ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนคดีคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรมอำพรางนายดาบตำรวจ พบเบาะแสหลายอย่างทั้งเรื่องชู้สาวและขบวนการค้ายาเสพติด คาดอาจมีคนมีสีเข้าไปเอี่ยวด้วย
จากคดี ด.ต.บรรลือ บุญฤทธิ อายุ 40 ปี ตำรวจประจำป้อมบ้านทับโกบ ม.1 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ถูกคนร้ายอุ้มฆ่าทิ้งศพในสระน้ำบ้านเขาแร่ เขตเทศบาลตำบลสะเดา ก่อนที่จะขับรถกระบะโตโยต้า สี่ประตู สีบรอนซ์ทอง ของผู้ตายไปเผาอำพรางคดีในพื้นที่บ้านโคกสูง หมู่ 1 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งจากเบาะแสพบว่าผู้ตายได้หายตัวออกไปตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.ก่อนที่จะพบกลายเป็นศพเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.
ความคืบหน้าเกี่ยวกับการสืบสวนคดีดังกล่าว เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 1 ก.ค. พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้ตั้งทีมสืบสวนสอบสวนมาดูแลคดีนี้ โดย พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพ็ชรคล้าย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา เป็นหัวหน้าทีมสืบสวน ในขณะที่ พ.ต.อ.สาคร ทองมุณี รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา เป็นหัวหน้าที่สอบสวน พร้อมทีมทำงานอีกชุดใหญ่ทั้งจากกลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ซึ่งประสานการทำงานร่วมกับตำรวจในพื้นที่
ซึ่งจากการสอบสวนพยานแวดล้อมทั้งเพื่อนร่วมงานรวมทั้งญาติของผู้ตายเจ้าหน้าที่พอที่จะทราบเบาะแสที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีรวมทั้งการคลี่คลายปมสังหาร โดยพบว่ามี 2 ประเด็นหลักซึ่งมีน้ำหนักมากที่สุดคือปัญหาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ และปัญหาเรื่องชู้สาว แต่ก็ยังไม่ได้ตัดทิ้งประเด็นอื่นๆ เช่นมีผลประโยชน์ทางธุรกิจอื่นหรือไม่ ทั้งนี้น่าเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนั้นจะต้องรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี เพราะหลังจากที่ลงมือฆ่าแล้วได้นำรถไปเผาอำพรางคดี
พล.ต.ต.วิรุฬ กล่าวว่า คดีนี้จะมีคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้นจะต้องสอบสวนต่อไป ซึ่งทุกอย่างจะขี้นอยู่กับพยานและหลักฐาน ซึ่งหากท้ายที่สุดแล้วพบว่าคดีนี้เกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ทางตำรวจก็จะดำเนินการอย่างถึงที่สุดเช่นเดียวกัน แต่ในเบื้องต้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ากลุ่มคนร้ายเป็นใคร อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่วิทยาการจ.สงขลา เข้าตรวจสอบรถยนต์ของผู้ตายที่ถูกเผาพบว่าบริเวณประตูทั้งสองข้างนั้นมีรอยบุบคล้ายกับการถูกรถยนต์ขับประกบทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นไปได้ว่ากลุ่มคนร้ายอาจจะใช้รถรถยนต์สองคันตามประกบรถยนต์ของผู้ตาย และอุ้มไปยิงทิ้งก่อนที่จะนำรถไปเผา ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะมีอย่างน้อย 4 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ให้น้ำหนักของการสังหาร ด.ต.บรรลือ ในสองประเด็นหลักคือเรื่องที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ และเรื่องชู้สาวโดยพบว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ด.ต.บรรลือ ร่วมในอยู่ในทีมจับกุมกัญชาล็อตใหญ่จำนวน 22 กก.ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา
แต่ปรากฏว่าได้มีบุคคลบางกลุ่มพยายามวิ่งเต้นเพื่อขอล้มคดีดังกล่าว แต่ ด.ต.บรรลือ ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดจับกุมไม่ยอม จึงอาจเป็นไปได้ว่าสร้างความไม่พอใจให้กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ส่วนประเด็นเรื่องชู้สาวนั้นพบว่ามีน้ำหนักเช่นกัน เนื่องจากพบว่า ด.ต.บรรลือ ไปติดพันช่างเสริมสวยคนหนึ่งซึ่งสามีติดคุกในคดีฆ่าคนตาย แต่ต่อมาสามีของช่างเสริมสวยคนดังกล่าวพ้นโทษออกมา ซึ่งน่าเชื่อว่าทั้งสองเรื่องน่าจะเป็นชนวนเหตุของการอุ้มฆ่า ด.ต.บรรลือในครั้งนี้
จากคดี ด.ต.บรรลือ บุญฤทธิ อายุ 40 ปี ตำรวจประจำป้อมบ้านทับโกบ ม.1 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ถูกคนร้ายอุ้มฆ่าทิ้งศพในสระน้ำบ้านเขาแร่ เขตเทศบาลตำบลสะเดา ก่อนที่จะขับรถกระบะโตโยต้า สี่ประตู สีบรอนซ์ทอง ของผู้ตายไปเผาอำพรางคดีในพื้นที่บ้านโคกสูง หมู่ 1 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งจากเบาะแสพบว่าผู้ตายได้หายตัวออกไปตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.ก่อนที่จะพบกลายเป็นศพเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.
ความคืบหน้าเกี่ยวกับการสืบสวนคดีดังกล่าว เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 1 ก.ค. พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า ได้ตั้งทีมสืบสวนสอบสวนมาดูแลคดีนี้ โดย พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพ็ชรคล้าย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา เป็นหัวหน้าทีมสืบสวน ในขณะที่ พ.ต.อ.สาคร ทองมุณี รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา เป็นหัวหน้าที่สอบสวน พร้อมทีมทำงานอีกชุดใหญ่ทั้งจากกลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ซึ่งประสานการทำงานร่วมกับตำรวจในพื้นที่
ซึ่งจากการสอบสวนพยานแวดล้อมทั้งเพื่อนร่วมงานรวมทั้งญาติของผู้ตายเจ้าหน้าที่พอที่จะทราบเบาะแสที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีรวมทั้งการคลี่คลายปมสังหาร โดยพบว่ามี 2 ประเด็นหลักซึ่งมีน้ำหนักมากที่สุดคือปัญหาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ และปัญหาเรื่องชู้สาว แต่ก็ยังไม่ได้ตัดทิ้งประเด็นอื่นๆ เช่นมีผลประโยชน์ทางธุรกิจอื่นหรือไม่ ทั้งนี้น่าเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนั้นจะต้องรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี เพราะหลังจากที่ลงมือฆ่าแล้วได้นำรถไปเผาอำพรางคดี
พล.ต.ต.วิรุฬ กล่าวว่า คดีนี้จะมีคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้นจะต้องสอบสวนต่อไป ซึ่งทุกอย่างจะขี้นอยู่กับพยานและหลักฐาน ซึ่งหากท้ายที่สุดแล้วพบว่าคดีนี้เกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ทางตำรวจก็จะดำเนินการอย่างถึงที่สุดเช่นเดียวกัน แต่ในเบื้องต้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ากลุ่มคนร้ายเป็นใคร อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่วิทยาการจ.สงขลา เข้าตรวจสอบรถยนต์ของผู้ตายที่ถูกเผาพบว่าบริเวณประตูทั้งสองข้างนั้นมีรอยบุบคล้ายกับการถูกรถยนต์ขับประกบทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นไปได้ว่ากลุ่มคนร้ายอาจจะใช้รถรถยนต์สองคันตามประกบรถยนต์ของผู้ตาย และอุ้มไปยิงทิ้งก่อนที่จะนำรถไปเผา ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะมีอย่างน้อย 4 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ให้น้ำหนักของการสังหาร ด.ต.บรรลือ ในสองประเด็นหลักคือเรื่องที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ และเรื่องชู้สาวโดยพบว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ด.ต.บรรลือ ร่วมในอยู่ในทีมจับกุมกัญชาล็อตใหญ่จำนวน 22 กก.ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา
แต่ปรากฏว่าได้มีบุคคลบางกลุ่มพยายามวิ่งเต้นเพื่อขอล้มคดีดังกล่าว แต่ ด.ต.บรรลือ ซึ่งเป็นหนึ่งในชุดจับกุมไม่ยอม จึงอาจเป็นไปได้ว่าสร้างความไม่พอใจให้กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ส่วนประเด็นเรื่องชู้สาวนั้นพบว่ามีน้ำหนักเช่นกัน เนื่องจากพบว่า ด.ต.บรรลือ ไปติดพันช่างเสริมสวยคนหนึ่งซึ่งสามีติดคุกในคดีฆ่าคนตาย แต่ต่อมาสามีของช่างเสริมสวยคนดังกล่าวพ้นโทษออกมา ซึ่งน่าเชื่อว่าทั้งสองเรื่องน่าจะเป็นชนวนเหตุของการอุ้มฆ่า ด.ต.บรรลือในครั้งนี้
