xs
xsm
sm
md
lg

“อัศวิน” คุมเข้มรับ “แม้ว” กลับบ้าน วอน! ม็อบหนุน-ม็อบต้าน อยู่บ้านดีกว่า!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นครบาลเข้มรับ “แม้ว” เฝ้าระวังเส้นทางไปศาลฎีกา สำนักงานอัยการ และดีเอสไอ พร้อมเข้ม รปภ.บ้านจันทร์ส่องหล้า เชื่อไม่มีการปะทะม็อบหนุน-ม็อบต้าน วอนทั้งสองฝ่ายนอนเชียร์อยู่บ้านดีกว่า อย่าออกมาให้รถติด

วันนี้ (26 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. กล่าวถึงแผนป้องกันเหตุร้าย หลังมีกระแสข่าวกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย วันที่ 28 ก.พ.ว่า สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ผู้บังคับการตำรวจจราจร ผู้บังคับการตรวจและปฏิบัติการพิเศษ รองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์สืบสวน ปฏิบัติตามแผนหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศ ซึ่งตำรวจคาดการณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อมอบตัวสู้คดีตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเชื่อว่าจะพักอาศัยในกรุงเทพฯหรือจังหวัดเชียงใหม่และที่อื่นๆ

พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า ยังจัดตำรวจรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลฎีกาฯ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ โดยให้ ผกก.แต่ละ สน.เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติด้วยตัวเอง พร้อมจัดเตรียมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน 1 กองร้อยพร้อมไว้ ณ ที่ตั้งของแต่ละหน่วยเพื่อให้ปฏิบัติงานได้ภายใน 30 นาที และให้ติดตามแนวโน้มของสถานการณ์การเดินทางกลับประเทศไทยของอดีตนายกฯ อย่างใกล้ชิด ให้ สน.ที่รับผิดชอบที่ตั้งศาลฎีกา และกรมสอบสวนคดีพิเศษให้เตรียมรถยกพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำไว้ที่สี่แยกโดยรอบเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจร และประสานกับโรงพยาบาล หน่วยบรรเทาสาธารณภัยกรณีเกิดเพลิงไหม้

“สำหรับกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ให้กำหนดแผนป้องกันเหตุร้ายและรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลฎีกาฯ กรณีมีการพิจารณาคดีอดีตนายกฯ โดยจัดกองร้องควบคุมฝูงชน 1 กองร้อยเพื่อเตรียมจัดระเบียบบุคคลที่อาจเดินทางมาให้กำลังใจหรือต่อต้าน ระมัดระวังการยั่วหรือเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มสนับสนุนและต่อต้าน จัดเจ้าหน้าที่สืบสวนบันทึกภาพนิ่งและเคลื่อนไหวสืบสวนหาข่าวโดยเกาะติดแกนนำหลัก แฝงตัวหาข่าวไปกับกลุ่มผู้ชุมนุม ติดตามความเคลื่อนไหวของสื่อมวลชน ช่างภาพอิสระหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้ตำรวจเข้าร่วมรักษาความปลอดภัยในห้องพิจารณาคดี” ผบช.น. กล่าว

ผบช.น.กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ได้กำชับ พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.7 กำหนดแผนรักษาความปลอดภัยโดยรอบบ้านพักอดีตนายกฯ และครอบครัวในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ในส่วนของกองบังคับการตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) ให้จัดกองร้อยควบคุมฝูงชน จัดรถยนต์พร้อมพลขับและรถอาวุธพิเศษจำนวน 1 คัน ทำหน้าที่คุ้มกันบุคคลเป้าหมาย จัดชุดอรินทราช 26 จำนวน 3 ชุด พร้อม ณ ที่ตั้ง และจัดชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ชุดสุนัขดมกลิ่น อย่างละ 1 ชุด และชุดตรวจวัตถุโลหะใต้ท้องรถ ตรวจสอบพื้นที่และยานพาหนะบุคคลสำคัญ กองบังคับการตำรวจจราจรได้รับคำสั่งให้ตั้งจุดตรวจค้นพิเศษหรือ ว.43 พิเศษตามเส้นทางต่างๆ ส่วนศูนย์สืบสวนได้รับคำสั่งให้หาข่าวจากกลุ่มพลังมวลชน จัดรถโมบายซีซีทีวีบันทึกภาพส่งไปยังศูนย์ปฏิบัติการ บช.น. เพื่อประเมินผลด้วย

พล.ต.ท.อัศวิน ยังกล่าวถึงกรณีที่คาดว่าอาจจะมีกลุ่มผู้สนับสนุน และกลุ่มผู้ต่อต้าน หรือไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ปลุกปั่นและชี้นำให้ประชาชนมาชุมนุมต่อต้าน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ใช้กำลังเข้าขัดขวางหรือต่อสู้เจ้าพนักงาน อดีตนายกฯ อาจจะตกเป็นเป้าหมายในการประทุษร้ายของฝ่ายตรงข้ามได้ จึงให้ออกสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง

“แต่เชื่อว่าจะไม่มีการปะทะระหว่างฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน เพราะที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมาแล้วก็ไม่ควรคัดค้าน ส่วนกลุ่มผู้สนับสนุนรู้ว่าเดินทางกลับแม้จะดีใจก็ควรดีใจอยู่กับบ้าน ไม่ต้องออกมาดีใจข้างนอกให้รถติด นอนอยู่กับบ้านดีที่สุดแล้ว” ผบช.น.กล่าว

ผบช.น.กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้ศูนย์วิทยุผ่านฟ้าประสานกับศูนย์วิทยุปทุมวัน และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เฝ้าฟัง ประสานงาน และสั่งการให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้ทุกหน่วยดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด หากเกิดความไม่สงบให้ดำเนินการตามแผนรักษาความปลอดภัยพื้นที่กรุงเทพมหานครของกองบัญชาการตำรวจนครบาลหรือแผนมกรา 50

ผบช.น.กล่าวอีกว่า สำหรับกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ให้เน้นการตั้งจุดตรวจค้นพิเศษ เฝ้าระวังจุดล่อแหลม และเส้นทางเข้าออกกรุงเทพมหานคร ตั้งจุดรักษาความปลอดภัยสถานที่เฝ้าระวัง เพิ่มความเข้มงวดในการสังเกต เฝ้าระวังสิ่งผิดปกติทั้งบุคคลและยานพาหนะ และวัตถุต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยง ส่วน สน.ที่รับผิดชอบเส้นทางไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสถานที่อื่นที่เกี่ยวข้องให้ตั้งจุดตรวจสังเกตการณ์และเฝ้าระวังเส้นทางตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไปจนกว่าภารกิจจะแล้วเสร็จ
กำลังโหลดความคิดเห็น