จารบุรุษ
ภาพของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดอุดรธานี ถูกกลุ่มคนรักอุดร กลุ้มรุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา บงบอกให้รู้ว่า พฤติกรรมดังกล่าว ไม่น่าจะใช้ชื่อคนรักอุดร แต่ควรจะใช้ชื่อ"กลุ่มเสนียดอุดร"ดูจะเหมาะสมกว่า
แต่เมื่อมองพฤติกรรมซ้ำอีก จะเห็นว่า ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หรือตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ กลับเดินหนีออกไปหน้าตาเฉย ปล่อยให้ประชาชนถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาจนอาการปางตาย แม้ในเบื้องต้น จะยกมือห้ามปรามบ้าง ก็แค่ทำเพื่อขอไปทีเท่านั้น
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผบก.อุดรธานี ให้สัมภาษณ์ว่า การปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มคนรักอุดรฯไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีผู้ได้รับาดเจ็บ 13 ราย ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายพันธมิตรฯและกลุ่มรักอุดรบางส่วน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
"กลุ่มคนรักอุดรประมาณ 800 คน ได้เคลื่อนมาจากทุ่งศรีเมืองเข้ามาที่สวนหนองประจักษ์ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ทลายแผงกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้องกันประมาณ 400 นาย แต่กลุ่มคนรักอุดรก็บุกเข้าไปรื้อทำลายเต้นท์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำงานเต็มที่ และกำชับไม่ให้ใช้ความรุนแรงเกรงว่าจะตกเป็นจำเลย ขณะนี้ตำรวจได้เก็บหลักฐานไว้ดำเนินการตามกฎหมายเพื่อตรวจสอบภาพถ่ายทั้งหมด ก่อนดำเนินการต่อไป"พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ว่าไว้อย่างนั้น
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมภายหลังว่า ในเบื้องต้น จะมีการดำเนินคดีกับ 2 แกนนำ คือ นายขวัญชัย สาราคำหรือขวัญชัย ไพรพนา และนายอุทัย แสนแก้ว ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นมา 3 ชุด เพื่อให้ดำเนินการทางคดีอย่างรวดเร็ว โดย 2 ชุดแรก เป็นชุดสืบสวนสอบสวนของตำรวจภูธรจังหวัด มีรองผู้บังคับการเป็นหัวหน้าชุด ส่วนอีกชุดเป็นตำรวจภูธรภาค 4 โดยจะแยกในส่วนของคนเจ็บออกเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกฝ่ายพันธมิตร ส่วนสองฝ่ายคนรักอุดร ส่วนที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ และส่วนที่ 4 ประชาชนที่รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เพื่อสอนสวนหาตัวผู้กระทำผิด รวมทั้งจากภาพวิดีโอ และภาพนิ่งที่มีการบันทึกภาพไว้ ทั้งจากสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ และผู้ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้
แม้คำให้สัมภาษณ์ที่ปรากฏออกมตามสื่อจะดูดี แต่การกระทำของตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไร ยังไม่เป็นที่ปรากฏชัด ซึ่งเหตุการณ์ได้ผ่านพ้นมาแล้วหลายวัน การดำเนินการของตำรวจ ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมในคดีนี้ ทั้งที่ มีหลักฐาน เป็นภาพที่สื่อมวลชนบันทึกไว้อย่างชัดเจน ยังไม่มีการออกหมายจับ ยังไม่มีการจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษ เมื่อเป็นเช่นนี้ จะให้ไว้ใจตำรวจได้อย่างไร
คำพูดของพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ที่ว่า "เจ้าหน้าที่ได้ทำงานเต็มที่ และกำชับไม่ให้ใช้ความรุนแรง เกรงว่าจะตกเป็นจำเลย" หมายความว่าอย่างไร การกระทำของตำรวจทั้งขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้กระทำเต็มที่แล้วกระนั้นหรือ หากว่า กลัวจะตกเป็นจำเลย บอกตรงๆ อย่ามาเป็นตำรวจเลยดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อประชาชนถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา แต่ตำรวจกลับวางเฉย และเดินหนีไป ด้วยเกรงว่ามจะตกเป็นจำเลย อย่างนี้ จะให้เรียกตำรวจว่าอะไร พฤติกรรมเช่นนี้ มิเป็นการเนรคุณเงินภาษีของราษฎร์และประชาหรอกหรือ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ก็ดี กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 โดยพล.ต.ท.วุฒิ วิธิตานนท์ ผบช.ภ.4 ก็ดี กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ ซ้ำพล.ต.ต.กวี สุภานนท์ รองผบช.ภ.4 ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่มีการย้ายทั้งพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ และผกก.สภ.เมืองอุดรธานีไปไหนทั้งสิ้น เมื่อเป็นอย่างนี้ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจะฝากไว้ที่ใคร ตำรวจคงเป็นแค่ตัวอะไรตัวหนึ่งที่เอาไว้เฝ้าโรงพักเท่านั้น!
อย่าลืมว่า เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่งที่บริเวณเซ็นทรัลเวิล์ด ครั้งนั้น ส่งผลให้พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา อดีตผกก.สส.บก.น.6 หรือ"โอ๋ สืบ 6" ต้องจบชีวิตราชการลงอย่างไร รวมทั้งพล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ อดีตผบก.น.6 ในปัจจุบันเป็นเช่นไร ทางพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ คงทราบเรื่องนี้ดี
เท่าที่ทราบประวัติการทำงานของพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ก็ราบรื่นมาด้วยดี แม้จะไม่ได้จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่ก็ขึ้นถึงผู้การจังหวัด ซ้ำยังเป็นจังหวัดเกรดเอเสียด้วยซ้ำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เกียรติประวัติของพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ คงจะไม่ด่างพร้อย และจบลงอย่างชอกช้ำเช่นเดียวกับ"โอ๋ สืบ 6" เพียงเพื่อปกป้องและอุ้มชูตัวเสนียด-จัญไรเพียงไม่กี่ตัว เว้นไว้แต่ว่า พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ จะมีเชื้อไอ้เจ้าตัวที่ว่านี้อยู่ด้วย ซึ่งก็คงต้องแผ่เมตตา กรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลให้เท่านั้น!
ภาคประวัติ
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2496 อายุ 55 ปี อายุราชการ 31 ปี
จบการศึกษาอบรม ม.ศ.5 โรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร
- ปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ปริญญาโทศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- หลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจพิเศษ ผู้มีคุณวุฒิปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต รัฐศาสตร์บัณฑิต
รุ่นที่ 7 (นบ.รบ.รุ่น 7)
- หลักสูตรู้กำกับการ รุ่นที่ 28
- หลักสูตรบริหารงานตำรวจชั้นสูง รุ่นที่ 21
การดำรงตำแหน่ง : - 1 ก.ย.2520 ดำรงตำแหน่ง รอง สว.สภ.อ.จักราช จว.นครราชสีมา
- 1 มิ.ย.2521 ดำรงตำแหน่ง รอง สว.สภ.กิ่ง อ.เสิงสาง จว.นครราชสีมา
- 22 พ.ย.2522 ดำรงตำแหน่ง รอง สวส.สภ.อ.สูงเนิน จว.นครราชสีมา
- 16 ต.ค.2527 ดำรงตำแหน่ง สว.ผ.สถิติวิจัยและวางแผน กก.สช.บก.บช.ภ.2
- 16 ม.ค.2528 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.คอนสาร จว.ชัยภูมิ
- 22 มี.ค.2529 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.เมืองชัยภูมิ จว.ชัยภูมิ
- 16 ธ.ค.2532 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.เมืองขอนแก่น จว.ขอนแก่น
- 1 ต.ค.2534 ดำรงตำแหน่ง สวญ.สภ.อ.พระยืน จว.ขอนแก่น
- 25 ม.ค.2537 ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.หน.สภ.อ.พระยืน จว.ขอนแก่น
- 1 ก.พ.2538 ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.หน.สภ.อ.จตุรัส จว.ชัยภูมิ
- 25 ต.ค.2539 ดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.อ.บ้านไผ่ จว.ขอนแก่น
- 16 ม.ค.2543 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น
- 25 มิ.ย.2544 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม
- 18 ธ.ค.2546 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร
- 1 ต.ค.2548 ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร
- 31 พ.ค.2551 ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี
เกียรติประวัติ : - ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นพนักงานสอบสวนดีเด่น ระดับสารวัตร ของกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 6
- โล่ และประกาศเกียรติคุณพนักงานสอบสวนดีเด่น ระดับสารวัตร ของกรมตำรวจประจำปี 2534
- ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตามราชกิจจานุเบกษาเล่ม 115 ตอนที่ 4 ข
ลง 18 ม.ค.2541
- ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสรอยาภรณ์ ทวติยาภรณ์ช้างเผือก ตามราชกิจจานุเบกษาเล่ม 118 ตอนที่ 4 ข
ลง 22 ก.พ.2544
- ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสรอยาภรณ์ ประถมาภรณ์มงกุฏไทยตามราชกิจจานุเบกษาเล่ม 112 ตอนที่ 21 ข
ลง 3 ธ.ค.2548
- มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร รับราชการสนองพระเดชพระคุณในหน้าที่นายตำรวจ
ราชสำนัก ตามประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี ลง 31 พ.ค.2549
- ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร ตามคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ 227/2549
ลง 1 ก.ค.2549
- ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร ตามประกาศคณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร ลง 4 ก.ค.2549
- ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ ด้านการปราบปรามยาเสพติดดีเด่น ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันการปราบปรามยาเสพติด
กระทรวงยุติธรรมจาก พลเอก สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2550 ณ ทำเนียบรัฐบาล
ภาพของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดอุดรธานี ถูกกลุ่มคนรักอุดร กลุ้มรุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มนา บงบอกให้รู้ว่า พฤติกรรมดังกล่าว ไม่น่าจะใช้ชื่อคนรักอุดร แต่ควรจะใช้ชื่อ"กลุ่มเสนียดอุดร"ดูจะเหมาะสมกว่า
แต่เมื่อมองพฤติกรรมซ้ำอีก จะเห็นว่า ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หรือตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ กลับเดินหนีออกไปหน้าตาเฉย ปล่อยให้ประชาชนถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาจนอาการปางตาย แม้ในเบื้องต้น จะยกมือห้ามปรามบ้าง ก็แค่ทำเพื่อขอไปทีเท่านั้น
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผบก.อุดรธานี ให้สัมภาษณ์ว่า การปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มคนรักอุดรฯไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีผู้ได้รับาดเจ็บ 13 ราย ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายพันธมิตรฯและกลุ่มรักอุดรบางส่วน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
"กลุ่มคนรักอุดรประมาณ 800 คน ได้เคลื่อนมาจากทุ่งศรีเมืองเข้ามาที่สวนหนองประจักษ์ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ทลายแผงกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้องกันประมาณ 400 นาย แต่กลุ่มคนรักอุดรก็บุกเข้าไปรื้อทำลายเต้นท์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำงานเต็มที่ และกำชับไม่ให้ใช้ความรุนแรงเกรงว่าจะตกเป็นจำเลย ขณะนี้ตำรวจได้เก็บหลักฐานไว้ดำเนินการตามกฎหมายเพื่อตรวจสอบภาพถ่ายทั้งหมด ก่อนดำเนินการต่อไป"พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ว่าไว้อย่างนั้น
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมภายหลังว่า ในเบื้องต้น จะมีการดำเนินคดีกับ 2 แกนนำ คือ นายขวัญชัย สาราคำหรือขวัญชัย ไพรพนา และนายอุทัย แสนแก้ว ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นมา 3 ชุด เพื่อให้ดำเนินการทางคดีอย่างรวดเร็ว โดย 2 ชุดแรก เป็นชุดสืบสวนสอบสวนของตำรวจภูธรจังหวัด มีรองผู้บังคับการเป็นหัวหน้าชุด ส่วนอีกชุดเป็นตำรวจภูธรภาค 4 โดยจะแยกในส่วนของคนเจ็บออกเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกฝ่ายพันธมิตร ส่วนสองฝ่ายคนรักอุดร ส่วนที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ และส่วนที่ 4 ประชาชนที่รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เพื่อสอนสวนหาตัวผู้กระทำผิด รวมทั้งจากภาพวิดีโอ และภาพนิ่งที่มีการบันทึกภาพไว้ ทั้งจากสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ และผู้ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้
แม้คำให้สัมภาษณ์ที่ปรากฏออกมตามสื่อจะดูดี แต่การกระทำของตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างไร ยังไม่เป็นที่ปรากฏชัด ซึ่งเหตุการณ์ได้ผ่านพ้นมาแล้วหลายวัน การดำเนินการของตำรวจ ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมในคดีนี้ ทั้งที่ มีหลักฐาน เป็นภาพที่สื่อมวลชนบันทึกไว้อย่างชัดเจน ยังไม่มีการออกหมายจับ ยังไม่มีการจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษ เมื่อเป็นเช่นนี้ จะให้ไว้ใจตำรวจได้อย่างไร
คำพูดของพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ที่ว่า "เจ้าหน้าที่ได้ทำงานเต็มที่ และกำชับไม่ให้ใช้ความรุนแรง เกรงว่าจะตกเป็นจำเลย" หมายความว่าอย่างไร การกระทำของตำรวจทั้งขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้กระทำเต็มที่แล้วกระนั้นหรือ หากว่า กลัวจะตกเป็นจำเลย บอกตรงๆ อย่ามาเป็นตำรวจเลยดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อประชาชนถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา แต่ตำรวจกลับวางเฉย และเดินหนีไป ด้วยเกรงว่ามจะตกเป็นจำเลย อย่างนี้ จะให้เรียกตำรวจว่าอะไร พฤติกรรมเช่นนี้ มิเป็นการเนรคุณเงินภาษีของราษฎร์และประชาหรอกหรือ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ก็ดี กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 โดยพล.ต.ท.วุฒิ วิธิตานนท์ ผบช.ภ.4 ก็ดี กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ ซ้ำพล.ต.ต.กวี สุภานนท์ รองผบช.ภ.4 ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่มีการย้ายทั้งพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ และผกก.สภ.เมืองอุดรธานีไปไหนทั้งสิ้น เมื่อเป็นอย่างนี้ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจะฝากไว้ที่ใคร ตำรวจคงเป็นแค่ตัวอะไรตัวหนึ่งที่เอาไว้เฝ้าโรงพักเท่านั้น!
อย่าลืมว่า เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่งที่บริเวณเซ็นทรัลเวิล์ด ครั้งนั้น ส่งผลให้พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา อดีตผกก.สส.บก.น.6 หรือ"โอ๋ สืบ 6" ต้องจบชีวิตราชการลงอย่างไร รวมทั้งพล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ อดีตผบก.น.6 ในปัจจุบันเป็นเช่นไร ทางพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ คงทราบเรื่องนี้ดี
เท่าที่ทราบประวัติการทำงานของพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ก็ราบรื่นมาด้วยดี แม้จะไม่ได้จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่ก็ขึ้นถึงผู้การจังหวัด ซ้ำยังเป็นจังหวัดเกรดเอเสียด้วยซ้ำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เกียรติประวัติของพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ คงจะไม่ด่างพร้อย และจบลงอย่างชอกช้ำเช่นเดียวกับ"โอ๋ สืบ 6" เพียงเพื่อปกป้องและอุ้มชูตัวเสนียด-จัญไรเพียงไม่กี่ตัว เว้นไว้แต่ว่า พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ จะมีเชื้อไอ้เจ้าตัวที่ว่านี้อยู่ด้วย ซึ่งก็คงต้องแผ่เมตตา กรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลให้เท่านั้น!
ภาคประวัติ
พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2496 อายุ 55 ปี อายุราชการ 31 ปี
จบการศึกษาอบรม ม.ศ.5 โรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร
- ปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ปริญญาโทศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- หลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจพิเศษ ผู้มีคุณวุฒิปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต รัฐศาสตร์บัณฑิต
รุ่นที่ 7 (นบ.รบ.รุ่น 7)
- หลักสูตรู้กำกับการ รุ่นที่ 28
- หลักสูตรบริหารงานตำรวจชั้นสูง รุ่นที่ 21
การดำรงตำแหน่ง : - 1 ก.ย.2520 ดำรงตำแหน่ง รอง สว.สภ.อ.จักราช จว.นครราชสีมา
- 1 มิ.ย.2521 ดำรงตำแหน่ง รอง สว.สภ.กิ่ง อ.เสิงสาง จว.นครราชสีมา
- 22 พ.ย.2522 ดำรงตำแหน่ง รอง สวส.สภ.อ.สูงเนิน จว.นครราชสีมา
- 16 ต.ค.2527 ดำรงตำแหน่ง สว.ผ.สถิติวิจัยและวางแผน กก.สช.บก.บช.ภ.2
- 16 ม.ค.2528 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.คอนสาร จว.ชัยภูมิ
- 22 มี.ค.2529 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.เมืองชัยภูมิ จว.ชัยภูมิ
- 16 ธ.ค.2532 ดำรงตำแหน่ง สวส.สภ.อ.เมืองขอนแก่น จว.ขอนแก่น
- 1 ต.ค.2534 ดำรงตำแหน่ง สวญ.สภ.อ.พระยืน จว.ขอนแก่น
- 25 ม.ค.2537 ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.หน.สภ.อ.พระยืน จว.ขอนแก่น
- 1 ก.พ.2538 ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.หน.สภ.อ.จตุรัส จว.ชัยภูมิ
- 25 ต.ค.2539 ดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.อ.บ้านไผ่ จว.ขอนแก่น
- 16 ม.ค.2543 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น
- 25 มิ.ย.2544 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม
- 18 ธ.ค.2546 ดำรงตำแหน่ง รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร
- 1 ต.ค.2548 ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร
- 31 พ.ค.2551 ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี
เกียรติประวัติ : - ได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นพนักงานสอบสวนดีเด่น ระดับสารวัตร ของกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 6
- โล่ และประกาศเกียรติคุณพนักงานสอบสวนดีเด่น ระดับสารวัตร ของกรมตำรวจประจำปี 2534
- ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตามราชกิจจานุเบกษาเล่ม 115 ตอนที่ 4 ข
ลง 18 ม.ค.2541
- ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสรอยาภรณ์ ทวติยาภรณ์ช้างเผือก ตามราชกิจจานุเบกษาเล่ม 118 ตอนที่ 4 ข
ลง 22 ก.พ.2544
- ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสรอยาภรณ์ ประถมาภรณ์มงกุฏไทยตามราชกิจจานุเบกษาเล่ม 112 ตอนที่ 21 ข
ลง 3 ธ.ค.2548
- มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร รับราชการสนองพระเดชพระคุณในหน้าที่นายตำรวจ
ราชสำนัก ตามประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี ลง 31 พ.ค.2549
- ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร ตามคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ 227/2549
ลง 1 ก.ค.2549
- ได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร ตามประกาศคณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจำจังหวัดมุกดาหาร ลง 4 ก.ค.2549
- ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ ด้านการปราบปรามยาเสพติดดีเด่น ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันการปราบปรามยาเสพติด
กระทรวงยุติธรรมจาก พลเอก สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2550 ณ ทำเนียบรัฐบาล
