xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ยึดสะพานมัฆวานฯ เป็นจุดแตกหัก ลั่นฝ่าด่านจับแกนนำ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจลั่นห้ามพันธมิตรฯ ฝ่าแนวกั้นเด็ดขาด ระบุจุดแตกหักอยู่ที่สะพานมัฆวานฯ ขู่ผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมาย ทั้งแกนนำและแนวร่วมโดนซิวแน่ เพราะเตรียมพนักงานสอบสวนไว้รองรับแล้ว สั่งตรึงกำลังปิดเส้นทางหลักมุ่งสู่ทำเนียบรวม 5 จุด ทั้งสะพานมัฆวานฯ สะพานอรทัย สะพานชมัยมรุเชษฐ์ แยกสวมมิสกวัน และแยก จปร.ขณะเดียวกัน ประสาน 5 โรงเรียนรอบทำเนียบ หยุดการเรียนการสอนในวันพรุ่งนี้ 1 วัน


วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางร่วมประชุมรับฟังมาตรการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะเคลื่อนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในเวลา 13.00 น.วันที่ 20 มิ.ย.นี้ โดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบช.ก. พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิติวัฒน์ ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.วราสิทธิ์ พรเลิศ ผบช.ภ.3 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.นิพนธ์ ศิริวงศ์ ผบช.ตชด. พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส.และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.

พล.ต.สนั่น กล่าวภายหลังประชุมเพียงสั้นๆ ว่า ตนเองมารับฟังมาตรการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ โดยเฉพาะม็อบเกษตรกรเครือข่ายหนี้สินชาวนา ซึ่งก็ได้ข้อสรุปแล้วว่า ม็อบเกษตรกรจะไม่ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนปัญหาต่างๆ ตนได้มอบหมายให้ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงไปดูแลแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ส่วนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯได้กำชับตำรวจให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างละมุนละม่อม หาวิธีในการเจรจากัน ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง ซึ่งในเรื่องนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ฝากกำชับให้ตำรวจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ต่อมา นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมดได้เข้าร่วมประชุมต่อในห้องประชุมปารุสกวัน 1 โดย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.รายงานสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปักหลักบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ในคืนวันที่ 18 มิ.ย.เวลา 21.00 น.ต่อเนื่องเช้าวันที่ 19 มิ.ย.ว่า มีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 1,500 คน ไม่มีกลุ่มต่อต้าน เหตุการณ์ทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯแบบดาวกระจายนั้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย กำลังตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เหตุการณ์ปกติไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นสถานการณ์คลี่คลายได้ด้วยดี

ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก.และรองโฆษก ตร.แถลงภายหลังการประชุมว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ออกประกาศ จำนวน 3 ฉบับ กรณีทั่วไป กรณีเกิดการเผชิญหน้า และกรณีเกิดความรุนแรง เพื่อชี้แจงเหตุผลให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกันถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการตั้งด่านสกัดแนวกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมและความจำเป็นในการปิดการจราจรและสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีกรณีความรุนแรง โดยมีข้อห่วงใย กรณีการเคลื่อนกำลังไปยังทำเนียบรัฐบาล เพราะอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นได้ โดย บช.น.จะไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมเข้ายึดพื้นที่ปิดกั้นการจราจรบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล และบริเวณเขตพระราชฐานเป็นอันขาด ขณะเดียวกันแจ้งเตือนให้แกนนำและผู้จัดการชุมนุมอย่าใช้ความมรุนแรง และการกระทำการฝ่าฝืนแนวกั้นของตำรวจเป็นอันขาด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรงกับประชาชน แต่จะดูแลเรื่องความสงบเรียบร้อย และการบังคับใช้กฎหมาย โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เพราะปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยวิธีทางการเมือง ซึ่งไม่ใช้ความรุนแรง

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การชุมนุมในวันพรุ่งนี้ หากมีการกระทำที่เกินสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถือว่ากระทำผิดกฎหมาย ตำรวจซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว จะดำเนินคดีกับทั้งแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายทุกกรณี ซึ่งได้มีการเตรียมพนักงานสอบสวนไว้จำนวน 70 นาย เพราะมีแนวโน้มที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะฝ่าแนวกั้นของตำรวจ ส่วนเรื่องมาตรการต่างๆ เป็นดุลพินิจของ ผบ.เหตุการณ์ ที่พิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนกรณีมีรายงานพบว่ากลุ่มต่อต้านเตรียมชุมนุมและอาจเคลื่อนกำลังมา เผชิญหน้า ตำรวจจึงได้มีวางกำลังสกัดกั้นเพื่อไม่ให้มีปัญหาบานปลายอย่างที่เคยเกิดขึ้นอีก

รองโฆษก ตร.กล่าวถึงจำนวนของผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมว่า ตัวเลขยังไม่นิ่ง แต่เท่าที่ทราบมีการรวบรวม และชักชวนคนจากกลุ่มต่างๆ ทั้งใน กทม.และปริมณฑล แต่ที่ชัดเจนแล้ว คือ มีกลุ่มคนที่เดินทางด้วยรถไฟมาจากจังหวัดภาคใต้ ขณะที่อีกกลุ่มจาก จ.ชลบุรี และ จ.เพชรบุรี ซึ่งตำรวจจะจับตาดูทุกเส้นทาง โดยจะใช้จุดสกัดที่สะพานมัฆวาน ถือเป็นจุดใหญ่ เป็นจุดแตกหัก ซึ่งตำรวจจะวางกำลังทุกจุดรอบทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ตัวเลขของกลุ่มผู้ชุมนุมจะใกล้เคียงกับการชุมนุมวันแรกเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึง ประกาศกองบัญชาการตำรวจนครบาลถึงสถานการณ์ทั่วไปว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลมีความห่วงใยกรณีการเคลื่อนกำลังไปยังทำเนียบรัฐบาลอาจเกิดความวุ่นวายได้ จึงขอเตือนผู้ชุมนุมอย่าได้ใช้ความรุนแรงฝ่าฝืนแนวกั้นของเจ้าหน้าที่เป็นอันขาด หากท่านไม่ฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ก็จะไม่ใช้ความรุนแรง แต่หากท่านใช้ความรุนแรงพวกท่านต้องรับผิดชอบในการกระทำนั้น และต้องรับผิดในความผิดที่เกิดขึ้นด้วย

พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อไป ว่า ประกาศกองบัญชาการตำรวจนครบาล ฉบับ 2 ระบุไว้ว่า หากมีกรณีความรุนแรงเกิดขึ้น ตำรวจจะสั่งให้แกนนำสั่งสลายการชุมนุมหรือให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ อย่าได้ยุยงให้ผู้ร่วมชุมนุมใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่เป็นอันขาด หากไม่แล้วท่านจะต้องรับผิดในความผิดที่เกิดขึ้น และขอยืนยันอีกครั้งว่า เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลและปิดการจราจรบริเวณเขตพระราชฐานเป็นอันขาด จึงแจ้งเตือนมายังแกนนำและผู้จัดการชุมนุมขออย่าได้ใช้ความรุนแรงฝ่าด่านแนวกั้นของตำรวจเข้าไปเป็นอันขาด และเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้ความรุนแรงกับพวกท่าน

ด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร.กล่าวถึง กรณีที่ปรากฏภาพกลุ่มพันธมิตรฯ นำไม้พลองและเหล็กแป๊บตัดไว้เป็นท่อน มีการจัดเตรียมหนังสติ๊กไว้ ว่า กรณีนี้ไม่ทราบว่ากลุ่มพันธมิตรฯทำไว้ทำไม เพราะตำรวจไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง ซึ่งหากมีการเตรียมการไว้เช่นนี้จะเป็นชนวนนำไปสู่ความรุนแรงได้ ซึ่งตำรวจยืนยันว่าจะใช้ความอดทนให้ถึงที่สุด พยายามดำเนินการอย่างละมุนละม่อม

ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพลุ่มผู้ชุมนุมการนำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาติดที่โล่ พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ปกติสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะบูชาของคนไทยทุกคน ซึ่งอันที่จริงควรตั้งไว้บนหิ้งบูชา การนำมาติดไว้ที่โล่ห์ซึ่งเป็นอาวุธ จึงเป็นการไม่บังควร

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในการรับมือการเคลื่อนขบวนของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ตำรวจได้วางกำลังประจำจุดสกัดกั้น บนถนนทุกสายโดยรอบทำเนียบรัฐบาลแบ่งเป็น 5 จุด ที่จะมุ่งเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ประกอบด้วย จุดแรกบริเวณศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าสะพานมัฆวานรังสรรค์ใช้กำลังตำรวจ 12 กองร้อย 1,800 นาย จุดที่ 2 เชิงสะพานอรทัย เลียบคลองผดุงกรุงเกษมใช้กำลังตำรวจ 3 กองร้อย 450 นาย จุดที่ 3 สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ฝั่งถนนพิษณุโลกต่อเนื่องถนนนครปฐม ฝั่งโรงเรียนพาณิชยการพระนครใช้กำลังตำรวจ 3 กองร้อย 450 นาย จุดที่ 4 แยกสวนมิสกวัน ช่วงระหว่างถนนราชดำเนินตัดถนนพิษณุโลกเยื้องกับทางเข้ากระทรวงศึกษาธิการ ใช้กำลังตำรวจ 3 กองร้อย 450 นาย และจุดที่ 5 บริเวณแยก จปร.ฝั่งถนนราชดำเนิน บริเวณหน้าสนามมวยราชดำเนิน ใช้กำลังตำรวจ 3 กองร้อย 450 นาย ซึ่งแต่ละจุดนั้นมีนายตำรวจระดับ รอง ผบช.น.เป็นผู้ควบคุมสั่งการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ประสานไปยัง ผู้อำนวยการโรงเรียน 5 แห่ง ที่ตั้งอยู่รอบทำเนียบรัฐบาลให้หยุดทำการเรียนการสอน 1 วัน เนื่องจากเกรงว่า เด็กนักเรียนจะไม่ปลอดภัย ประกอบด้วย โรงเรียนวัดเบญจมบพิตร โรงเรียนวัดโสมนัส โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริย์ โรงเรียนราชวินิตมัธยม และสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชยการพระนคร ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบทำเนียบรัฐบาล

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล(ผบช.ส.) เปิดเผย ว่า ได้มีการข่าวแจ้งว่าในเช้าวันพรุ่งนี้ จะมีพระภิกษุจำนวน 20 รูปมาขอบิณฑบาตรกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อให้ให้ยุติการชุมนุมและขอไม่ได้เคลื่อนขบวน ให้เกิดความวุ่นวายที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์

ผบช.ส.กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์การชุมนุมในวันพรุ่งนี้ได้ ต้องรอดูคืนนี้เสียก่อนว่าจะเจรจากับแกนนำได้มากน้อยแค่ไหน หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาที่มีการเปิดลำโพงใส่กันระหว่างตำรวจกับม็อบ ก็ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความหงุดหงิดแต่พอเจราจากันก็ตกลงกันได้ ก็ต้องดูว่าการเจรจาเรื่องเคลื่อนขบวนกับแกนนำในคืนนี้จะเป็นอย่างไร ถ้าเป็นไปในทางที่ดี การเคลื่อนขบวนพรุ่งนี้ก็จะไม่มีอะไรรุนแรง
เวทีพันธมิตรฯบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล

กำลังโหลดความคิดเห็น