เชียงราย – มือมืดโทร.ข่มขู่พันธมิตรฯแม่สายกู้ชาติ หลังเข้าร่วมพันธมิตรฯถ่ายทอดเสียงการชุมนุมของ ASTV ย้ำไม่หวั่นไหวพร้อมเดินหน้าขับไล่รัฐบาลนอมินี
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายผ้าง พลชัย แกนนำพันธมิตรแม่สายกู้ชาติ จ.เชียงราย และอดีตผู้อำนวยการการเลือกตั้งเขต 7 อ.แม่สาย เปิดเผยว่า หลังจากมีการนำสมาชิกพันธมิตรฯแม่สายกู้ชาติ เข้าไปสมทบกับกลุ่มพันธมิตรที่กรุงเทพฯ ล่าสุด ได้ถูกชายฉกรรจ์ลึกลับโทรศัพท์เข้ามาขู่ฆ่าหลังรายการ โดยเสียงโทรศัพท์ลึกลับดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากตนจัดรายการวิทยุชุมชนสถานีห้วยไคร้ 107.5 เมกะเฮิรตซ์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีการถ่ายทอดเสียงช่อง ASTV
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประจำสถานีได้รับสายแทนตน พบว่า มีเสียงผู้ชายพูดว่า “มึงอย่ามาที่ อ.แม่จัน ล่ะกัน ถ้ามากูจะยิงทิ้งให้ตายเหมือนหมาเลย” เจ้าหน้าที่ที่รับสายจึงพูดกลับไปว่า ไม่เป็นไร คอยดูกันต่อไป ทำให้ชายคนดังกล่าวตัดสายโทรศัพท์ทิ้งไปทันที จึงบันทึกหมายเลขมือถือเอาไว้ พร้อมแจ้งมาที่ตนให้ระวังตัว
นายผ้าง กล่าวว่า หลังจากทราบหมายเลขมือถือ จึงได้ลองโทรศัพท์ไปตามหมายเลขดังกล่าว พบว่า มีชายคนหนึ่งนับสาย และอ้างว่า ไม่ใช่คนโทร.ไป แต่มีวัยรุ่นบริเวณบ้านยืมโทร.ไป โดยในช่วงนี้ตนจะระวังตัวมากขึ้น แต่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ ซึ่งจะทำงานต่อไป เนื่องจากรายการของตนขณะนี้ได้รับความสนใจมาก มีผู้ฟังมากขึ้น ทั้งคนรักและคนเกลียด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ต้องฟังรายการตน
นอกจากนี้ คิดว่า ขณะนี้ชาวเชียงราย เริ่มตื่นตัวมารับฟังข่าวสารด้านตรงข้ามกับรัฐบาลมากขึ้น ทั้งที่พื้นที่เชียงรายเป็นฐานเสียงของพรรคพลังประชาชนแทบทั้งหมด ดังจะเห็นได้จากเริ่มมีป้ายผ้าที่มีผู้นำไปติดไว้ตามชุมนุมต่างๆในพื้นที่ อ.เมืองเชียง ว่าอยากให้ ส.ส.หันมาดูแลปัญหาของประชาขนมากกว่าการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
ในส่วนภารกิจกู้ชาติ จะต้องรอในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ว่า ทางส่วนกลางจะส่งสัญญาณอย่างไร หากจะดีเดย์ จะได้รีบนำสมาชิกทางส่วนนี้ไปสมทบทันที และเชื่อว่าผลจากการชุมนุมของพันธมิตร ที่ กทม.ทำให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารมาก ทั้งเรื่อง ปราสาทเขาพระวิหาร,การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งผลจากการลงคะแนนให้กับ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีในการอภิปรายของฝ่ายค้าน ทำให้ทราบว่ามีผลต่อการลงคะแนนพอสมควร และเชื่อว่า หากรัฐบาลยังวางเฉยต่อปัญหาต่างๆ ก็จะทำให้กระแสต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ
นายผ้าง กล่าวต่ออีกว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯจะมีไปถึงเมื่อใดยังประเมินไม่ได้ น่าจะอยู่ที่ว่าประชาชนจะคิดอย่างไรกับบ้านเมืองนี้ เพราะว่าการทำงานของพันธมิตร ขณะนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง เพราะทำให้รัฐบาลเริ่มไม่กล้าที่จะปิดหูปิดตาประชาชน หรือใช้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ทำสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึกของประชาชน ซึ่งน่าจะมีทางออกที่ดีที่สุดเสมอ
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายผ้าง พลชัย แกนนำพันธมิตรแม่สายกู้ชาติ จ.เชียงราย และอดีตผู้อำนวยการการเลือกตั้งเขต 7 อ.แม่สาย เปิดเผยว่า หลังจากมีการนำสมาชิกพันธมิตรฯแม่สายกู้ชาติ เข้าไปสมทบกับกลุ่มพันธมิตรที่กรุงเทพฯ ล่าสุด ได้ถูกชายฉกรรจ์ลึกลับโทรศัพท์เข้ามาขู่ฆ่าหลังรายการ โดยเสียงโทรศัพท์ลึกลับดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากตนจัดรายการวิทยุชุมชนสถานีห้วยไคร้ 107.5 เมกะเฮิรตซ์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีการถ่ายทอดเสียงช่อง ASTV
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประจำสถานีได้รับสายแทนตน พบว่า มีเสียงผู้ชายพูดว่า “มึงอย่ามาที่ อ.แม่จัน ล่ะกัน ถ้ามากูจะยิงทิ้งให้ตายเหมือนหมาเลย” เจ้าหน้าที่ที่รับสายจึงพูดกลับไปว่า ไม่เป็นไร คอยดูกันต่อไป ทำให้ชายคนดังกล่าวตัดสายโทรศัพท์ทิ้งไปทันที จึงบันทึกหมายเลขมือถือเอาไว้ พร้อมแจ้งมาที่ตนให้ระวังตัว
นายผ้าง กล่าวว่า หลังจากทราบหมายเลขมือถือ จึงได้ลองโทรศัพท์ไปตามหมายเลขดังกล่าว พบว่า มีชายคนหนึ่งนับสาย และอ้างว่า ไม่ใช่คนโทร.ไป แต่มีวัยรุ่นบริเวณบ้านยืมโทร.ไป โดยในช่วงนี้ตนจะระวังตัวมากขึ้น แต่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ ซึ่งจะทำงานต่อไป เนื่องจากรายการของตนขณะนี้ได้รับความสนใจมาก มีผู้ฟังมากขึ้น ทั้งคนรักและคนเกลียด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ต้องฟังรายการตน
นอกจากนี้ คิดว่า ขณะนี้ชาวเชียงราย เริ่มตื่นตัวมารับฟังข่าวสารด้านตรงข้ามกับรัฐบาลมากขึ้น ทั้งที่พื้นที่เชียงรายเป็นฐานเสียงของพรรคพลังประชาชนแทบทั้งหมด ดังจะเห็นได้จากเริ่มมีป้ายผ้าที่มีผู้นำไปติดไว้ตามชุมนุมต่างๆในพื้นที่ อ.เมืองเชียง ว่าอยากให้ ส.ส.หันมาดูแลปัญหาของประชาขนมากกว่าการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
ในส่วนภารกิจกู้ชาติ จะต้องรอในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ว่า ทางส่วนกลางจะส่งสัญญาณอย่างไร หากจะดีเดย์ จะได้รีบนำสมาชิกทางส่วนนี้ไปสมทบทันที และเชื่อว่าผลจากการชุมนุมของพันธมิตร ที่ กทม.ทำให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารมาก ทั้งเรื่อง ปราสาทเขาพระวิหาร,การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งผลจากการลงคะแนนให้กับ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีในการอภิปรายของฝ่ายค้าน ทำให้ทราบว่ามีผลต่อการลงคะแนนพอสมควร และเชื่อว่า หากรัฐบาลยังวางเฉยต่อปัญหาต่างๆ ก็จะทำให้กระแสต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ
นายผ้าง กล่าวต่ออีกว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯจะมีไปถึงเมื่อใดยังประเมินไม่ได้ น่าจะอยู่ที่ว่าประชาชนจะคิดอย่างไรกับบ้านเมืองนี้ เพราะว่าการทำงานของพันธมิตร ขณะนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง เพราะทำให้รัฐบาลเริ่มไม่กล้าที่จะปิดหูปิดตาประชาชน หรือใช้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ทำสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึกของประชาชน ซึ่งน่าจะมีทางออกที่ดีที่สุดเสมอ
