เชียงใหม่ - นักศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่เรียกร้องให้ผู้บริหารสถาบัน ชี้แจงข้อเท็จจริง ที่ไม่สามารถนำปริญญาบัตรไปสมัครเรียนต่อได้ และให้ระงับการรับนักศึกษารุ่นปี 2551ไว้ก่อน เกรงจะมีปัญหาภายหลัง
ร้อยเอกคมเคียว พันธุ์เขตรกิจ ประธานชมรมนักศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตรุ่นปี 2548พร้อมกับนักศึกษาอีกบางส่วน ออกมาเรียกร้องให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ชี้แจงข้อเท็จจริงกับนักศึกษากรณีนักศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตรุ่นปี 2547 เรียนจบหลักสูตร แต่ไม่สามารถนำปริญญาบัตรไปศึกษาต่อได้
ทำให้นักศึกษาเกิดความสับสนและมีการรับสมัครนักศึกษาใหม่ หลักสูตรเดียวกันทุกปี พร้อมทั้งเรียกร้องให้ ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ระงับการรับสมัครนักศึกษาในปี 2551 ไว้ก่อน เกรงว่าจะมีปัญหาตามมาอีก ขณะนี้มีนักศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต รุ่นปี 2548 ซึ่งมีทั้งข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ และนายอำเภอ บางส่วนเตรียมโอนหน่วยกิจย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฎ จังหวัดเชียงรายแทน เนื่องจากไม่มีความมั่นใจหลักสูตรของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ และยังเรียกร้องให้ทางทบวงมหาวิทยาลัย และรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
ขณะที่นางสาวพรทิพย์ ชาติดี นักศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตรุ่นแรก ปี 2547 ที่เรียนจบหลักสูตรในปี 2550 แต่ไม่สามารถนำไปสมัครเรียนต่อได้ ได้แจ้งความดำเนินคดี มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่เป็นจำเลยที่ 1 และอธิการบดีเป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ได้ส่งสำนวนฟ้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ดำเนินคดีแล้ว
พร้อมทั้งออกมาโต้ตอบอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ที่อ้างว่าศาลปกครองไม่รับฟ้อง ซึ่งไม่เป็นความจริง ซึ่งทางศาลปกครองได้คำร้องไว้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างนัดไต่สวนมูลฟ้อง
ร้อยเอกคมเคียว พันธุ์เขตรกิจ ประธานชมรมนักศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตรุ่นปี 2548พร้อมกับนักศึกษาอีกบางส่วน ออกมาเรียกร้องให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ชี้แจงข้อเท็จจริงกับนักศึกษากรณีนักศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตรุ่นปี 2547 เรียนจบหลักสูตร แต่ไม่สามารถนำปริญญาบัตรไปศึกษาต่อได้
ทำให้นักศึกษาเกิดความสับสนและมีการรับสมัครนักศึกษาใหม่ หลักสูตรเดียวกันทุกปี พร้อมทั้งเรียกร้องให้ ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ระงับการรับสมัครนักศึกษาในปี 2551 ไว้ก่อน เกรงว่าจะมีปัญหาตามมาอีก ขณะนี้มีนักศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต รุ่นปี 2548 ซึ่งมีทั้งข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ และนายอำเภอ บางส่วนเตรียมโอนหน่วยกิจย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฎ จังหวัดเชียงรายแทน เนื่องจากไม่มีความมั่นใจหลักสูตรของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ และยังเรียกร้องให้ทางทบวงมหาวิทยาลัย และรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
ขณะที่นางสาวพรทิพย์ ชาติดี นักศึกษานิติศาสตร์บัณฑิตรุ่นแรก ปี 2547 ที่เรียนจบหลักสูตรในปี 2550 แต่ไม่สามารถนำไปสมัครเรียนต่อได้ ได้แจ้งความดำเนินคดี มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่เป็นจำเลยที่ 1 และอธิการบดีเป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ได้ส่งสำนวนฟ้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ดำเนินคดีแล้ว
พร้อมทั้งออกมาโต้ตอบอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ที่อ้างว่าศาลปกครองไม่รับฟ้อง ซึ่งไม่เป็นความจริง ซึ่งทางศาลปกครองได้คำร้องไว้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างนัดไต่สวนมูลฟ้อง
