ศูนย์ข่าวศรีราชา -พี่สาวเกือบตกเป็นเหยื่อกามน้องชายหื่นญาติสนิท รอดหวุดหวิดหนีกระเจิงออกจากป่ามันสำปะหลัง ขอความช่วยเหลือชาวบ้านรอดมาได้
เวลา 09.30 น.วันนี้ (9 มี.ค.) นางสาวอุทัยทิพย์ โลมาวรรณ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/2 หมู่ที่ 5 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อมพ่อ แม่ และญาติๆ ได้รุดเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.เรวัฒ พิศโสระ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันเดียวกัน ได้ถูก นายเชิด จำปาทอง หรือ เชิด อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/3 หมู่ที่ 5 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ ซึ่งบ้านอยู่ติดกัน และมีศักดิ์เป็นน้องชายได้พาขี่รถจักรยานยนต์มาเที่ยวกันที่ เวก้าผับ ตลาดบ้านเตาถ่าน หมู่ที่ 4 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ
ขณะที่กำลังจะกลับบ้าน นายเชิด ได้หลอกว่า บนถนนเส้นเข้าบ้านมีตำรวจตั้งด่านตรวจ จึงขอเปลี่ยนเส้นทาง และพามุ่งหน้าไปทางด้านเมืองพัทยา แล้วพาเข้าไปในซอยเนินพลับหวานเข้าป่ามันสำปะหลัง พยายามโอบกอด รัดเอวไม่ให้หนีและขัดขืน จึงได้พยายามออกอุบายว่าให้พาเข้าโรงแรม เพราะในป่าไม่สมควร แต่ นายเชิดก็ไม่ยอม จึงตัดสินใจวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ที่อยู่บริเวณดังกล่าวจนสามารถเอาตัวรอดมาได้
จากการสอบสวน นางสาวอุทัยทิพย์ โลมาวรรณ ให้การว่า ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องทำนองนี้จะเกิดขึ้นมาได้ นายเชิด เป็นญาติสนิทอยู่บ้านติดกัน คลุกคลีกันมาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยระแวงมาก่อนว่าจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนจากพี่น้องเป็นเรื่องชู้สาว ทั้งที่อายุน้อยกว่าอีกด้วย ก่อนเกิดเหตุ นายเชิด ได้ชวนไปเที่ยวที่ เวก้าผับ ตลาดบ้านเตาถ่าน ดื่มสุราจนมีอาการมึนเมา แล้วก็ออกอุบายจนพาไปที่พัทยา เข้าไปในที่เปลี่ยวพยายามจะข่มขืน โดยลือกันว่า พอเริ่มหนุ่มก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ ชอบแอบดูสาวๆ อาบน้ำ จนชาวบ้านใกล้เคียงระแวงพฤติกรรมดังกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนมาแจ้งความได้ปรึกษาพ่อ แม่ และญาติๆ แล้ว เพราะเกรงว่าจะเสื่อมเสียวงศ์ตระกูล แต่ปรากฏว่า ทำให้ญาติฝ่ายพ่อ ฝ่ายแม่ ไม่เข้าใจกันทะเลาะกันรุนแรง จนเกิดการชกต่อยกันขึ้น และเกรงว่า จะเป็นเรื่องบานปลายที่เกิดจากน้ำผึ้งหยดเดียว จึงต้องแจ้งความดำเนินคดีเพื่อไม่ให้ปฎิบัติตัวอย่างนี้กับใครอีก เพราะแม้แต่พี่น้องยังไม่ละเว้น
ร.ต.ท.เรวัฒ พิศโสระ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างพี่น้องในวงศ์ตระกูลเดียวกัน จึงหวังว่าจะตกลงกันได้ เพราะเด็กสาวก็ยังไม่ได้ถูกข่มขืนแต่อย่างใด แต่ว่าญาติๆ เกิดไม่พอใจกันจนเกิดการชกต่อยกันขึ้นจึงต้องนำมาปรับ และจำเป็นต้องรับคดีตามประสงค์ของพ่อ แม่ และผู้เสียหาย เบื้องต้นแจ้งข้อหาหน่วงเหนี่ยวทำให้เสียอิสรภาพ ลวนลามร่างกายหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาตน ซึ่งจะเรียกตัวมาสอบสวนต่อไป