ฉะเชิงเทรา - กลุ่มต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังก๊าซบางคล้า เมืองฉะเชิงเทรา เคลื่อนไหวขอความเป็นธรรมกับ "อิทธิ ศิริลัทธยากร" ส.ส.เขต 1 แต่"ทั่นผู้แทน"แนะไปยื่นกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (8 มี.ค.51) ที่บ้านเลขที่ 446 ม.1 ต.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านพักริมคลองท่าลาด ของนายอิทธิ ศิริลัทธยากร ส.ส.เขต 1 จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนกว่า 30 คน นำโดย น.ส.สมฤทัย นาคนพคุณ อายุ 38 ปี ชาวบ้านสนามช้าง ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า แกนนำกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าบางคล้า เข้ายื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือ และคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานจากก๊าซธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ ต่อ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร ส.ส.เจ้าของพื้นที่ 9 สมัย
หลังการรับฟังการเจรจาปัญหาจากชาวบ้านที่หวั่นเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้า นายอิทธิกล่าวว่า ได้แนะนำให้กลุ่มชาวบ้านทำหนังสือการร้องคัดค้านส่งตัวแทนนำไปยื่นให้แก่ 3 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เพราะการจะเข้ามาก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่นั้น ตามรัฐธรรมนูญจะต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน และจะต้องผ่านอีไอเอ หากชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีปัญหา และผ่านมาตรฐานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจึงจะหาคนมาลงทุน จึงจะเป็นขั้นตอนที่ถูกต้อง
แต่สิ่งที่ทราบมาในขณะนี้ ทราบว่าได้ผู้มาประมูลก่อนแล้วจึงจะมาทำอีไอเอ มาทำประชาพิจารณ์ในภายหลังเป็นการกลับหัวกลับหางกัน ผลกระทบจากลุ่มน้ำบางปะกงนั้นต้องมีอย่างแน่นอน เพราะโรงไฟฟ้าต้องใช้น้ำจำนวนมากมายมหาศาล ทำให้ลำน้ำไม่เป็นไปตามธรรมชาติ และประชาชนที่จะต้องใช้น้ำในภาคการเกษตรกรรมที่มีอยู่เดิมจะต้องเดือดร้อน
ที่ผ่านมาถือว่าชาวแปดริ้วเสียสละให้แก่โรงไฟฟ้าบางปะกง ที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดในประเทศมามากพอแล้ว จะเห็นได้ว่าโรงไฟฟ้าปล่อยระบายน้ำหล่อเย็นออกมาได้ทำให้พันธุ์กุ้งพันธุ์ปลาสูญหายตายไปเป็นจำนวนมาก เพราะระบบนิเวศน์มีการเปลี่ยนแปลงเสียหาย นอกจากนี้ทราบว่ายังจะมีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเข้ามาในพื้นที่อีกหลายแห่ง ทั้งที่ อ.แปลงยาว และเขาหินซ้อน
“วันนี้ประชาชนมาใช้ให้ผมทำงาน ซึ่งผมเป็นผู้แทนของคนแปดริ้ว ซึ่งเป็นเมืองปริมณฑลติดกับกรุงเทพฯ จึงเห็นควรสนับสนุนให้พื้นที่แปดริ้วเป็นสถานที่เพื่อการพักผ่อน สร้างที่อยู่อาศัยของคนกรุงเทพฯ จะดีกว่า เพราะต่อไปในอนาคตทราบว่าจะมีรถไฟรางคู่เข้ามา ซึ่งจะได้นำเรื่องนี้เข้าไปปรึกษาต่อประธานสภาในวันพฤหัสที่จะถึงนี้" นายอิทธิพล กล่าว
ขณะที่ น.ส.สมฤทัย กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้เคลื่อนไหวต่อไปด้วยการออกไปพบปะกับแกนนำชุมชนทำความเข้าใจกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านโดยรอบพื้นที่ เพื่อให้ได้ทราบถึงผลกระทบ และพิษภัยที่จะเกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้า ตามที่ได้มีการค้นคว้าหาข้อมูลความจริงมาเปิดเผย นำไปทำความเข้าใจให้กับประชาชนคนที่อยู่โดยรอบสถานที่ก่อสร้างในรัศมี 12 กม.
นอกจากนี้ ยังได้ออกเดินสายไปตามตลาดนัดชุมชนศูนย์การค้าต่างๆ ที่มีประชาชนจำนวนมาก เพื่อใช้เครื่องขยายเสียงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวแปดริ้วได้รับรู้ว่าจะมีโรงไฟฟ้าเข้ามาเกิดขึ้นในพื้นที่อีกหลายแห่งและขอร้องให้ประชาชนชาวจังหวัดฉะเชิงเทราให้เข้ามาร่วมกันต่อต้านอีกด้วย
