“รักษาการเลขาฯ ป.ป.ท.” ยืมตัวเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ อีก 32 คน ตั้งแต่ระดับ 4-8 มาช่วยราชการ ป.ป.ท.เพื่อรองรับสำนวนคดีทุจริตกว่า 2,000 คดีที่จะโอนมาจาก ป.ป.ช.ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ แต่คำสั่งต้องรอ “ทวี สอดส่อง” อนุมัติ พร้อมตรวจเข้มแผนงานในคดีสำคัญที่มอบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ดูแลทุกอาทิตย์
วันนี้ (26 มี.ค.) นายสุนัย มโนมัยอุดม รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือขอตัวเจ้าหน้าที่คดีพิเศษและพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มาช่วยราชการที่ ป.ป.ท.อีกจำนวน 32 คน ตั้งแต่ระดับ 4-8 เพื่อให้มาช่วยงานด้านการฝึกอบรมและเตรียมทำสำนวนคดี เนื่องจากในวันที่ 24 พ.ค.นี้ทาง ป.ป.ท.จะต้องรับโอนสำนวนเกี่ยวกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ จากคณะกรรมการและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประมาณ 2,000 กว่าคดี อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อนุมัติในคำสั่งดังกล่าว
นายสุนัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าในการทำงานของ ป.ป.ท.ตอนนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนงาน โครงสร้าง อัตรากำลัง งบประมาณ เสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ความเห็นชอบ รวมทั้งได้มอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.แต่ละคนไปรับผิดชอบ เช่น ล่าสุดส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมสังเกตการณ์การฝึกอบรมด้านสำนวนคดี กับ ป.ป.ช.โดยได้ติดตามความคืบหน้าทุกสัปดาห์
“ป.ป.ท.จะประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าทุกวันพฤหัสบดี แต่การดำเนินงานยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุมัติงบประมาณจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ระหว่างนี้จึงต้องใช้งบประมาณของกระทรวงยุติธรรม ส่วนเรื่องยานพาหนะ การใช้รถ เครื่องมืออุปกรณ์ ยังไม่พร้อม อีกทั้งอัตรากำลังยังไม่ลงตัว จึงต้องอาศัยดีเอสไอไปก่อน” นายสุนัย กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 มี.ค.นายสุนัย มโนมัยอุดม รักษาการเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.ได้ขอตัว นายธาริต เพ็งดิษฐ์ นายพรชัย อัศววัฒนาพร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และข้าราชการจากดีเอสไอ รวม 31 คนมาช่วยราชการที่ ป.ป.ท.โดยให้เหตุผลว่าเป็นหน่วยงานใหม่ และยังไม่มีความพร้อมในหลายด้าน จึงต้องมีบุคลากรเข้ามาช่วยงาน
