xs
xsm
sm
md
lg

“ทองใบ” เชื่อสินบน 2 ล้าน! ผู้ทำไม่สุจริตหวังให้ศาลมีราคี

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายทองใบ ทองเปาด์ ทนายความรางวัลแมกไซไซ และอดีตส.ว.มหาสารคาม
“ทองใบ ทองเปาด์” ทนายแมกไซไซ เชื่ออดีตทนายนักการเมืองหิ้วเงิน 2 ล้านเข้าศาลฎีกาเป็นเรื่องแปลกประหลาด หวังสร้างความมัวหมองสถาบันศาล ไม่สุจริต หวังให้ศาลมีราคี พร้อมเรียกร้องสภาทนายความสอบสวนควบคู่ไปกับศาลฎีกา

วันนี้ (13 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายทองใบ ทองเปาด์ ทนายความรางวัลแมกไซไซ และอดีต ส.ว.มหาสารคาม เปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ ถึงกรณีอดีตทนายความได้นำกล่องขนมยัดไส้เงินสดจำนวน 2 ล้านบาท ไปให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกา เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เป็นเรื่องแปลกประหลาด เป็นการกระทำที่น่าจะไม่สุจริต มีความมุ่งหมายไม่สุจริต เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เป็นการต้องการสร้างข่าว และสร้างความมัวหมองทำให้เป็นมลทินต่อศาล อีกทั้งยังทำให้ศาลและกระบวนการยุติธรรมมีราคี เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับศาล ซึ่งการที่มีคนนำของหรือหิ้วถุงอะไรผ่านเข้าไปยังศาลฎีกาได้ก็ต้องผ่านยามรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ประตูทางเข้า ซึ่งตรงนี้ก็มีความชัดเจนอยู่แล้วว่าอดีตทนายความคนดังกล่าวเป็นใคร ตรวจสอบไม่ยาก และการหิ้วเงินให้สินบนเข้าลักษณะให้เจ้าหน้าที่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง

นายทองใบ กล่าวเห็นด้วยที่ศาลฎีกาตั้งองค์คณะตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว ส่วนทางด้านสภาทนายความที่ออกมาพูดว่าต้องรอผลจากการตรวจสอบของศาลฎีกาก่อนนั้น ตนมองว่าไม่จำเป็นต้องรอ สภาทนายความควรเร่งสรุปผลการตรวจสอบโดยเร็วเพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างขึ้นมา

ต่อข้อถามว่าจะเป็นการให้สินบนเพื่อล้มคดีทางการเมืองหรือไม่นั้น นายทองใบ กล่าวว่า แม้ศาลฎีกาจะมีหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับด้านการเมืองและเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล อาทิ คดีที่ดินรัชดาฯ คดีคลองด่าน คดีใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช แม้ว่าศาลฎีกาจะมีแผนกคดีอาญาพิจารณาคดีนักการเมือง แต่ตรงนี้ก็ยังไม่มีความชัดแจ้งว่า มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ทุกอย่างต้องรอผลการตรวจสอบจากองค์คณะศาลฎีกา และของสภาทนายความประกอบกัน

“อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการศาลฎีกายังมีอีกหลายคดีของคนทั่วไปที่คดีขึ้นสู่ศาล จึงยังต้องรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แม้ว่าด้านการเมืองขณะนี้จะมีความเข้มข้น อาจทำให้ตีความเป็นการเมืองได้”

ทั้งนี้ อาชีพทนายความมีอุดมการณ์เน้นทำงานด้วยความถูกต้อง เป็นธรรม มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพอยู่แล้ว ซึ่งในเรื่องนี้ควรเค้นสอบอดีตทนายความที่นำเงินไปฝากไว้ที่ศาล เพื่อให้รู้ว่าทำเพราะอะไร มีเหตุผลอะไร ทำเพื่อใคร จุดประสงค์ต้องการอะไรกันแน่ เพราะเงินที่นำไปไม่ใช่เล็กน้อย คนปกติใครจะมีมากขนาดนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิด และไม่ควรเกิดขึ้นอีกในกระบวนการยุติธรรม

นอกจากนี้ นายทองใบ กล่าวว่า จุดประสงค์ของอดีตทนายที่นำสินบน 2 ล้านบาทเข้าไปยังศาลฎีกา ยังไม่มีความชัดเจนว่าเจาะจงให้ใคร ถ้ามีความผิดก็เป็นความผิดไม่ชัดไม่ถึงขั้นติดคุก และเจ้าหน้าที่ของศาลควรต้องให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อจะได้รู้ใครนำมาให้และต้องการให้ใคร ในคดีอะไร ถ้าถึงขั้นหลักฐานชัดขนาดนั้นโทษผู้นำสินบนให้เจ้าหน้าที่รัฐก็จะมีความผิดตามกฎหมายระบุไว้อยู่แล้ว หากเทียบกับคดีของอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ สมัยก่อนที่มีคนนำเงินสด 5 ล้านบาทใส่กล่องนำไปให้ที่บ้านพัก ซึ่งผู้ให้มีเจตนาชัดเจน แต่อดีตรองอธิบดีคนนั้นบอกไม่รับและนำกล่องเงินสด 5 ล้านมาที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเมื่อสอบสาวราวเรื่องแล้วมีความชัดเจนมีส่วนเกี่ยวข้องเข้าข่ายรับสินบน จึงถูกลงโทษหนัก ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนคงจำได้ดี

“อยู่ดีๆ มีคนหิ้วถุงเงินผ่าน รปภ.ศาลเข้าไปในเขตศาลที่ต้องรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดได้ ไปที่โจ่งแจ้งได้ เป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก ไม่ใช่เงินเล็กน้อย ผู้ทำต้องการเป็นข่าวทำให้ศาลมัวหมอง น่าจะไม่สุจริต ทำให้ศาลมีราคี สภาทนายความต้องตรวจสอบให้ชัดหาตัวอดีตทนายความคนนั้นไม่ยาก นำตัวมาสอบเลยจะได้รู้ทำไปเพราะอะไร ทำเพื่อใคร คดีใด” ทนายความแมกไซไซ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น