ชาวบ้านนับพันฮือล้อมโรงพักไล่สารวัตรใหญ่ สภ.เขาหินซ้อน

ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านนับพันฮือปิดล้อมโรงพักขับไล่สารวัตรใหญ่ สภ.เขาหินซ้อน เหตุไม่พอใจพฤติกรรมก้าวร้าว ดูหมิ่นเหยียดหยามผู้นำชุมชนในพื้นที่ ขณะรองผู้บังคับการรุดเข้าหย่าศึก โยกให้กลับมาช่วยราชการในจังหวัด จนเป็นที่พึงพอใจของกลุ่มผู้ชุมนุม และยอมสลายตัวไปในที่สุด

เวลา 11.30 น.วันนี้ (23 พ.ค.) ที่หน้า สภ.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มชาวบ้านในเขตตำบลเขาหินซ้อน ทั้ง 14 หมู่บ้าน และ 4 ชุมชนเทศบาลจำนวนกว่าหนึ่งพันคน ได้เดินทางมารวมตัวชุมนุม เพื่อเรียกร้องขับไล่ พ.ต.ท.ศักดิ์รพี เพียวพนิช สารวัตรใหญ่ หัวหน้าสถานี สภ.เขาหินซ้อน โดยขอให้ย้ายออกไปให้พ้นจากพื้นที่ภายใน 24 ชม. หลังจากไม่พอใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา

การชุมนุมมีทีท่ายืดเยื้อ หลังจากไม่มีความเคลื่อนไหวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในโรงพักออกมาตอบโต้ เนื่องจาก พ.ต.ท.ศักดิ์รพี เพียวพนิช อยู่ระหว่างการลาป่วย จึงสร้างความไม่พอใจต่อกลุ่มผู้ชุมนุม และได้พากันกรูเข้าไปปิดขวางถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ฝั่งขาออกบริเวณหลัก กม.ที่ 53 โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวทั้งรถยนต์เก๋ง และรถกระบะ จอดปิดเส้นทางขวางเต็มถนนในช่องทางมุ่งหน้า อ.กบินทร์บุรี

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.มณฑล มีอนันต์ รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา จึงได้เดินทางมาถึง พร้อมตรงเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยต่อกลุ่มผู้ชุมนุม โดยขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดเส้นทางการจราจร และให้ส่งตัวแทนเข้ามาร่วมเจรจาตกลงกันภายในห้องประชุม ซึ่งประกอบด้วย นายกรินทร์ สิงคิวิบูลย์ นายอำเภอพนมสารคาม ซึ่งเดินทางมาเข้าร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย นายธรรมรัตน์ ผาวรรณดี สจ.เขตพื้นที่ พนมสารคาม ซึ่งเป็นแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมด้วยตัวแทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมในการเจรจา

หลังจากการปิดเส้นทางผ่านไปได้ประมาณ 15 นาที กลุ่มชาวบ้านจึงยินยอมเปิดเส้นทางให้รถสัญจรผ่านไปได้

ในการเจรจากลุ่มชาวบ้านได้ยื่นข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ศักดิ์รพี เพียวพนิช ต่อ พ.ต.อ.มณฑล มีอนันต์ รวม 7 ข้อกล่าวหา คือ มนุษยสัมพันธ์ต่อคนในชุมชนท้องถิ่นไม่ดี ไม่เคยเป็นมิตรกับประชาชน พูดจาให้ร้ายไม่ให้เกียรติต่อผู้นำชุมชน แอบอ้างผลงานผู้อื่นเป็นของตนเองอยู่เสมอ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ย้ายมา ไม่เคยอยู่ทำงานที่โรงพักให้ประชาชนได้เห็นหน้า และไม่เคยออกไปทำมวลชนสัมพันธ์พบปะประชาชนเพื่อรับรู้ทุกข์ร้อนของชาวบ้าน

ในพื้นที่มียาเสพติดแพร่ระบาด แต่ไม่มีการจับกุม และปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาบางนาย มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันธ์กับคดียาบ้า แต่กลับปกป้องความผิดให้กัน รวมทั้งยังมีการรีดไถเก็บส่วยจากแรงงานต่างด้าว กลั่นแกล้งผู้นำชุมชนที่ไม่พึงพอใจโดยหาช่องทางออกหมายค้นบ้าน และแจ้งข้อกล่าวหาลอยๆ ทั้งที่ไม่มีมูลความจริง รวมทั้งกล่าวหาผู้นำชุมชนว่าเป็นผู้มีอิทธิพล และข่มขู่ว่าจะอุ้มไปยิงทิ้ง

พ.ต.อ.มณฑล ได้รับเรื่องไว้ และได้ให้ พ.ต.ท.ธวัช ยอดมณี พนักงานสอบสวน สภ.เขาหินซ้อน มาทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

หลังใช้เวลาเจรจาประมาณ 3 ชม. จนถึงเวลา 14.00 น. จึงได้ข้อสรุป ว่า พ.ต.อ.มณฑล กล่าวว่า ได้ทำหนังสือรายงานไปยัง กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ให้พิจารณา พ.ต.ท.ศักดิ์รพี เพียวพนิช ให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 จ.ชลบุรี แต่ทาง ตร.ภ.2 ได้ มีคำสั่งให้ทาง ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เป็นผู้พิจารณาโยกย้ายให้ไปช่วยราชการภายในจังหวัด ซึ่งหลังจากนี้จะได้ให้ พ.ต.ท.ศักดิ์รพี เพียวพนิช ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา จนถึงเดือน ต.ค.51 และจะให้ พ.ต.ท.สุรพงษ์ สำเร็จ รอง ผกก.อำนวยการ ภ.จว.ฉะเชิงเทรา มารักษาราชการแทน และจะใช้เวลาในการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวเป็นเวลา 15 วัน

เมื่อชาวบ้านได้รับทราบข้อมูลแล้ว จึงสลายการชุมนุมในที่สุด