คนร้ายสุดโหด แทงคอหอย และใบหน้าเมียดาบตำรวจ เจ้าของแผงหมูในตลาดถึง 11 แผลจนเสียชีวิต ตำรวจเชื่อ ฝีมือคนรู้จัก เข้ามาทำร้ายชิงทรัพย์ เพราะเงินสดผู้ตายหายไปถึงครึ่งแสนบาท
วันนี้ (7 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.พ.ต.ท.สุวัฒน์ องตอง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในบ้านเลขที่ 887 หมู่บ้านวิเศษสุขนคร ซอย 4 ซอยประชาอุทิศ 79 ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.ท.ประเสริฐ สอนแจ่ม สว.สส.บก.น.4 พ.ต.ต.สามารถ เนียมสร้อย สว.สส.สน.ทุ่งครุ ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 และฝ่ายสืบสวนของ สน.ทุ่งครุ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ในที่เกิดเหตุ เป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น บริเวณห้องนอนชั้น 2 ติดบันได พบกองเลือดกองใหญ่ ที่บริเวณข้างเตียงนอน และพบอาวุธมีดปลายแหลมยาว 10 เซน ไม่มีด้ามเปื้อนเลือดตกอยู่ ปลอกหมอลายดอกสีแดง 2 ปลอก อีกทั้งห้องที่เกิดเหตุและห้องนอนชั้นบนอีก 2 ห้อง พบร่องรอยการรื้อค้น ข้าวของกระจัดกระจาย บริเวณทั่วบ้านมีรอยเท้าเปื้อนเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบว่า ถูกนำตัวส่งโงพยาบาลบางปะกอก 3 ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบต่อมาชื่อ นางปิยฉัตร หรือ หมวย เกตุคำ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน และเจ้าของเขียงหมูในตลาดสดทรัพย์สมบูรณ์ ภายในซอยประชาอุทิศ 74/1 ภรรยาของ ด.ต.อำพันธ์ เกตุคำ เจ้าหน้าที่ธุรการ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่ใบหน้าและลำคอ รวม 11 แผล โดยบาดแผลลึกที่สุดอยู่ที่ลำคอลึกราว 8 ซม.ซึ่งภายหลังนางปิยฉัตรทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายกลับจากขายหมูที่ตลาด เวลาประมาณ 10.00 น.จากนั้น ด.ต.อำพันธ์ โทรศัพท์มาที่บ้าน เพื่อให้ผู้ตายไปเยี่ยมญาติที่ป่วบยด้วยกัน แต่ผู้ตายไม่รับสาย จนกระทั่งเวลา 11.30 น.ด.ต.อำพันธ์ เดินทางกลับมาบ้าน ก็พบว่า นางปิยฉัตร นอนหมดสติจอมกองเลือดในห้องที่เกิดเหตุ ในสภาพมีสายสมอทอล์ก รัดข้อมืออยู่ และมีปลอกหมอนพันขาอยู่ จึงรีบอุ้มผู้ตายไปส่งโรงพยาบาล
พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนพยานต่างๆ ไม่มีใครได้ยินเสียง หรือเห็นเหตุการณ์ และข้างบ้านหลังหนึ่ง ก็เป็นบ้านร้าง อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการชิงทรัพย์ เนื่องจากการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ตาย พบว่า มีเงินสดหายไปประมาณ 5 หมื่นบาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ส่วนอีกเรื่องน่าจะเป็นเรื่องหนี้สินที่ผู้ตายอาจจะถูกตามทวงหนี้ หรือไม่ก็อาจจะถูกฆ่าล้างหนี้ก็เป็นได้ ส่วนประเด็นชู้สาวนั้น ตำรวจได้ตัดทิ้งไป
“ผู้ตายจัดว่าเป็นคนปากร้าย แต่ก็ใจดี ไม่มีอะไร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสันนิษฐานว่า คนร้ายอาจจะมีมากกว่า 2 คนขึ้นไป และอาจจะเป็นคนที่ผู้ตายรู้จัก เนื่องจากประตูบ้าน ทั้งประตูรั้วด้านนอก และด้านใน ถูกปิดไว้ แต่ไม่ได้ล็อก เหมือนผู้ตายเป็นคนเปิดให้คนร้ายเข้ามาในบ้าน” พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าว
ด้านเจ้าของร้านขายอาหารตามสั่ง หน้าปากซอยที่มีความสนิทสนมกับผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นผู้ตายกลับมมาจากตลาด เพื่อเข้าบ้าน จึงได้เรียกชักชวนกินข้าว แต่ผู้ตายปฏิเสธ โดยบอกว่า จะรีบเข้าไปทำกับข้าวรอสามี เนื่องจาก ด.ต.อำพันธ์ จะเป็นคนที่กลับมากินข้าวกลางวัน และข้าเย็นที่บ้านเป็นประจำ จนกระทั่ง ด.ต.อำพันธ์ กลับมาถึง ก็ได้ยินเสียงตะโกนเอะอะโวยวาย และเห็น ด.ต.อำพันธ์ อุ้มผู้ตายลงมา เพื่อพาส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุไม่ทราบ ทราบแต่ว่า ผู้ตายเป็นคนดี แม้จะปากร้ายไปหน่อย แต่ไม่ใครถือสา และไม่เคยเห็นผู้ตายไปมีเรื่องราวกันใครที่ไหน
วันนี้ (7 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.พ.ต.ท.สุวัฒน์ องตอง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในบ้านเลขที่ 887 หมู่บ้านวิเศษสุขนคร ซอย 4 ซอยประชาอุทิศ 79 ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.ท.ประเสริฐ สอนแจ่ม สว.สส.บก.น.4 พ.ต.ต.สามารถ เนียมสร้อย สว.สส.สน.ทุ่งครุ ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 และฝ่ายสืบสวนของ สน.ทุ่งครุ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ในที่เกิดเหตุ เป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น บริเวณห้องนอนชั้น 2 ติดบันได พบกองเลือดกองใหญ่ ที่บริเวณข้างเตียงนอน และพบอาวุธมีดปลายแหลมยาว 10 เซน ไม่มีด้ามเปื้อนเลือดตกอยู่ ปลอกหมอลายดอกสีแดง 2 ปลอก อีกทั้งห้องที่เกิดเหตุและห้องนอนชั้นบนอีก 2 ห้อง พบร่องรอยการรื้อค้น ข้าวของกระจัดกระจาย บริเวณทั่วบ้านมีรอยเท้าเปื้อนเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบว่า ถูกนำตัวส่งโงพยาบาลบางปะกอก 3 ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบต่อมาชื่อ นางปิยฉัตร หรือ หมวย เกตุคำ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน และเจ้าของเขียงหมูในตลาดสดทรัพย์สมบูรณ์ ภายในซอยประชาอุทิศ 74/1 ภรรยาของ ด.ต.อำพันธ์ เกตุคำ เจ้าหน้าที่ธุรการ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่ใบหน้าและลำคอ รวม 11 แผล โดยบาดแผลลึกที่สุดอยู่ที่ลำคอลึกราว 8 ซม.ซึ่งภายหลังนางปิยฉัตรทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายกลับจากขายหมูที่ตลาด เวลาประมาณ 10.00 น.จากนั้น ด.ต.อำพันธ์ โทรศัพท์มาที่บ้าน เพื่อให้ผู้ตายไปเยี่ยมญาติที่ป่วบยด้วยกัน แต่ผู้ตายไม่รับสาย จนกระทั่งเวลา 11.30 น.ด.ต.อำพันธ์ เดินทางกลับมาบ้าน ก็พบว่า นางปิยฉัตร นอนหมดสติจอมกองเลือดในห้องที่เกิดเหตุ ในสภาพมีสายสมอทอล์ก รัดข้อมืออยู่ และมีปลอกหมอนพันขาอยู่ จึงรีบอุ้มผู้ตายไปส่งโรงพยาบาล
พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนพยานต่างๆ ไม่มีใครได้ยินเสียง หรือเห็นเหตุการณ์ และข้างบ้านหลังหนึ่ง ก็เป็นบ้านร้าง อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการชิงทรัพย์ เนื่องจากการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ตาย พบว่า มีเงินสดหายไปประมาณ 5 หมื่นบาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ส่วนอีกเรื่องน่าจะเป็นเรื่องหนี้สินที่ผู้ตายอาจจะถูกตามทวงหนี้ หรือไม่ก็อาจจะถูกฆ่าล้างหนี้ก็เป็นได้ ส่วนประเด็นชู้สาวนั้น ตำรวจได้ตัดทิ้งไป
“ผู้ตายจัดว่าเป็นคนปากร้าย แต่ก็ใจดี ไม่มีอะไร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสันนิษฐานว่า คนร้ายอาจจะมีมากกว่า 2 คนขึ้นไป และอาจจะเป็นคนที่ผู้ตายรู้จัก เนื่องจากประตูบ้าน ทั้งประตูรั้วด้านนอก และด้านใน ถูกปิดไว้ แต่ไม่ได้ล็อก เหมือนผู้ตายเป็นคนเปิดให้คนร้ายเข้ามาในบ้าน” พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าว
ด้านเจ้าของร้านขายอาหารตามสั่ง หน้าปากซอยที่มีความสนิทสนมกับผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นผู้ตายกลับมมาจากตลาด เพื่อเข้าบ้าน จึงได้เรียกชักชวนกินข้าว แต่ผู้ตายปฏิเสธ โดยบอกว่า จะรีบเข้าไปทำกับข้าวรอสามี เนื่องจาก ด.ต.อำพันธ์ จะเป็นคนที่กลับมากินข้าวกลางวัน และข้าเย็นที่บ้านเป็นประจำ จนกระทั่ง ด.ต.อำพันธ์ กลับมาถึง ก็ได้ยินเสียงตะโกนเอะอะโวยวาย และเห็น ด.ต.อำพันธ์ อุ้มผู้ตายลงมา เพื่อพาส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุไม่ทราบ ทราบแต่ว่า ผู้ตายเป็นคนดี แม้จะปากร้ายไปหน่อย แต่ไม่ใครถือสา และไม่เคยเห็นผู้ตายไปมีเรื่องราวกันใครที่ไหน