“สุริยะใส” เชื่อ 31 ขรก.ดีเอสไอ หาช่องหนีตาย อยู่ไปไม่มีอนาคต จึงขอย้ายออก จับโกหก รมว.ยุติธรรม อ้างคดีซุกหุ้นภาค 2 พ้นดีเอสไอไปแล้ว ยันดีเอสไอต้องสอบสวนขยายผลอีกหลายจุด และต้องร่วมอัยการสูงสุดขึ้นว่าความ เชื่อแผนแทรกซึมกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ยอมรับ ขอตัว 31 ข้าราชการ ไปช่วยราชการ ป.ป.ท.จริง เชื่อไม่มีปัญหา หลังพูดคุยกับรักษาการอธิบดีดีเอสไอแล้ว
วันนี้ (6 มี.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงคำสั่งย้ายล้างบางเจ้าหน้าที่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษกว่า 31 คน ว่า เป็นการขุดรากถถอนโคลนฝ่ายตรงกันข้าม และต้องการแทรกซึมสำนวนการสอบสวนคดีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น ในบริษัท เอสซี เอสเสท บริษัทในเครือชินคอร์ป ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือคดีซุกหุ้นภาค 2
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ข้ออ้างของ รมว.ยุติธรรม ที่ระบุว่า คดีซุกหุ้นภาค 2 พ้นอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอไปแล้วนั้น เป็นการโกหกอย่างชัดเจน เพราะดีเอสไอยังต้องสอบสวนขยายผลกรณีพบว่า มีการฟอกเงิน และการกระทำที่เป็นนอมินีของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นชินฯ และตราบใดที่คดียังไม่ยุติไม่มีคำพิพากษาของศาล ยังถือเป็นหน้าที่ของดีเสไอที่ต้องทำงานร่วมกับอัยการในการต่อสู้ทางศาล โดยเฉพาะการเตรียมข้อโต้แย้งในกระบวนการไต่สวนของศาลคดีนักการเมืองนั้น จะต้องอาศัยอัยการในฐานะทนายแผ่นดินที่ไม่รับใช้ฝ่ายการเมือง และทำงานร่วมมือกับดีเอสไอ เพื่อสร้างน้ำหนักในสำนวนและข้อกล่าวหา หากได้คนที่รับใช้ฝ่ายการเมืองไปต่อสู้ในชั้นศาลก็จะทำให้มีการเกี้ยเซี๊ยกับจำเลยจนสุดท้ายศาลอาจต้องยกฟ้องในที่สุด
"เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นการขอยืมตัวไปช่วยราชการจาก นายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีตามที่เป็นข่าว ถ้าจริง ก็คงเกิดจากการกดดันจากฝ่ายการเมืองที่ต้องการล้างบางทั้งหมด ทำให้ข้าราชการเหล่านี้ต้องหาทางหนี เพราะอยู่ไปก็ไม่มีอนาคต” เลขาธิการ ครป.กล่าว
ด้าน นายสุนัย มโนมัยอุดม รักษาการเลขาธิการสำนักงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ตนได้เซ็นหนังสือสำนักงาน ป.ป.ท.ที่ ยธ.1200/03 ลงวันที่ 4 มี.ค.51 เรื่องขอตัวข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้มาช่วยราชการที่สำนักงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.จำนวน 31 คน ก่อนส่งเรื่องขอตัวข้าราชการถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้พิจารณาอนุมัติให้ข้าราชการกลุ่มดังกล่าวมาช่วยราชการที่ ป.ป.ท. สำหรับเหตุผลที่ต้องขอช่วยราชการครั้งนี้ เนื่องด้วย ป.ป.ท.เป็นหน่วยงานใหม่ จำเป็นต้องมีบุคลากรที่มีคุณภาพ
“ตามกฎระเบียบได้ระบุว่า ภายใน 1 ปี ต้องมีกำลังข้าราชการรวม 500 คน ดังนั้น ป.ป.ท.จะต้องทำเรื่องขอตัวข้าราชการจากหน่วยงานอื่นที่มีความเหมาะสม ทั้งความรู้และความสามารถ ให้มาช่วยราชการจนครบ 500 คน รวมทั้งต้องเปิดสอบคัดเลือกข้าราชการเพิ่มอีก 150 คน ในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ข้าราชการทั้ง 31 คน จะต้องเข้ามาช่วยราชการ ป.ป.ท.วันไหนนั้น ต้องรอให้รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษทำเรื่องตอบรับมา เท่าที่พูดคุยเบื้องต้นไม่มีปัญหาอะไร” อดีตอธิบดีดีเอสไอ กล่าว
สำหรับรายชื่อข้าราชการทั้ง 31 คน ที่ นายสุนัย มโนมัยอุดม รักษาการ เลขาธิการสำนักงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.ทำหนังสือขอตัวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้มาช่วยราชการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.ประกอบด้วย 1.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ผ่านมา นายนริศ รักเสน่ห์ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษหน้าห้องเคยมีกรณีวิวาทกับ พ.ต.อ.อโณทัย บำรุงพงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานที่ปรึกษากฎหมาย ดีเอสไอ 2.นายพรชัย อัศววัฒนาพร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท 3.นายนภดล เพชรสว่าง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 4.พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 5.พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 6.นายมหิธร กลั่นนุรักษ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 7.พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 8.นายสุทธิ พรรณรายน์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8ว 9.นายเพิ่มพูน พึ่งประสิทธิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8ว 10.พ.ต.ท.ชัยวิณ เสมาทอง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8ว
11.นายสมนึก เทิดกวินกุล พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8ว 12.นายอรรพร จรจำรัส พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8ว 13.นางชุลีวรรณ จิณตกวีวัฒน์ นักวิชาการเงินและการบัญชี 8ว 14.นางอุมาพร แพรประเสริฐ นักประชาสัมพันธ์ 7ว 15.พ.ต.ท.เกรียงไกร สืบสัมพันธ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7ว 16.นายบัณฑิต สังขนันท์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7ว 17.พ.ต.วิรัช กุลละวณิชย์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7ว 18.พ.ต.จรัล แสงหิรัญ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7ว 19.พ.ท.ธนาธิป จุลจาริตต์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7ว 20.พ.ต.ต.จตุพร อรุณฤกษ์ถวิล พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7ว
21.นางสาวธิดารัตน์ ภิภพ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7ว 22.นายพรภัทร เพ็ญพาส พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 6ว 23.นางสาวอาภรณีย์ เสมรสุต เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ 6ว 24.นางสาวกรรณิการ์ ศรีสมเกียรติ เจ้าหน้าที่วิเทศสัมพันธ์ 5 25.นางพัชธิญา กาญจนราช เจ้าหน้าที่พัสดุ 5 26.นางสาวสุภาณี สุดสาย เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 5 27.นายสุรัตน์ แรงกสิวิทย์ เจ้าพนักงานธุรการ 5 28.นายนริศ รักเสน่ห์ เจ้าพนักงานธุรการ 5 29.นายชัยณรงค์ เนติพงศ์เมธี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน 5 30.นางสาววราลี เจริญเลิศวิลาส นิติกร และ 31.นางสาวพรพรรณ เภตราเสถียร เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป