กระทรวงยุติธรรม เตรียมเรื่องให้ “สมพงษ์” แจงฝ่ายค้านตั้งบอร์ด ป.ป.ท.อืด เหตุช้ามาตั้งแต่สมัย “นายจรัญ” ขณะที่ “สมพงษ์” มั่นใจรอดตัวจากปัญหา
วันนี้ (10 พ.ค.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ฝ่ายค้าน เตรียมนำปัญหาการสรรหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ที่ล่าช้าเกินกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด เข้าหารือในวิปฝ่ายค้านเพื่อยื่นเรื่องถอดถอน รมว.ยุติธรรม ว่า คงต้องปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์ว่าไปก่อน จะทำอะไรก็ทำ ตนคงยังไม่ตอบโต้ตอนนี้ เพราะตนถือว่าได้ชี้แจงอย่างชัดเจนในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว กรณีปัญหาการเสนอกรรมการหรือกฎหมายล่าช้ากว่ากรอบเวลาที่กำหนด ก็เคยมีทำไม่ทันกันมากในช่วงปี 2542 แต่ท้ายสุดก็ผ่านไปได้ ไม่มีปัญหา เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเขาจะถอดถอนเรา แล้วเราจะต้องไปรู้สึกอะไร และไม่จำเป็นต้องลาออก แบบนี้ก็แย่ อย่างไรก็ตาม ตนคงต้องรอดูว่าฝ่ายค้านจะใช้เหตุผลอะไรมาถอดถอนตนออกจากตำแหน่งได้
ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ช่วยราชการในตำแหน่งรองเลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวว่า กรอบเวลาตามรัฐธรรมนูญในการแต่งตั้งบอร์ด ป.ป.ท.เป็นกรอบเวลาที่วางไว้ให้เร่งรัดการออกกฎหมายและจัดตั้งหน่วยงานใหม่ เพื่อแก้ปัญหาในอดีตที่มีการออกกฎหมายล่าช้าเป็นจำนวนมาก กรอบเวลาจึงไม่ใช่อายุความในคดี และไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ทำให้เกิดความล่าช้า สำหรับบอร์ด ป.ป.ท.นั้น จะเข้าสู่การพิจารณาเพื่อลงมติเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 17 พ.ค.นี้ ก่อนที่จะปิดสมัยประชุมสภา อย่างไรก็ตาม แม้จะมีบอร์ด ป.ป.ท.แต่ไม่ได้หมายความว่า ป.ป.ท.จะเริ่มทำงานได้ในทันที เพราะขณะนี้คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ยังไม่อนุมัติอัตรากำลัง 500 อัตรา ให้กับ ป.ป.ท.ในการเริ่มงานปีแรก ทำให้ไม่สามารถพิจารณาทาบโอนข้าราชการจากหน่วยงานอื่นมาสังกัด ป.ป.ท.ได้ โดยขณะนี้มีผู้แสดงความจำนงขอโอนมารับราชการที่ ป.ป.ท.แล้วกว่า 3,000 คน ดังนั้น ในช่วงเริ่มรับงานคดีจะใช้วิธีขอให้ข้าราชการจากหน่วยงานอื่นมาช่วยราชการ ป.ป.ท.ไปพลางก่อน เช่นเดียวกับที่เคยขอยืมตัวข้าราชการดีเอสไอ 62 คน มาช่วยงาน ป.ป.ท.
ขณะที่ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองได้จัดเตรียมเรื่องให้ นายสมพงษ์ ชี้แจงกับฝ่ายค้าน ซึ่งปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้นเกิดจากระยะเวลาดำเนินการจัดตั้งบอร์ด ที่ขั้นตอนเสนอบอร์ดทั้ง 6 คน ดำเนินการตั้งแต่สมัยที่นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยสำนักปลัดสมัยที่นายจรัญ ภักดีธนากุล เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้เสนอชื่อบอร์ดในวันที่ 25 มี.ค.และเรื่องถึงสำนักรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ทั้งที่ตามกำหนดในราชกิจจานุเบกษาจะต้องส่งรายชื่อบอร์ดทั้ง 6 คน ภายในวันที่ 24 มี.ค.และยังติดปัญหา ก.พ.ยังไม่อนุมัติอัตรากำลัง จึงถือว่าระบบราชการมีขั้นตอนล่าช้าทำให้การแต่งตั้งบอร์ดเกินกำหนดเวลามาตั้งแต่ต้น
นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า กำหนดในราชกิจจานุเบกษาได้กำหนดให้จัดตั้งบอร์ดภายใน 60 วันแต่ไม่ได้กำหนดบทลงโทษไว้จึงไม่ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย และ ป.ป.ท.ยังสามารถดำเนินงานได้ต่อไป โดยมีกำหนดให้ ป.ป.ท. ต้องทำงานได้ภายใน 120 วันนับแต่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ่งขณะนี้ยังไม่ครบกำหนด ยืนยันว่าแม้จะมีความช่าช้าในการจัดตั้งบอร์ดแต่ไม่ได้หมายถึงการขาดอายุความจน ป.ป.ท.ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งคนอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้คณะทำงานเรื่องนี้จะเร่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กพ. และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้กระบวนการรับบุคลากร และทำงานได้ทันกำหนดเวลา 120 วัน
“กรณีลักษณะนี้เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นแล้วกับการจัดตั้ง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) และสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่งแม้จะมีประกาศกำหนดเวลาจัดตั้งคณะกรรมการก็ไม่สามารถจัดตั้งได้ทัน แต่ในที่สุดคณะกรรมการเหล่านั้นสามารถทำงานได้ก็ไม่ถือว่าผิด เรื่องที่จะชี้แจงกับฝ่ายค้านจึงเป็นเรื่องที่ต้องอธิบายว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้นไม่มีเจตนาดึงเรื่องให้ล่าช้า และเมื่อกฎหมายจัดตั้ง ป.ป.ท.ยังไม่ตกไป ก็สามารถทำงานได้ต่อ” นายกิตติพงษ์ กล่าว
