ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ตั้งทีมล่ามือปืนฆ่าหมู่ 8 ศพ ยืนยันจับตัวคนร้ายได้แน่นอน โดยมีพยานปากสำคัญเป็นเพื่อนสาวกลุ่มผู้ตายที่ออกไปซื้อของ จึงรอดหวุดหวิด สันนิษฐานสาเหตุมาจากความโกรธแค้นที่กลุ่มผู้ตายมักเปิดเพลงเสียงดังเป็นประจำ
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงกันตาย 8 ศพ เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.คืนที่ผ่านมา ที่ขนำหลังบ้านเลขที่ 70/4 บ้านปลักธง หมู่ที่ 7 เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งในนั้นมีแพทย์หญิงสุธาทิพย์ ธรรมชาติ อายุ 36 ปี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา และ นายตรีรัตน์ โชโต อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านรวมอยู่ด้วย
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (2 มี.ค.) พล.ต.ท.ปัญญา เทียนศาสตร์ ผบช.ภาค 9, พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผบก.ภ.จว.สงขลา, พ.ต.อ.อำพล บัวรับพร ผกก.กลุ่มงานสืบสวนภูธรจังหวัดสงขลา, พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผกก.สภ.หาดใหญ่, พ.ต.ท.สินชัย พาบับพา พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่วิทยาการภูธรจังหวัดสงขลา และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ร่วมตรวจจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานและเบาะแสของคนร้าย
พล.ต.ท.ปัญญา เทียนศาสตร์ ผบช.ภาค 9 เปิดเผยว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุสามารถเก็บหัวกระสุนขนาด 9 มม.บริเวณที่เกิดเหตุเพิ่มอีก 3 หัว และปลอกกระสุนอีก 3 ปลอก รวมปลอกกระสุนทั้งหมดที่เก็บได้บริเวณที่เกิดเหตุ 9 ปลอก เจ้าหน้าที่จะส่งไปตรวจพิสูจน์เพื่อเปรียบเทียบกับอาวุธปืน จากการตรวจแนววิถีกระสุนที่เกิดเหตุพบว่าถูกยิงมาจากบริเวณสวนยางพาราด้านหลัง สำหรับพยานที่เกิดเหตุนั้นเบื้องต้นเจ้าหน้าที่มีพยานสำคัญ 1 ราย เป็นหญิงสาวที่นั่งอยู่ในกลุ่มของผู้ตายแต่ขณะเกิดเหตุได้ออกไปซื้อของจึงรอดหวุดหวิด
โดยในคดีนี้ได้แต่งตั้งทีมสืบสวนสอบสวนขึ้นมา โดยมอบให้ พ.ต.อ.วีระสิทธิ์ เพชรคล้าย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา เป็นหัวหน้าชุดด้านสอบสวน พ.ต.อ.อำพล บัวรับพร ผกก.กลุ่มงานสืบสวนภูธรจังหวัดสงขลา รับผิดชอบด้านการสืบสวน และเชื่อว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แน่นอน
พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผบก.ภ.จว.สงขลา กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นของแพทย์หญิงสุธาทิพย์ ธรรมชาติ ผอ.โรงพยาบาลนาหม่อม ที่มาซื้อไว้ประมาณไม่ถึงปี และพยานแวดล้อมให้การ ว่า ปกติที่บ้านเกิดเหตุจะมีการซ้อมดนตรี หรือเปิดเพลงเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่บ้านใกล้เคียง มีหลายคนพยายามจะเข้าไปตักเตือนให้ลดเสียงดัง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นชุมชนมีบ้านเรือนใกล้เคียงกันหลายหลัง และส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวน จึงต้องการพักผ่อนในเวลากลางคืน แต่ปรากฏว่า ที่บ้านเกิดเหตุจะมีการซ้อมดนตรีและเปิดเพลงเสียงดังจนเกือบสว่างสัปดาห์ละประมาณ 3-4 วันเป็นประจำ นอกจากนี้ยังพบว่าบ้านเกิดเหตุขัดแย้งกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงอยู่เป็นประจำเรื่องส่งเสียงดังเดือดร้อนรำคาญ
สำหรับผู้ก่อเหตุคาดว่ามีไม่เกิน 2 คน ส่วนผู้ลงมือยิงอาจจะเป็นเพียงคนเดียว เพราะวิถีกระสุนมาจากบริเวณสวนยางพาราด้านหลังของขนำ โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งซึ่งอยู่ติดกัน แต่ปรากฏว่า เจ้าของบ้านไม่อยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามมาสอบสวนและตรวจเขม่าดินปืนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากอยู่ในข่ายต้องสงสัย
พล.ต.ต.วิรุฬ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานซึ่งเป็นหญิงสาวที่อยู่ร่วมกับกลุ่มผู้ตายแต่รอดมาได้เพราะออกไปซื้อของในระหว่างที่คนร้ายลงมือก่อเหตุให้การ ว่า ก่อนที่ตนจะออกไปซื้อของนั้นมีเฉพาะพวกตนที่นั่งอยู่ แต่เมื่อกลับมาเจอเหตุการณ์ กลับพบว่านอกเหนือจากเพื่อนของตนที่เสียชีวิตแล้ว ยังมี นายบุญทิพย์ เดสโร ซึ่งเป็นน้องเมียของผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านถูกยิงเสียชีวิตรวมอยู่ด้วย จึงไม่เข้าใจว่า นายบุญทิพย์ มาเรื่องอะไร หรือพูดคุยเรื่องอะไร ส่วนประเด็นการสังหารพยานยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจากสาเหตุใด
พล.ต.ต.วิรุฬ ระบุว่า ในประเด็นของ นายบุญทิพย์ เดสโร หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับมือปืนนั้น กรณีที่เข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุและถูกยิงเสียชีวิตด้วย อาจจะเนื่องมาจากว่ากลุ่มผู้ตายส่งเสียงดังจนเพื่อนบ้านเดือดร้อนรำคาญ จึงเดินเข้าไปห้ามปราม เป็นจังหวะเดียวกับที่มือปืนซึ่งมาซุ่มอยู่บริเวณป่าสวนยางพาราลั่นไก่ยิงกลุ่มผู้ตายที่อยู่ในอาการมึนเมา และกระสุนได้พลาดไปถูกนายบุญทิพย์ ที่ยืนอยู่ในวิถีกระสุนเสียชีวิตไปด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ยังพบเบาะแสสำคัญที่อาจจะเป็นชนวนเหตุของการยิงถล่มในครั้งนี้ โดยทราบว่าเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา หนึ่งในกลุ่มของผู้ตายได้ขับรถชนชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงจนเกิดการโต้เถียงกัน จากนั้นจึงเรียกประกันมาเคลม และในคืนเกิดเหตุขณะที่กลุ่มของผู้ตายกำลังตั้งวงดื่มกินกันอยู่ มีชายคนหนึ่งเดินมาพูดคุยเหตุการณ์เรื่องรถชน แต่ปรากฏว่ากลุ่มของผู้ตายไม่สนใจพร้อมกับเปิดเพลงเสียงดังกว่าเก่า ต่อมาจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุของการยิงถล่มในครั้งนี้เจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นไปในเรื่องของความโกรธแค้นเป็นหลัก