xs
xsm
sm
md
lg

ก็แค่เกมการเมือง! ความหวังเลือนรางตร.ชั้นผู้น้อยติดดาว!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายเวรสายดำ

ป็นข่าวฮือฮาสำหรับตำรวจชั้นผู้น้อยเมื่อมีหนังสือจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องโครงการข้าราชการตำรวจชั้นประทวนจบปริญญาตรีทุกสาขาได้ปรับยศเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร และได้รับยศเป็นร้อยตำรวจตรี โดยข้าราชการตำรวจชั้นประทวนจบปริญญาตรีทุกสาขา ต้องมีอายุราชการไม่น้อยกว่า 10 ปี และมีคุณสมบัติตามที่กำหนด ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และความหวังในเหล่าตำรวจชั้นประทวนว่าจะมีโอกาสได้ติดดาวกับเขาบ้าง

จ.ส.ต.หญิงนาตสุดา มีสมบูรณ์ ผบ.หมู่ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศกลาง ซึ่งรับราชการตำรวจมาเป็นเวลา 15 ปี และเรียนจบปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้ทราบข่าวว่า ดีใจมากที่มีโครงการนี้ขึ้นมาเพราะคิดว่าเป็นโครงการที่ดีเป็นขวัญและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน ถือเป็นความก้าวหน้าในหน้าที่การงานดูมีเกียรติในหน้าที่การงานมากขึ้น และคุณสมบัติ 10 ปีขึ้นไปก็คิดว่าเหมาะเพราะมีประสบการณ์ในการทำงานมากพอสมควรแล้ว

“เรียนจบมาในสาขาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร ที่ผ่านมาไม่มีการเปิดสอบสาขานี้ให้ขึ้นเป็นตำรวจสัญญาบัตร ทั้งที่เป็นสาขาที่มีความสำคัญกับพนักงานสอบสวนเมื่อมีโครงการนี้ขึ้นก็ทำให้มีโอกาสและรู้สึกดีใจเพราะตำรวจชั้นประทวนทุกคนลึกๆ ก็มีความหวังว่าจะได้ขึ้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นสัญญาบัตร ถึงแม้จะไม่ได้อยู่หน่วยงานเดิมก็ไม่เป็นไรเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยทำงานได้ทุกอย่างอยู่แล้ว” จ.ส.ต.หญิงนาตสุดา กล่าว

ด.ต.มาโนช เข็มทอง ผบ.หมู่ฝ่ายอำนวยการ 6 อก.บช.น. ซึ่งรับราชการมากว่า 10 ปียังเรียนไม่จบปริญญาตรี แต่กำลังศึกษาต่ออยู่ แสดงความคิดเห็นถึงโครงการนี้ว่า คิดว่าโครงการนี้เป็นสิ่งที่ดี เป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นประทวนหรือสัญญาบัตร ถือว่าเรามีหน้าที่ทำงานเพื่อประชาชนรับใช้ประชาชนเพราะได้เงินจากภาษีประชาชน จะเป็นประทวนหรือสัญญาบัตรก็เหมือนกัน บางครั้งการไปเป็นตำรวจสัญญาบัตรก็อาจจะทำให้ลืมตัวได้จากที่คิดว่าเป็นข้ารับใช้ประชาชนก็อาจรู้สึกเป็นนายประชาชนเมื่อได้เป็นนายตำรวจซึ่งต้องฝากเอาไว้ด้วย

ด.ต.หญิง ธิรารัตน์ วรนันทิกรกุล ผบ.หมู่อำนวยการกองอำนวยการกองสารนิเทศ กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่าชาตินี้คงไม่มีหวังขึ้นเป็นนายร้อยแล้ว เพราะเคยคุยกับทางผู้บังคับบัญชาบอกว่าไม่มีอัตรา เมื่อมีโครงการนี้ขึ้นมาทำให้มีความหวังดูโลกสดใสขึ้น ตนเองรับราชการมาเป็นเวลา 17 ปี จบปริญญาตรีศิลปศาสตร์ ก็ครบตามหลักเกณฑ์มีโอกาสที่จะขึ้นเป็นนายร้อยได้ และคิดว่าการกำหนดคุณสมบัตร 10 ปีถือว่าไม่มากไม่น้อยไป ทุกคนมีประสบการณ์การทำงานมานานแล้วบวกกับวุฒิการศึกษาก็มีความสามารถเพียงพอที่จะขึ้นไปทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้น

ขณะที่พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงโครงการเลื่อนยศตำรวจชั้นประทวนเป็นสัญญาบัตรว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้ให้ตั้งคณะทำงานพิจารณาในเรื่องนี้ โดยมีพล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานเพื่อหาแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน เนื่องจากมีหลายขั้นตอนต้องดูกฎระเบียบข้าราชการตำรวจ กฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ และ พรบ.ตำรวจ พ.ศ.2547

“โดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับโครงการนี้เพราะเป็นการส่งเสริมข้าราชการตำรวจชั้นประทวนให้เจริญก้าวหน้า และสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน แต่ยังไม่สามารถสรุปความเป็นไปได้ เนื่องจากมีข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่จบปริญญาตรีทั้งหมดถึง 36,542 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนมากหากจะบรรจุเป็นสัญญาบัตรทั้งหมด อีกทั้งคณะกรรมการพิจารณาต้องคำนึงถึงข้อกฎหมาย อัตราเงินเดือนสัญญาบัตรที่รองรับเมื่อมีการเลื่อนยศ และตำแหน่งงานที่ต้องปรับเปลี่ยน” พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ กล่าว

ดูแล้วเห็นทีคราวนี้ตำรวจชั้นผู้น้อยส่วนมากอาจฝันค้างที่จะได้ติดดาว เพราะไม่ใช่โครงการลักษณะนี้จะไม่เคยมีมาก่อน สมัย พล.ต.อ.พจน์ บุณยจินดา เป็นอธิบดีกรมตำรวจก็เคยดำเนินการให้ตำรวจชั้นประทวนก่อนเกษียณราชการ 7 ปีได้ติดดาวมาแล้ว แต่ทำได้เพียงรุ่นเดียวก็เงียบหายไปไม่มีการสานต่อ โครงการนี้ก็ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นโครงการตั้งแต่สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ที่เคยเอามาพูดแต่เรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่งรัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศก็เหมือนจะนำโครงการนี้ออกมาปัดฝุ่นให้เป็นที่ฮือฮาในเหล่าตำรวจชั้นผู้น้อยอีกครั้ง

เมื่อวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรับลูกมาทำโครงการนี้ก็ดูจะเลือนรางเต็มที เนื่องจากติดเงื่อนไขหลายประการเพราะหากมีการปรับยศก็ต้องมีการพิจารณาเงินเดือน ส่วนตำแหน่งซึ่งพอจะมีพื้นที่ว่างรองรับได้อยู่บ้างแต่คงไม่สามารถรับได้ทั้งหมด อีกทั้งวุฒิที่ต้องการส่วนใหญ่คือนิติศาสตร์บัณฑิต หรือรัฐศาสตร์ ซึ่งก็มีตำรวจชั้นประทวนอีกจำนวนกว่า 14,000 คนที่เข้าหลักเกณฑ์ก็ยังไม่สามารถรับได้ทั้งหมดเพราะมีเต็มอัตราก็เพียงไม่กี่พันตำแหน่งเท่านั้น หรือครั้นจะคิดแบบง่ายๆ เพียงแค่ติดดาวให้ ไม่เลื่อนตำแหน่งก็จะเกิดปัญหาในด้านกฎหมายที่ต้องมีการพิจารณาแก้ไขในหลายขั้น ทางออกที่พอดูว่าจะเป็นไปได้คือให้ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนที่เข้าหลักเกณฑ์มาสอบแข่งขันกันเองโดยไม่รับคนนอก แต่ก็จะเกิดข้อครหาและถูกฟ้องร้องจากประชาชนได้

งานนี้ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะหาทางออกอย่างไร ไม่ให้ตำรวจชั้นผู้น้อยต้องผิดหวัง เพราะโครงการที่รัฐบาลบาลสั่งการมานี้ดูแล้วยังไม่ได้ปรึกษากับทางตำรวจว่าจะดำเนินการเช่นไร ตำรวจชั้นประทวนที่ต้องก้มหน้าก้มตาทำงานก็คงต้องอดทนรอความหวังกันต่อไป เมื่อมีข่าวอะไรมาอย่างนี้ก็ต้องฟังหูไว้หูจะได้ไม่อกหักซ้ำสอง

เรื่องนี้ ขอเตือนไว้เลยว่า ตำรวจชั้นผู้น้อยอย่าได้หลงกลนักการเมืองปากอย่างใจอย่างเป็นอันขาด เนื่องจากโครงการนี้ เกิดแล้วล่ม เกิดแล้วล่มอยู่อย่างนี้มาหลายชั่วอายุ(สั้นๆ)ของคนเป็นนายกรัฐมนตรี และเรื่องนี้ หากจะว่าไปนั้น ในวันเสาร์ที่นายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ได้ประกาศทางสถานีโทรทัศน์NBT ในตอนเช้าว่า ได้เตรียมกำลังไว้สลายม็อบพันธมิตรฯเรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้าย สุดที่ต้านทานกำลังมหาประชาชนได้ ถัดมาในการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคาร ครม.ได้อนุมัติโครงการดังกล่าว เสมือนหนึ่ง เป็นการปลุกเร้า และปลอบใจตำรวจชั้นผู้น้อยที่คอยไปเฝ้าดูแลพันธมิตรฯอยู่ ว่า คุณต้องอยู่ฝ่ายเรานะ แล้วจะเจริญก้าวหน้า อีกประเด็น กำลังตำรวจมีกว่า 2 แสนนาย ใครก็ตามที่ได้รับอานิสงส์อย่างนี้ ต้องเข้าข้างรัฐบาลแน่นอน เรื่องนี้มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ รัฐบาลรู้ดี และต้องจับตาดูกันต่อไปว่า โครงการนี้ จะแท้งหรือจะคลอด!
กำลังโหลดความคิดเห็น