xs
xsm
sm
md
lg

คดีเอสซีฯ ส่อเค้ามวยล้ม ถ้าไม่มีหลักฐานโอนหุ้น “สิงคโปร์-มาเลย์” แนบ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

โฆษกอัยการแจงคดี “เอสซี แอสเสท” ล่าช้า เหตุรอเอกสารสำคัญโอนหุ้นจากสิงคโปร์-มาเลย์ ยอมรับหลักฐานมีอยู่ยังไม่พอสั่งฟ้องจึงต้องรอเพราะเป็นเอกสารสำคัญ ปัดเป็นหน้าที่ดีเอสไอติดตามเอกสาร ย้ำจี้ทุกเดือน ส่วนคดีซีทีเอ็กซ์เผยบรรยากาศการทำงานร่วม ป.ป.ช.หวานฉ่ำ ไม่เหมือนอยู่กับ คตส. ส่วนคดีบ้านเอื้ออาทร เตรียมส่งข้อไม่สมบูรณ์สัปดาห์นี้

วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า สำหรับคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สาเหตุที่คณะทำงานอัยการพิจารณาสั่งคดีได้ล่าช้าเนื่องจากต้องรอเอกสารสำคัญเกี่ยวกับการโอนหุ้นที่อัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ติดตามมาจากประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย

นายธนพิชญ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวนดีเอสไอจะไม่ส่งผลทำให้เกิดการล่าช้าในการขอพยานเอกสารหลักฐานเพื่อมาส่งมอบให้อัยการ เพราะเรื่องนี้มีกำหนดเวลาตามวันนัดสั่งคดี และทุกเดือนเมื่อถึงกำหนดสั่งคดีอัยการจะมีการเตือนไปยังพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีช่องทางอื่นในการติดตามเอกสารหลักฐานดังกล่าวหรือไม่ เพราะดีเอสไอ ถูกจับจ้องพยายามช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ นายธนพิชญ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้มองอย่างนั้น เพราะคิดว่าทางดีเอสไอเองก็ต้องการให้เรื่องมันเสร็จ เพียงแต่อาจติดปัญหาในขั้นตอนที่ยุ่งยากเพราะเอกสารดังกล่าวต้องเรียกมาจากต่างประเทศ

ซักต่อว่าอธิบดีดีเอสไอออกมาประกาศว่าหมดหน้าที่ในคดีเอสซี แอสเสทแล้ว นายธนพิชญ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ซึ่งเป็นเหมือนเจ้าภาพที่จะต้องไปเสาะหาจะติดตามเอกสารดังกล่าวมาให้อัยการ ส่วนจะตามมาได้หรือไม่ก็ต้องแจ้งให้ทราบ

“ยอมรับว่าเอกสารที่อัยการสั่งให้ดีเอสไอไปติดตามถือเป็นหลักฐานที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการที่อัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดี เพราะหลักฐานเท่าที่มีอยู่ในตอนนี้ ยอมรับว่าไม่เพียงพอที่จะมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาคดีได้”

นายธนพิชญ์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมร่วมกันระหว่างคณะทำงานร่วมของอัยการ กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในคดีทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด CTX 9000 ปรากฏว่าทาง ป.ป.ช.เห็นด้วยกับข้อไม่สมบูรณ์ที่อัยการเสนอไปครบทุกข้อ ซึ่งคณะทำงานร่วมจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอให้นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด พิจารณาสั่งคดีต่อไป

ส่วนคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ ขณะนี้อัยการอยู่ระหว่างเตรียมแจ้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนคดีไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งคาดว่าน่าจะดำเนินการได้ภายในสัปดาห์นี้

ส่วนคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการประชุมร่วมกันของคณะทำงานอัยการ และ ป.ป.ช. ซึ่งบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี โดยจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมอัยการสามารถทำงานร่วมกับ ป.ป.ช.ได้ดีไม่มีข้อติดขัดเหมือนที่ร่วมงานกับ คตส. นายธนพิชญ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนก็ไม่ทราบแต่ยืนยันว่าอัยการไม่เคยมีปัญหากับ คตส.เพียงแต่ต้องการให้สำนวนคดีมีความสมบูรณ์เท่านั้น
พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
กำลังโหลดความคิดเห็น