นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งคดี ซึ่งขณะนี้ในหลายคดีมีการตั้งคณะทำร่วมระหว่างพนักงานอัยการและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งคดีซีทีเอ็กซ์ คดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กว่า 76,000 ล้านบาท และคดีบ้านเอื้ออาทร ซึ่งที่ประชุมร่วมระหว่างอัยการและ ป.ป.ช.เป็นไปได้ด้วยดี
นอกจากนี้ นายธนพิชญ์ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของเอกสารสำคัญในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อัยการได้เร่งรัดไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว พร้อมยืนยันว่า ดีเอสไอยังไม่หมดหน้าที่ ต้องไปติดตามและเสาะหาเอกสารสำคัญดังกล่าว เนื่องจากหากขาดเอกสารฉบับนี้ก็จะไม่เพียงพอต่อการสั่งคดีได้
นอกจากนี้ นายธนพิชญ์ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของเอกสารสำคัญในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อัยการได้เร่งรัดไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว พร้อมยืนยันว่า ดีเอสไอยังไม่หมดหน้าที่ ต้องไปติดตามและเสาะหาเอกสารสำคัญดังกล่าว เนื่องจากหากขาดเอกสารฉบับนี้ก็จะไม่เพียงพอต่อการสั่งคดีได้