xs
xsm
sm
md
lg

พายุหมุนถล่มแปดริ้ว หลังคาบ้านปลิวหายนับร้อยหลังคาเรือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - พายุหมุนถล่มแปดริ้ว หลังคาบ้านปลิวหายนับร้อยหลัง ต้นไม้ล้มทับสายไฟขาดดับทั้งเมือง ขณะรถสัญจรบนถนนเกิดอุบัติเหตุระนาว ไม่เว้นป้ายโฆษณา เต้นท์จุดบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจปลิวว่อนตามแรงลม ขณะเจ้าหน้าที่อยู่ภายในต้องเผ่นหนีเอาชีวิตรอดหวุดหวิด

วันนี้(17 เม.ย.51) เวลา 18.00 น. ได้เกิดเหตุลมพายุหมุนพัดถล่มขึ้นในพื้นที่หลายอำเภอในจังหวัดฉะเชิงเทรา อย่างรุนแรงจนทำให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา บ้านโพธิ์ บางคล้า ราชสาส์น และพนมสารคาม หลังคาบ้านปลิวหายไปตามกระแสลม จนได้รับความเสียหายกว่าสองร้อยหลังคาเรือน

นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับสายไฟฟ้าขาดได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ จนกระแสไฟฟ้าดับ และบางแห่งยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการแก้ไข โดยเฉพาะในเขต อ.บางคล้า และกระแสลมพายุที่มาพร้อมกับสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ได้ทำให้รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนนเกิดอุบัติเหตุขึ้นจำนวนหลายคัน โดยเฉพาะรถรับส่งพนักงานบริษัทไทยแอโรว์ ของบริษัทนิมิตบริการ หมายเลขทะเบียน 30-0015 ฉะเชิงเทรา ที่บรรทุกพนักงานออกจากบริษัทหลังเลิกงานมาเต็มคันรถ ได้เสียหลักหมุนไปตามแรงลมชนขอบราวแผงกั้นและขวางถนน แต่โชคดีที่พนักงานที่อยู่บนรถกว่า 50 ชีวิตไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

และยังมีรถยนต์ของประชาชนที่กำลังเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เกิดอุบัติเหตุชนท้ายกันอีก 5 คัน บนถนนสาย 304 บริเวณปากทางแยกเข้าวัดจุกเฌอ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ขณะเดียวกันแผ่นป้ายโฆษณาต่างๆ ได้โค่นล้มลงมากองอยู่กับพื้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเต้นท์จุดให้บริการประชาชนตำบลบางไผ่ริมถนนสาย 304

ซึ่งได้รับการเปิดเผยจาก ดต.จักรกฤษณ์ อำพันธ์ชัย ว่า เต้นท์ดังกล่าวได้ปลิวลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า และตกลงมากองอยู่กับพื้นตามกระแสลม ขณะที่ตน และ ดต.สมัคร ภัคดีอุดม กำลังนั่งอยู่ภายในเต้นท์ แต่โชคดีที่ได้พากันวิ่งหลบหนีรอดออกมาได้ทัน แต่สิ่งของที่อยู่ภายในเต้นท์ได้รับความเสียหาย ปลิวกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ

ขณะที่นางจรูญ จิ่วเกษม อายุ 89 ปี บ้านเลขที่ 79/4 ม.13 ต.บางตีนเป็ด อ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ขณะอยู่ภายในบ้านได้เกิดลมพายุพัดมาอย่างแรงกระหน่ำเข้ามาปะทะกำแพงคอนกรีตสูงกว่า 3 เมตร ของโรงสีข้าวที่อยู่ติดกัน ล้มลงมาเป็นแนวยาวกว่า 50 เมตร ทับบ้านของลูกชายตน จนได้รับความเสียหาย โชคดีที่ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ตรงบริเวณนั้น

ด้าน นางบุญสม แซ่ลิ้ม อายุ 73 ปี บ้านไม่มีเลขที่ ม.13 ต.บางตีนเป็ด กล่าวว่า ตกใจมากที่เห็นลมพายุพัดมาเป็นงวง เพียงแค่ชั่วพริบตาหลังคาบ้านได้ปลิวหายไปเกือบหมดทั้งหลัง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วระทึกขวัญมาก และไม่เคยพบเห็นเกิดขึ้นมาก่อน





กำลังโหลดความคิดเห็น