ตำรวจโรงพักทุ่งครุ ควบคุมตัวผู้ต้องหาแก๊งฉกเพชร-ปล้นบ้านที่ปรึกษาอธิการบดี มทธ.ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาผ่านคดีปล้นฆ่ามาอย่างโชกโชน ขณะรอง ผกก.กก.สืบ บก.น.8 ระบุ ตำรวจเค้นสอบน้องเขยหัวโจกที่นำปล้นขยายผลตามรวบได้ยกแก๊ง
วันนี้ (5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.เมธสิทธิ์ วชิราปัญญานนท์ รอง ผกก.กก.สืบสวน บก.น.8 พ.ต.ท.หาญชัย ธรรมศักดิ์สิทธิ์ สว.กก.สืบสวน บก.น.8 พ.ต.ท.สุวัฒน์ อองตอง พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.ทุ่งครุ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ทำการเบิกตัว 1.นางวิมลรัตน์ หรือ แหม่ม บัวขำ อายุ 44 ปี 2.นายสมชาย หรือ โก๊ะ สะยอวรรณ อายุ 46 ปี 3.นายพัชราภรณ์ หรือ แอร์ จงจำเนียร อายุ 52 ปี และ4.นายประเสริฐ หรือ จ้อย แดงทองคำ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน เหตุในท้องที่ สน.ทุ่งครุ และ สน.ราษฏร์บูรณะ ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.ทุ่งครุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีที่ นายกรศักดิ์ สุขสาลา อายุ 46 ปี และ นางเยาวลักษณ์ สุขสาลา อายุ 46 ปี สามี-ภรรยา เจ้าของร้านเพชรชินกาญจน์เจมส์ สาขาบิ๊กซี ราษฏร์บูรณะ ถูกกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกายก่อนปล้นทรัพย์สินมูลค่ากว่า 555,000 บาท หลบหนีไปจากหน้าบ้านพักเลขที่ 825/554 หมู่ 1 หมู่บ้านประชาสุขซิตี้ (ซอยย่อยที่ 27) ถนนประชาอุทิศ (ซอย 58/2) แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา
การทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มต้นที่ จุดที่ 1 บริเวณด้านหน้าท็อปส์ซูเปอร์มารเก็ต สาขาปากซอยประชาอุทิศ 58/2 เป็นสถานที่ที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พร้อมด้วย นายพิศิษฐ์ หรือ ยศ เดชพันธ์ยศ อายุ 32 ปี (ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้) นายธนพล หรือ จิม บลูวิลเลี่ยม (อยู่ระหว่างหลบหนี) และผู้ต้องหาไม่ทราบชื่อ อีก 1 คน ซึ่งยังหลบหนีอยู่ พากันนั่งรถ จยย.จำนวน 3 คัน และรถเก๋งอีก 1 คัน มาดักรอผู้เสียหาย ที่กำลังขับรถกลับจากร้านเพชรเข้าไปในบ้านพักจุดที่ 2 บริเวณหน้าบ้านพักของผู้เสียหาย ซึ่งในขณะที่ นายกรศักดิ์ กำลังถอยรถเบนซ์ รุ่น อี 200 สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ศช 118 กทม.เข้าไปเก็บในลานจอดรถ โดยมีนางเยาวลักษณ์ เป็นผู้ลงจากรถไปเปิดประตูให้ ระหว่างนั้น นายประเสริฐ ได้ขับรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นโซนิค สีดำ ทะเบียน ลตบ 413 กทม.พานายพิศิษฐ์ ซ้อนท้ายมาจอดที่บริเวณข้างรถเบนซ์ ส่วนนายนายธนพนธ์ ก็ได้ขับรถ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อรุ่น ทะเบียน พชร 625 กทม.พานายพัชราภรณ์ ซ้อนท้ายมาจอดประกบนางเยาวลักษณ์ ที่กำลังเปิดประตูบ้านอยู่
จากนั้นนายพัชราภรณ์ ก็ลงจากรถพร้อมชักอาวุธปืนเดินไปจี้บังคับให้นายกรศักดิ์ ลงจากรถและใช้ด้ามปืนตบเข้าที่ศีรษะจนล้มฟุบ ก่อนทำการปลดแหวนหยกล้อมเพชรที่นิ้วมือ และ กระชากพวงกุญแจรถซึ่งเป็นทองคำฝังเพชร ยื่นให้นายประเสริฐ ซึ่งยืนอยู่ใกล้กันนำไปเปิดกระโปรงท้ายรถหยิบกระเป๋าจำนวน 2 ใบ ภายในบรรจุเงินสดประมาณ 10,000 บาท และปากกาฝังเพชรออกมา ในเวลาเดียวกันนายธนพนธ์ ซึ่งอยู่ใกล้นางเยาวลักษณ์มากที่สุด ได้ชักอาวุธปืนออกมาจี้บังคับให้นางเยาวลักษณ์ ถอดสร้อยคอพร้อมจี้รูปกระเป๋าล้อมเพชร และ นาฬิกาโรเล็กซ์ มอบให้ โดยช่วงเวลาที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายกำลังก่อเหตุอยู่นั้น นายนายพิศิษฐ์ จะเป็นคนรับหน้าที่ถืออาวุธปืนคอยคุ้มกันให้ เมื่อได้ทรัพย์สินทั้งหมดแล้วจึงพากันซ้อนรถ จยย.ขับเร่งเครื่องหลบหนีไป จุดที่ 3 ภายในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ซอยโรงแรมขวัญใจ ถนนสุขสวัสดิ์ ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เป็นจุดที่นางวิมลรัตน์ ขับรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ชพ 497 กทม.พานายสมชาย ซึ่งเป็นผู้จ้างวาน ไปรอรับทรัพย์สินทั้งหมดที่ปล้นมาได้ เพื่อทำการขนถ่ายของกลางออกจากตัวของทีมที่ลงมือปล้นก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางไปยังจุดนัดพบอีกแห่งหนึ่งภายในโต๊ะสนุ๊กเกอร์ ด้านหลังห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ท่าพระ ถนนตากสิน (ซอย 22) แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. แล้วพากันไปแบ่งทรัพย์สินที่ร้านข้าวมันไก่ ปากซอยเจริญนคร 34 จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 4 คน จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมกลับไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ทุ่งครุเเละรอการส่งตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.)
ด้าน พ.ต.ท.เมธสิทธิ์ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ชุด 3 ของ กก.สืบสวน บก.น.8ได้ตัวนายพิศิษฐ์ ซึ่งเป็นผู้นำนาฬิกาโรเล็กซ์ ของผู้เสียหายไปจำนำไว้ที่โรงรับจำนำย่านประเวศแล้ว ตนพร้อมพนักงานสอบสวนจึงได้ร่วมกันทำการสอบปากคำจนกระทั่งทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดมีใครบ้าง จากนั้นก็รีบพิมพ์คำร้องขอออกหมายจับแบบยกแก๊ง ซึ่งเมื่อตนนำเอกสารคำร้องเดินทางไปพบผู้พิพากษาท่านก็เมตตาออกหมายจับให้อย่างเร่งด่วนเช่นกัน มิเช่นนั้นตำรวจอาจจะติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยากเย็นกว่านี้ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายพิศิษฐ์ และน้องเขย คือนายเอื้อพันธ์ หรือวิทย์ เดชจีรทีปต์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีปล้นฆ่าในพื้นที่ จ.นครปฐมที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ไปทำการฝากขังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ส่วนนายนันทพล หรือตู่ กุลทา และนายวิวัฒน์ หรือวัฒน์ ดอกไม้จีน ผู้ต้องหาแก๊งเดียวกันที่ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกรุกเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายแล้วปล้นตู้เซฟ ภายในบ้านพักของที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กำลังอยู่ในความควบคุมของพนักงานสอบสวน สน.ราษฏร์บูรณะ เพื่อรอการฝากขัง สำหรับผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นเจ้าของร้านเพชรที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี มีอยู่ 3 ราย คือ 1.นางศิรประภาหรือปุ๊ก สำราญสุข ภรรยานายสมชาย 2.นายธนพนธ์ หรือจิม บลูวิลเลี่ยม และ 3.เพื่อนของนายธนพนธ์ ซึ่งยังไม่ทราบชื่ออีก 1 คน ส่วนผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นเซฟที่ยังคงหลบหนีมีเพียง 1 ราย คือ นายสืบศักดิ์ หรือสืบ กลีบพึ่ง เจ้าของบ้านที่ยินยอมให้กลุ่มคนร้ายนำตู้เซฟไปฝากฝังดินเอาไว้ ขณะนี้ก็กำลังติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนเช่นกัน" พ.ต.ท.เมธสิทธิ์ กล่าว
วันนี้ (5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.เมธสิทธิ์ วชิราปัญญานนท์ รอง ผกก.กก.สืบสวน บก.น.8 พ.ต.ท.หาญชัย ธรรมศักดิ์สิทธิ์ สว.กก.สืบสวน บก.น.8 พ.ต.ท.สุวัฒน์ อองตอง พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.ทุ่งครุ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ทำการเบิกตัว 1.นางวิมลรัตน์ หรือ แหม่ม บัวขำ อายุ 44 ปี 2.นายสมชาย หรือ โก๊ะ สะยอวรรณ อายุ 46 ปี 3.นายพัชราภรณ์ หรือ แอร์ จงจำเนียร อายุ 52 ปี และ4.นายประเสริฐ หรือ จ้อย แดงทองคำ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน เหตุในท้องที่ สน.ทุ่งครุ และ สน.ราษฏร์บูรณะ ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.ทุ่งครุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีที่ นายกรศักดิ์ สุขสาลา อายุ 46 ปี และ นางเยาวลักษณ์ สุขสาลา อายุ 46 ปี สามี-ภรรยา เจ้าของร้านเพชรชินกาญจน์เจมส์ สาขาบิ๊กซี ราษฏร์บูรณะ ถูกกลุ่มผู้ต้องหาร่วมกันใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกายก่อนปล้นทรัพย์สินมูลค่ากว่า 555,000 บาท หลบหนีไปจากหน้าบ้านพักเลขที่ 825/554 หมู่ 1 หมู่บ้านประชาสุขซิตี้ (ซอยย่อยที่ 27) ถนนประชาอุทิศ (ซอย 58/2) แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา
การทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มต้นที่ จุดที่ 1 บริเวณด้านหน้าท็อปส์ซูเปอร์มารเก็ต สาขาปากซอยประชาอุทิศ 58/2 เป็นสถานที่ที่ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พร้อมด้วย นายพิศิษฐ์ หรือ ยศ เดชพันธ์ยศ อายุ 32 ปี (ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้) นายธนพล หรือ จิม บลูวิลเลี่ยม (อยู่ระหว่างหลบหนี) และผู้ต้องหาไม่ทราบชื่อ อีก 1 คน ซึ่งยังหลบหนีอยู่ พากันนั่งรถ จยย.จำนวน 3 คัน และรถเก๋งอีก 1 คัน มาดักรอผู้เสียหาย ที่กำลังขับรถกลับจากร้านเพชรเข้าไปในบ้านพักจุดที่ 2 บริเวณหน้าบ้านพักของผู้เสียหาย ซึ่งในขณะที่ นายกรศักดิ์ กำลังถอยรถเบนซ์ รุ่น อี 200 สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ศช 118 กทม.เข้าไปเก็บในลานจอดรถ โดยมีนางเยาวลักษณ์ เป็นผู้ลงจากรถไปเปิดประตูให้ ระหว่างนั้น นายประเสริฐ ได้ขับรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นโซนิค สีดำ ทะเบียน ลตบ 413 กทม.พานายพิศิษฐ์ ซ้อนท้ายมาจอดที่บริเวณข้างรถเบนซ์ ส่วนนายนายธนพนธ์ ก็ได้ขับรถ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อรุ่น ทะเบียน พชร 625 กทม.พานายพัชราภรณ์ ซ้อนท้ายมาจอดประกบนางเยาวลักษณ์ ที่กำลังเปิดประตูบ้านอยู่
จากนั้นนายพัชราภรณ์ ก็ลงจากรถพร้อมชักอาวุธปืนเดินไปจี้บังคับให้นายกรศักดิ์ ลงจากรถและใช้ด้ามปืนตบเข้าที่ศีรษะจนล้มฟุบ ก่อนทำการปลดแหวนหยกล้อมเพชรที่นิ้วมือ และ กระชากพวงกุญแจรถซึ่งเป็นทองคำฝังเพชร ยื่นให้นายประเสริฐ ซึ่งยืนอยู่ใกล้กันนำไปเปิดกระโปรงท้ายรถหยิบกระเป๋าจำนวน 2 ใบ ภายในบรรจุเงินสดประมาณ 10,000 บาท และปากกาฝังเพชรออกมา ในเวลาเดียวกันนายธนพนธ์ ซึ่งอยู่ใกล้นางเยาวลักษณ์มากที่สุด ได้ชักอาวุธปืนออกมาจี้บังคับให้นางเยาวลักษณ์ ถอดสร้อยคอพร้อมจี้รูปกระเป๋าล้อมเพชร และ นาฬิกาโรเล็กซ์ มอบให้ โดยช่วงเวลาที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายกำลังก่อเหตุอยู่นั้น นายนายพิศิษฐ์ จะเป็นคนรับหน้าที่ถืออาวุธปืนคอยคุ้มกันให้ เมื่อได้ทรัพย์สินทั้งหมดแล้วจึงพากันซ้อนรถ จยย.ขับเร่งเครื่องหลบหนีไป จุดที่ 3 ภายในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ซอยโรงแรมขวัญใจ ถนนสุขสวัสดิ์ ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เป็นจุดที่นางวิมลรัตน์ ขับรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ชพ 497 กทม.พานายสมชาย ซึ่งเป็นผู้จ้างวาน ไปรอรับทรัพย์สินทั้งหมดที่ปล้นมาได้ เพื่อทำการขนถ่ายของกลางออกจากตัวของทีมที่ลงมือปล้นก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางไปยังจุดนัดพบอีกแห่งหนึ่งภายในโต๊ะสนุ๊กเกอร์ ด้านหลังห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ท่าพระ ถนนตากสิน (ซอย 22) แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. แล้วพากันไปแบ่งทรัพย์สินที่ร้านข้าวมันไก่ ปากซอยเจริญนคร 34 จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 4 คน จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมกลับไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ทุ่งครุเเละรอการส่งตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.)
ด้าน พ.ต.ท.เมธสิทธิ์ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ชุด 3 ของ กก.สืบสวน บก.น.8ได้ตัวนายพิศิษฐ์ ซึ่งเป็นผู้นำนาฬิกาโรเล็กซ์ ของผู้เสียหายไปจำนำไว้ที่โรงรับจำนำย่านประเวศแล้ว ตนพร้อมพนักงานสอบสวนจึงได้ร่วมกันทำการสอบปากคำจนกระทั่งทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดมีใครบ้าง จากนั้นก็รีบพิมพ์คำร้องขอออกหมายจับแบบยกแก๊ง ซึ่งเมื่อตนนำเอกสารคำร้องเดินทางไปพบผู้พิพากษาท่านก็เมตตาออกหมายจับให้อย่างเร่งด่วนเช่นกัน มิเช่นนั้นตำรวจอาจจะติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยากเย็นกว่านี้ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายพิศิษฐ์ และน้องเขย คือนายเอื้อพันธ์ หรือวิทย์ เดชจีรทีปต์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีปล้นฆ่าในพื้นที่ จ.นครปฐมที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ไปทำการฝากขังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ส่วนนายนันทพล หรือตู่ กุลทา และนายวิวัฒน์ หรือวัฒน์ ดอกไม้จีน ผู้ต้องหาแก๊งเดียวกันที่ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกรุกเข้าไปทำร้ายผู้เสียหายแล้วปล้นตู้เซฟ ภายในบ้านพักของที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กำลังอยู่ในความควบคุมของพนักงานสอบสวน สน.ราษฏร์บูรณะ เพื่อรอการฝากขัง สำหรับผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นเจ้าของร้านเพชรที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี มีอยู่ 3 ราย คือ 1.นางศิรประภาหรือปุ๊ก สำราญสุข ภรรยานายสมชาย 2.นายธนพนธ์ หรือจิม บลูวิลเลี่ยม และ 3.เพื่อนของนายธนพนธ์ ซึ่งยังไม่ทราบชื่ออีก 1 คน ส่วนผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นเซฟที่ยังคงหลบหนีมีเพียง 1 ราย คือ นายสืบศักดิ์ หรือสืบ กลีบพึ่ง เจ้าของบ้านที่ยินยอมให้กลุ่มคนร้ายนำตู้เซฟไปฝากฝังดินเอาไว้ ขณะนี้ก็กำลังติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนเช่นกัน" พ.ต.ท.เมธสิทธิ์ กล่าว
