามาตรฐานทางอุตสหกรรมจะไม่อนุญาตให้ตั้งโรงงานอย่างแน่นอน
ขณะที่ นายปัญญา สำเภารัตน์ นายก อบต.ป่าคลอก เจ้าของพื้นที่ แสดงความเป็นห่วงว่า ท่อที่วางในทะเละประมาณ 200 เมตรนั้น กลัวจะไม่กีดขวางการทำมาหากินของประชาชนในบริเวณนั้น ซึ่งอาจจะทำให้ชาวบ้านต่อต้านด้วยและให้ทางบริษัทฯหามาตรการป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่น้ำวันที่น้ำเป็นและน้ำตายที่น้ำไม่มีการไหลเวียน แต่โดยภาพรวมแล้วเห็นด้วยที่ทางบริษัทเข้ามาลงทุนผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด เพราะขณะนี้ในพื้นที่ป่าคลอกมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากทำให้น้ำตามธรรมชาติไม่เพียงพอในการรองรับการเติบโตด้านการลงทุนในพื้นที่
ด้าน นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดหรือระบบ RO นั้น มีการดำเนินการกันอย่างกว้างขวางในตะวันออกกลาง ไม่กระทบสิ่งแวดล้อมทางจังหวัดก็ไม่ขัดข้อง เพราะเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของจังหวัดภูเก็ตอีกทางหนึ่ง
สำหรับการผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดของบริษัท เดอะยามู วันละ 500 คิวบิแมตร เพื่อนำมาใช้ภายในโครงการ ที่มีทั้งโรงแรม วิลล่า และ มารีน่า
วันนี้ (27 พ.ค.) นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 4/2551 ณ ห้องประชุมปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต หรือ ห้อง POC โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวและตัวแทนจากบริษัท เดอะยามู จำกัด เข้าร่วม เนื่องจากการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำจังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เพื่อพิจารณาการขออนุญาตวางท่อพาดสายและนำน้ำทะเลมาจำเป็นน้ำจืด ของบริษัท เดอะยามู จำกัด ริมฝั่งทะเลแหลมยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
โดยการประชุมคณะกรรมการฯเมื่อครั้งที่ 2/2551 ได้เห็นชอบในหลักการให้ทางบริษัท เดอะยามู จำกัด สามารถที่จะวางท่อพาดสายและนำน้ำทะเลขึ้นมาผลิตเป็นน้ำจืดได้ โดยมีเงื่อนไขว่าทางบริษัทจะต้องดำเนินการอนุญาตการใช้ที่ดินตามกฎหมายที่ดิน ทำผลการศึกษาการขุดเจาะวางท่อให้ทะเลที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำในทะเลและสิ่งวแวดล้อม และมอบหมายให้ทางโยธาธิการและผังเมืองภูก็ต ร่วมกับ อบต.ป่าคลอก ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างเข้าไปควบคุมการก่อสร้างและตรวจสอบการผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดเป็นระยะๆ เพื่อให้ทางบริษัทดำเนินการไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและน้ำในทะเลในบริเวณนั้น รวมทั้งให้รวบรวมการดำเนินการเป็นเอกสารเพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการของเอกชนรายต่อไป เพราะโครงการนี้ถือเป็นโครงการแรกที่ทางเอกชนขอผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด
การอนุญาตให้ทางบริษัทดำเนินการพาดวางท่อและผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดนั้น เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภูเก็ตแต่ละหน่วยงานไม่ขัดข้อง เนื่องจากปริมาณน้ำที่เกิดจากการผลิตน้ำทะเลทิ้งลงทะเลไม่เกินวันละ 1,000 คิวบิกเมตร ไม่มีแนวปะการังในแนวที่มีการวางท่อ ไม่กีดขวางการจราจรทางน้ำ ไม่ขัดต่อกฎหมายผังเมือง และ อบต.ป่าคลอก เจ้าของพื้นที่ไม่ขัดข้อง
แต่อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการพิจารณาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำได้เป็นห่วงในเรื่องของน้ำทะเลที่เหลือจากการผลิตและปล่อยลงทะเลจะมีความเค็มเกินมาตรการหรือไม่ ซึ่งจุดนี้ทางบริษัทฯได้ทำการชี้แจงว่าน้ำที่ทิ้งลงทะเลไม่เกินวันละ 1,000 คิวบิกเมตร และค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพราะหากมีความเค็มเกินค่ามาตรฐานทางอุตสหกรรมจะไม่อนุญาตให้ตั้งโรงงานอย่างแน่นอน
ขณะที่ นายปัญญา สำเภารัตน์ นายก อบต.ป่าคลอก เจ้าของพื้นที่ แสดงความเป็นห่วงว่า ท่อที่วางในทะเละประมาณ 200 เมตรนั้น กลัวจะไม่กีดขวางการทำมาหากินของประชาชนในบริเวณนั้น ซึ่งอาจจะทำให้ชาวบ้านต่อต้านด้วยและให้ทางบริษัทฯหามาตรการป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่น้ำวันที่น้ำเป็นและน้ำตายที่น้ำไม่มีการไหลเวียน แต่โดยภาพรวมแล้วเห็นด้วยที่ทางบริษัทเข้ามาลงทุนผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด เพราะขณะนี้ในพื้นที่ป่าคลอกมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากทำให้น้ำตามธรรมชาติไม่เพียงพอในการรองรับการเติบโตด้านการลงทุนในพื้นที่
ด้าน นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดหรือระบบ RO นั้น มีการดำเนินการกันอย่างกว้างขวางในตะวันออกกลาง ไม่กระทบสิ่งแวดล้อมทางจังหวัดก็ไม่ขัดข้อง เพราะเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของจังหวัดภูเก็ตอีกทางหนึ่ง
สำหรับการผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืดของบริษัท เดอะยามู วันละ 500 คิวบิแมตร เพื่อนำมาใช้ภายในโครงการ ที่มีทั้งโรงแรม วิลล่า และ มารีน่า