"แม้ว" ส่ง "หญิงอ้อ" กลับไทย เพื่อหยั่งกระแสสังคม หลังจากมีแนวโน้มว่าพรรคนอมินีได้เป็นรัฐบาลแน่ ขณะที่ "หญิงอ้อ" ถึงสุวรรณภูมิ ก่อนใช้ช่องทางพิเศษออกจากสนามบิน ไปขึ้นศาลฎีกานักการเมือง มอบตัวคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ท่ามกลางลิ่วล้อแห่ให้กำลังใจ ก่อนใช้เงิน 5 ล้านประกันตัวไป โดยศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ – ห้ามขัดขวางสร้างอุปสรรคดำเนินคดี นัดพิจารณา ครั้งแรก 23 ม.ค. ส่วนคดีเอสซีฯ ดีเอสไอให้ประกัน 1 ล้าน
หลังจาก คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประสานผ่านทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อมอบตัวและสู้คดี ที่ดินรัชดาภิเษก โดยจะเดินทางจากฮ่องกง โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 603 มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 09.40 น. ของวันที่ 8 ม.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 9.00 น. วานนี้ ผู้สื่อข่าว และช่างภาพจำนวนมาก ได้เดินทางมารอทำข่าวการเดินทางกลับของคุณหญิงพจมาน จนกระทั่ง เวลา 9.40 น. ซึ่ง เที่ยวบินดังกล่าว ลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว แต่กลับไม่ปรากฎร่างคุณหญิงพจมานแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.ท.ภัคพงศ์ สายอุบล รองโฆษก ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็ได้รับคำชี้แจงว่า เมื่อคุณหญิงพจมานลงจากเครื่องบิน และไปตรวจหนังสือเดินทางแล้ว ตม.ได้นำตัวมารับทราบข้อกล่าวหา และลงบันทึกประจำวัน จากนั้นตม. จึงส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ. ราชาเทวะ จากนั้นพนักงานสอบสวนได้พาคุณหญิงพจมาน ออกจากสนามบินด้วยช่องทางพิเศษ เพื่อเดินทางไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ศาลนำ"หญิงอ้อ"เข้าห้องพิจารณาคดีทันที
ต่อมา เวลา 11.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยที่ 2 ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก มูลค่า 700 ล้านบาทเศษ ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันเป็นคู่สัญญา หรือมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐฯ ปฎิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี และเป็นเจ้าพนักงาน และผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ. 2542 มาตรา 4 , 100 และ 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 86, 91, 152 และ157 ได้เข้ารายงานตัวต่อศาลฎีกาฯ ตามหมายจับคดีดำเลขที่ อม.1/2550 จากนั้นเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาฯ ได้นำตัวคุณหญิงพจมาน และ คณะผู้ติดตาม ไปที่ห้องพิจารณาคดี ชั้น 4 ทันที โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคดี
ในการส่งตัวตามหมายจับครั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นสมุดบัญชีเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ มูลค่า 5 ล้านบาท ขอประกันตัวมารดาต่อศาลฎีกาโดยศาลฎีกาฯพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 5 ล้านบาท และให้เพิกถอนหมายจับ ทั้งกำหนดเงื่อนไข ห้ามคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 เดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามกระทำการใดอันเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดี มิฉะนั้นจะถอนประกัน และมีคำสั่งให้ยกคดีในส่วนของคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 ขึ้นมาพิจารณา โดยนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 23 ม.ค. นี้ เวลา 10.00 น.
กลางเดือน เม.ย. "ทักษิณ" กลับไทย
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายครอบครัวชินวัตร กล่าวว่าจากนี้ไปคุณหญิงพจมาน จะอยู่ในประเทศไทยและพร้อมต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม มีนายพิชิฎ ชื่นบาน เป็นหัวหน้าทีมรับผิดชอบว่าความ ทั้งนี้ การเดินทางมาศาลครั้งนี้ เป็นการเข้ามอบตัวของ คุณหญิงพจมานเอง ไม่ได้ถูกจับกุมตามหมายจับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศาลได้สอบถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ด้วยหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ศาลไม่ได้ถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคดียังคงถูกจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ส่วนการเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เท่าที่คุยกันไว้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดิมที่จะกลับมา ประมาณกลางเดือน เม.ย. แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ก็ต้องดูอีกครั้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ลิ่วล้อพลังแม้วเสนอหน้าสลอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงพจมาน เดินทางมาถึงศาลฎีกาฯ เมื่อเวลา 11.00 น. โดยสวมชุดกระโปรงสีดำ ใส่แว่นตาดำ ซึ่งมาพร้อมกับ นายพานทองแท้ น.ส.แพทองธาร บุตรชายและบุตรสาว ด้วยรถยนต์ไคร์สเลอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ธค 1991 กรุงเทพ ส่วน น.ส.พิณทองทา บุตรสาวอีกคน เดินทางมารอรับมารดาอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อคุณหญิงพจมาน ก้าวลงมาจากรถยนต์ที่มาจอดเทียบยังบันไดศาลฎีกา บรรดาผู้สนับสนุนซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับม็อบเชียร์อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่มี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ประมาณ 20 คน รวมทั้ง นางดารุณี กฤตบุญญาลัย และนายไอยคุปต์ หรือ น้ำนิ่ง บุตรชาย น.ส.ทัศนวลัย หรือ ฮาน่า องอาจสิทธิชัย นักแสดง และบรรดาไฮโซ มาส่งเสียงเชียร์ตะโกนเรียกชื่อ "คุณหญิงพจมานๆ" พร้อมมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ ซึ่งคุณหญิงพจมาน ก็ส่งยิ้ม พร้อมรับไหว้ตอบกลับเหล่าบรรดากองเชียร์ โดยปฎิเสธไม่ตอบคำถามของกองทัพผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศที่มาดักรอ
จากนั้นรีบขึ้นลิฟท์ไปยังห้องพิจารณาชั้น 4 โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที ศาลจึงมีสั่งอนุญาตให้ประกันตัว ซึ่งคุณหญิงพจมาน เดินลงมาจากศาลฎีกาฯ พร้อมบุตรชายบุตรสาว และผู้ติดตาม ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่กลุ่มกองเชียร์ต่างก็ร้องตะโกน "คุณหญิงพจมาน สู้ๆ" ก่อนที่คุณหญิงพจมาน จะเดินทางขึ้นรถคันเดิม เพื่อไปมอบตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บ.เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
นอกจากบรรดาไฮโซ แล้ว ยังมี นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ร่วมทั้งผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน อาทิ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล
มอบตัวคดีเอสซีฯ ให้ประกัน 1 ล้าน
ต่อมาเวลา 12.10 น. คุณหญิงพจมาน เดินทางถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมอบตัวตามหมายจับ คดีปกปิดโครงสร้าง ผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซีแอสเสทฯ โดย นายพิชิฎ ชื่นบาน ทนายความ เปิดเผยว่า คุณหญิงพจมาน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้หลักประกันเป็นเงินสด 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ว่า หากจะเดินทางไปต่างประเทศจะต้องแจ้งต่อพนักงานสอบสวน ส่วนขั้นตอนต่อไปของดีเอสไอ ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนที่จะต้องรวบรวบข้อเท็จจริง
นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า หลังจากคุณหญิงพจมาน รับทราบข้อกล่าวหา ก็ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมให้รายละเอียดเป็นหนังสือบางส่วน และจะขอให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสืออีก 30 วัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อรองเวลา เพราะเห็นว่า 30 วันนานเกินไป ซึ่งทางดีเอสไอ ได้ให้เวลาชี้แจงข้อเท็จจริงมานานแล้ว การสรุปสำนวนจะเสร็จสิ้นเร็วๆนี้ เพราะขณะนี้พยานหลักฐานมีความชัดเจน และพร้อมทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างรอเพียงสรุปสำนวนเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องรอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ก็สามารถสรุปสำนวนได้พร้อมกัน โดยระบุในสำนวนว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา
แปลกดีเอสไอไม่ถามหา "ทักษิณ"
นายสุนัย กล่าวอีกว่า ในการพูดคุยกับคุณหญิงพจมาน ได้ทักทายพูดคุยเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ได้พูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะเดินทางกลับมาเมื่อใด หรือจะเดินทางเข้ามอบตัวหรือไม่ ส่วนในกรณีที่นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา และพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ซึ่งเป็นอดีต รมว.ยุติธรรม เดินทางมาด้วยนั้น นายสุนัย กล่าวยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบทางด้านจิตวิทยา หรือการดำเนินคดีแต่อย่างใด และไม่จำเป็นต้องเร่งสรุปสำนวนให้ทันก่อนจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะพนักงานสอบสวนทำไปตามขั้นตอน และเชื่อว่าจะเสร็จสิ้นก่อนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ส่วนการสอบสวนกองทุนต่างประเทศ ก็มีหลักฐานและข้อมูลพอสมควรแล้ว
ด้าน นายพรชัย อัศววัฒนาพร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปตามหลักฐานทั้งสิ้น ไม่ได้มองเรื่องของการเมือง ซึ่งเรื่องของการสืบสวนสอบสวน ก็เป็นไปตามจังหวะเวลา และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานตามหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคุณหญิงพจมาน ได้รับการประกันตัวแล้วก็เดินทางกลับบ้านพัก ซ.จรัญสนิทวงศ์ 69 เพื่อพักผ่อน
"แม้ว"แจงเหตุผลที่อ้อต้องกลับไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.45 น.ตัวแทนที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้นำแถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว มาให้กับสื่อมวลชนที่รอทำข่าวอยู่ที่พรรคพลังประชาชน โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ระบุถึงเหตุผล ในการเดินทางกลับประเทศไทย ในเช้าวันที่ 8 ม.ค.นี้ว่า
1.เพื่อเข้าถวายสักการะและถวายอาลัยพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในฐานะตัวแทนของครอบครัวชินวัตรและครอบครัวดามาพงศ์ 2.เพื่อมอบตัวต่อศาลยุติธรรม ในการต่อสู้คดี และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว พร้อมหลักทรัพย์ตามที่กฎหมายกำหนด
"ผมขอเรียนยืนยันว่า คุณหญิงพจมานและผมพร้อมที่จะต่อสู้ทุกคดี และทุกข้อกล่าวหาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของครอบครัว โดยผมและครอบครัว มีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมและความยุติธรรมจากสถาบันตุลาการ"
3.ในฐานะที่ของคนที่เป็นแม่ คุณหญิงพจมาน จึงมีความรักและห่วงใย ใกล้ชิดกับลูกๆ มาก ด้วยความคิดถึงลูกของผู้หญิงที่เป็นแม่คนหนึ่ง คุณหญิงจึงเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกๆและครอบครัว
จัด ตร.ดูแล"หญิงอ้อ" 24 ชั่วโมง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยให้ คุณหญิงพจมาน หลังจากได้ประกันตัว ว่าช่วงที่ใช้ชีวิตปกติตำรวจก็จะดูแลเรื่องความปลอดภัย เพราะเกรงมือที่สามฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ตำรวจเข้าไปดูแล
"การดูแลความปลอดภัยจะดูแลตลอด 24 ชั่วโมง แต่ไม่ได้ถึงกับใช้กำลังตำรวจเป็นกองร้อย กองพัน โดยได้สั่งกองบัญชาการตำรวจสันติบาล จัดตำรวจหญิงดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ภายนอกจะเป็นตำรวจชาย หากไปไหนมาไหน ก็จะจัดกำลังให้ตามสมควร"ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการข่าวพบว่ามีกลุ่มที่จะมาปองร้ายคุณหญิงหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เราต้องตั้งสมมติฐานไว้ก่อน ไม่ใช่ว่าอะไรก็ไม่มี รัฐบาลก็ดี ตำรวจก็ดี ไม่อยากให้เกิดเหตุวุ่นวาย อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อย สงบ อยากเห็นทุกฝ่ายปรองดองกัน ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลไม่อยากให้มีปัญหา จึงสั่งตนให้ดูแลเป็นพิเศษ แต่คนที่อยากเกิดความวุ่นวายมันก็มี แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็ต้องป้องกันไว้ก่อน ในส่วนของครอบครัว ก็ดูแลบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งก็ดูแลเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ส่วนลูกๆ ก็ปกติทั่วไป
เมื่อถามว่า การมาถึงของคุณหญิงพจมาน จะทำให้ยิ่งเกิดการชุมนุมประท้วงหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่น่าจะมีคนเรามาสู้คดีตามปกติ ก็ไม่น่ามีอะไร อย่างกรณีผู้ต้องหาตามหมายจับกว่าแสนหมาย ก็ได้กำชับให้ตำรวจไปดำเนินการ ซึ่งไม่กี่วันมานี้ ได้มีการไปจับผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งอยากประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ต้องหาตามหมายจับให้มามอบตัวสู้คดี ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรม ดีกว่าหลบๆ ซ่อนๆ เมื่อพ้นคดี ก็จะได้เป็นอิสระ
"สุรยุทธ์"เชื่อไม่มีเหตุแทรกซ้อน
ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรมว. มหาดไทย กล่าวถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของคุณหญิงพจมานว่า เขามีสิทธิในฐานะที่เป็นคนไทย สามารถเดินทางกลับมาได้ตลอดเวลา ส่วนเรื่องคดีความการดำเนินการต่างๆนั้น คิดว่าเป็นเรื่องของแต่ละท่านซึ่งจะมีผู้ที่ช่วยในการประสานงานต่างๆได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เกรงในเรื่องความไม่ปลอดภัย หรือเรื่องมือที่สามที่อาจจะก่อความวุ่นวาย พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการรายงานอย่างไร คิดว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องของความปลอดภัยตามปกติอยู่แล้ว คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่จะต้องช่วยกันดูแลในเรื่องความปลอดภัย
เมื่อถามว่า คิดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวในทางการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนคงไม่ได้คิดในเรื่องนั้น เมื่อถามว่า คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อีกนานหรือไม่จะกลับมา พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงเอาไว้ถามคุณหญิงพจมาน ดีกว่า ถามตนคงจะตอบได้ยาก
"บิ๊กบัง"ยังยิ้มสู้
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางกลับมาสู้คดีของคุณหญิงพจมานว่า ไม่วิจารณ์การเมือง เมื่อถามว่า ถือว่าดีหรือไม่ จะสร้างสมานฉันท์ได้หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ได้ อยู่ที่ใจ ช่วงนี้ควรสมานฉันท์
เมื่อถามว่า สำหรับตัวท่านไม่มีปัญหาอะไรหรือไม่ แม้ผลการเลือกตั้งจะออกมาว่าพรรคพลังประชาชนจะกลับมา และมองกันว่า ท่านเครียดมากในเวลานี้ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า โอ้โห ยังยิ้มอยู่ ยังยิ้มได้
เมื่อถามว่า เหตุที่ต้องนิ่งไม่ออกมาพูดในตอนนี้เพราะอะไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า มันพูดไปก็ไม่มีน้ำหนักอะไร ในเวลานี้ต้องรอเวลา เมื่อถามว่าเวลาไหนที่เหมาะสม พล.อ.สนธิ กล่าวว่า แล้วจะบอกพร้อมกับโบกมือลา แล้วเดินขึ้นรถทันที
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคมช. ได้มีพูดคุยถึงการเดินทางกลับมาสู้คดีของคุณหญิง พจมาน ชินวัตร ซึ่งเป็นการพูดคุยในภาพรวม โดยคมช.ทุกท่านรู้สึกสบายใจว่า การกลับมาของคุณหญิงพจมาน จะทำให้ทุกอย่างได้เข้าสู่กระบวนการ ยุติธรรม ถึงแม้จะเป็นจุดเริ่มต้นก็ตาม ซึ่งที่ประชุมได้เน้นย้ำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) รับผิดชอบดูแลความปลอดภัย เป็นกรณีพิเศษ
คตส.มั่นใจหลักฐานมัดแน่น
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. กล่าวว่า เป็นคนไทยก็ต้องกลับมาสู้คดี ไม่คิดว่าจะเป็นการส่งสัญญาณอะไรเป็นพิเศษ และไม่กระทบการทำงานของ คตส. โดยคตส.จะทำงานตามปกติโดยที่ไม่รู้สึกหวั่นไหวอะไร อย่างไรก็ตามในสำนวนคดีนี้ คตส. มั่นใจโดยได้มีการรวบรวมข้อเท็จจริงไว้หมดแล้ว ขาดแต่เพียงข้อกฎหมายเท่านั้น ซึ่งในสำนวนนั้นระบุว่า พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นตัวการ เป็นจำเลยที่1 ส่วนคุณหญิงพจมาน เป็นจำเลยที่ 2 โดยเป็นผู้สนับสนุน การที่คุณหญิงพจมาน เดินทางเข้าสู้คดีเพียงคนเดียว ก็ต้องขึ้นอยู่กับศาลว่าจะใช้ดุลยพินิจอย่างไร
ต่อข้อถามว่า กลัวจะมีการวิ่งเต้นคดีหรือไม่ นายนาม กล่าวว่า ตามหลักคือต้องไม่มีการวิ่งเต้น เพราะเรื่องการวิ่งเต้นเป็นเรื่องนอกกฎหมาย แต่จะมีข้อยกเว้นหรือไม่ ไม่ทราบ ทั้งนี้คุณหญิงพจมาน และ พ.ต.ท.ทักษิณ มีสิทธิ์ที่จะขอความเป็นธรรมได้ในชั้นศาล
เหน็บอย่ายึด กม.เฉพาะตอนที่ได้เปรียบ
นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การเดินทางกลับประเทศไทยของคุณหญิงพจมาน ว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะเมื่อมีคดีความที่ค้างคาอยู่ก็กลับมาต่อสู้คดีตามกระบวนการที่ถูกต้อง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน และเมื่ออะไรก็ตามที่มันดำเนินไปตามหลักของกฎหมาย หลักนิติธรรม ก็น่าจะเป็นผลดี ซึ่งก็จะนำไปสู่ข้อยุติ และก่อให้เกิดความสมานฉันท์ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้อีกหรือไม่ นายธีรภัทร์ กล่าวว่า คงไม่หรอก เพราะเรื่องนี้มันเป็นไปตามหลักของกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องของกฎหมู่ แต่เป็นเรื่องของกฎหมาย ดังนั้นไม่ว่าคุณหญิงพจมาน หรือพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาต่อสู้คดีอย่างถูกต้องตามหลักของกระบวนการยุติธรรมนั้น ก็เชื่อว่าจะเป็นข้อยุติที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
หากการเดินทางมามอบตัวสู้คดีของคุณหญิงพจมาน ไม่มีปัญหาอะไร จะส่งผลถึงการเดินทางกลับมาต่อสู้คดีของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ความจริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาเมื่อไรก็ได้ เพราะท่านเป็นคนไทย และมาแก้ไขคดีความต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก
"ไม่ใช่เข้ามาแล้ว มาใช้อะไรที่มันนอกเหนือจากหลักกฎหมาย คือต้องตรงไปตรงมาจริงๆ ผมคิดว่าตรงนี้ทุกฝ่ายก็จะยอมรับได้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องอื่นๆ ด้วย ผมคิดว่าบ้านเมืองของเราถ้ายึดหลักกฎหมายกฎหมายได้ ก็จะนำไปสู่ความสงบเรียบร้อย ความยุติธรรม ไม่ใช่พอตัวเองได้เปรียบก็บอกให้คนอื่นเขายึดหลักกฎหมาย พอเสียเปรียบก็บอกว่าอย่าไปยึดเลยหลักกฎหมายนี้ ซึ่งผมเห็นมาบ่อย เวลาที่ตนเองซึ่งมีส่วนได้ ส่วนเสีย ก็มักจะมองอะไรที่ไม่อิงหลักของความถูกต้อง ตรงไปตรงมา ดูจากการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เห็นอยู่แล้ว เวลาที่ได้ประโยชน์ก็พูดอย่างหนึ่ง เวลาที่เสียประโยชน์ก็พูดอีกอย่างหนึ่ง"นายธีรภัทร์ กล่าว
"ชวน"ดักคอรัฐบาลใหม่อย่าแทรกแซง
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ที่ต้องมาต่อสู้ทางคดีความตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนมองว่า ปัจจุบันกระบวนการยุติธรรมนของไทย มีความเป็นธรรม แทรกแซงยาก และเชื่อว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน จะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม หรือศาล
"ศาลไทยโดยทั่วไปเป็นที่ยอมรับ ความน่าเชื่อถือมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นยุคประชาธิปไตย หรือถูกยึดอำนาจก็ตาม การเมืองไม่สามารถเข้าไปแทรกแซง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ กระบวนการยุติธรรมขั้นต้น เพราะศาลจะพิจารณาคดีได้ เรื่องจะต้องผ่านไปจากตำรวจ และอัยการก่อน เพราะฉะนั้น การที่ไม่มีการแทรกแซงทางศาล ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่จะดียิ่งขึ้น หากไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น คือ ตำรวจ และอัยการ"
นายชวน ยังได้กล่าวถึงช่วงเปลี่ยนผ่านการเมืองในขณะนี้ว่า จะมีผลต่อการต่อสู้คดีของ คุณหญิงพจมานหรือไม่ ว่า เรื่องเหล่านี้ต้องติดตามให้ใกล้ชิด ทั้งสื่อมวลชน และประชาชน โดยรัฐบาลชุดใหม่จะต้องวางบทบาท ไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกฝ่ายได้บทเรียนมามากพอแล้ว จากวิกฤตของประเทศที่เกิดขึ้น จึงคิดว่าน่าจะมีความระมัดระวังมากขึ้น
ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคพลังประชาชน ออกมายืนยันตลอดว่า จะช่วยฟอกความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิง พจมาน นายชวน กล่าวว่า ต้องรอดูเจ้าหน้าที่ว่าดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคงไม่สามารถประเมินได้ว่าผลเป็นอย่างไร แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่ต้องพยายามทำให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย บ้านเมืองของเรามีวิกฤตและมีปัญหามีบทเรียนมามากพอแล้ว เรารู้ว่าสิ่งที่ก่อให้เกิดวิกฤตคือ การทำอะไรโดยไม่ยึดหลักเกณฑ์ และไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง เมื่อไรก็ตามที่มีการออกนอกกติกา กฎหมายบ้านเมือง ก็จะมีผลสะท้อนกลับมาเสมอ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ตาม
"แม้ว"ใช้"อ้อ"หยั่งกระแสสังคม
แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า การที่คุณหญิงพจมาน เดินทางกลับประเทศไทยอย่างกระทันหัน เพื่อต่อสู้คดีความต่างๆ นั้น เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประเมินแล้วเห็นว่า ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเดินทางกลับมา เนื่องจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคพลังประชาชน จะจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน เพราะล่าสุดในการเจรจาตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองอื่นๆ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเชื่อว่าการกลับมาในช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย และการต่อสู้คดีต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณให้ทุกฝ่าย ทั้งผู้ที่สนับสนุน และผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมจะกลับมาสู้คดีอย่างแน่นอน อีกทั้งยังเป็นการแก้เกม คมช. ที่พยายามจะสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ในเรื่องการให้ใบเหลือง ใบแดง เพราะเมื่อคุณหญิงพจมานกลับมา ก็เป็นสัญญาณว่า จะกลับมาสู้ในเรื่องนี้ด้วย ขณะเดียวกันคุณหญิงพจมาน จะมีการหารือในเรื่องของการวางตัวรัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่ด้วย นอกจากนี้ การกลับมาของคุณหญิงพจมาน ยังเป็นการหยั่งกระแสสังคมต่อการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงเดือน เม.ย. นี้ด้วย
หลังจาก คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประสานผ่านทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อมอบตัวและสู้คดี ที่ดินรัชดาภิเษก โดยจะเดินทางจากฮ่องกง โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 603 มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 09.40 น. ของวันที่ 8 ม.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 9.00 น. วานนี้ ผู้สื่อข่าว และช่างภาพจำนวนมาก ได้เดินทางมารอทำข่าวการเดินทางกลับของคุณหญิงพจมาน จนกระทั่ง เวลา 9.40 น. ซึ่ง เที่ยวบินดังกล่าว ลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว แต่กลับไม่ปรากฎร่างคุณหญิงพจมานแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.ท.ภัคพงศ์ สายอุบล รองโฆษก ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็ได้รับคำชี้แจงว่า เมื่อคุณหญิงพจมานลงจากเครื่องบิน และไปตรวจหนังสือเดินทางแล้ว ตม.ได้นำตัวมารับทราบข้อกล่าวหา และลงบันทึกประจำวัน จากนั้นตม. จึงส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ. ราชาเทวะ จากนั้นพนักงานสอบสวนได้พาคุณหญิงพจมาน ออกจากสนามบินด้วยช่องทางพิเศษ เพื่อเดินทางไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ศาลนำ"หญิงอ้อ"เข้าห้องพิจารณาคดีทันที
ต่อมา เวลา 11.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยที่ 2 ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก มูลค่า 700 ล้านบาทเศษ ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันเป็นคู่สัญญา หรือมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐฯ ปฎิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี และเป็นเจ้าพนักงาน และผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ. 2542 มาตรา 4 , 100 และ 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 86, 91, 152 และ157 ได้เข้ารายงานตัวต่อศาลฎีกาฯ ตามหมายจับคดีดำเลขที่ อม.1/2550 จากนั้นเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาฯ ได้นำตัวคุณหญิงพจมาน และ คณะผู้ติดตาม ไปที่ห้องพิจารณาคดี ชั้น 4 ทันที โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคดี
ในการส่งตัวตามหมายจับครั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นสมุดบัญชีเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ มูลค่า 5 ล้านบาท ขอประกันตัวมารดาต่อศาลฎีกาโดยศาลฎีกาฯพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 5 ล้านบาท และให้เพิกถอนหมายจับ ทั้งกำหนดเงื่อนไข ห้ามคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 เดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามกระทำการใดอันเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดี มิฉะนั้นจะถอนประกัน และมีคำสั่งให้ยกคดีในส่วนของคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 ขึ้นมาพิจารณา โดยนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 23 ม.ค. นี้ เวลา 10.00 น.
กลางเดือน เม.ย. "ทักษิณ" กลับไทย
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายครอบครัวชินวัตร กล่าวว่าจากนี้ไปคุณหญิงพจมาน จะอยู่ในประเทศไทยและพร้อมต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม มีนายพิชิฎ ชื่นบาน เป็นหัวหน้าทีมรับผิดชอบว่าความ ทั้งนี้ การเดินทางมาศาลครั้งนี้ เป็นการเข้ามอบตัวของ คุณหญิงพจมานเอง ไม่ได้ถูกจับกุมตามหมายจับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศาลได้สอบถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ด้วยหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ศาลไม่ได้ถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคดียังคงถูกจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ส่วนการเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เท่าที่คุยกันไว้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดิมที่จะกลับมา ประมาณกลางเดือน เม.ย. แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ก็ต้องดูอีกครั้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ลิ่วล้อพลังแม้วเสนอหน้าสลอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงพจมาน เดินทางมาถึงศาลฎีกาฯ เมื่อเวลา 11.00 น. โดยสวมชุดกระโปรงสีดำ ใส่แว่นตาดำ ซึ่งมาพร้อมกับ นายพานทองแท้ น.ส.แพทองธาร บุตรชายและบุตรสาว ด้วยรถยนต์ไคร์สเลอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ธค 1991 กรุงเทพ ส่วน น.ส.พิณทองทา บุตรสาวอีกคน เดินทางมารอรับมารดาอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อคุณหญิงพจมาน ก้าวลงมาจากรถยนต์ที่มาจอดเทียบยังบันไดศาลฎีกา บรรดาผู้สนับสนุนซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับม็อบเชียร์อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่มี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ประมาณ 20 คน รวมทั้ง นางดารุณี กฤตบุญญาลัย และนายไอยคุปต์ หรือ น้ำนิ่ง บุตรชาย น.ส.ทัศนวลัย หรือ ฮาน่า องอาจสิทธิชัย นักแสดง และบรรดาไฮโซ มาส่งเสียงเชียร์ตะโกนเรียกชื่อ "คุณหญิงพจมานๆ" พร้อมมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ ซึ่งคุณหญิงพจมาน ก็ส่งยิ้ม พร้อมรับไหว้ตอบกลับเหล่าบรรดากองเชียร์ โดยปฎิเสธไม่ตอบคำถามของกองทัพผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศที่มาดักรอ
จากนั้นรีบขึ้นลิฟท์ไปยังห้องพิจารณาชั้น 4 โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที ศาลจึงมีสั่งอนุญาตให้ประกันตัว ซึ่งคุณหญิงพจมาน เดินลงมาจากศาลฎีกาฯ พร้อมบุตรชายบุตรสาว และผู้ติดตาม ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่กลุ่มกองเชียร์ต่างก็ร้องตะโกน "คุณหญิงพจมาน สู้ๆ" ก่อนที่คุณหญิงพจมาน จะเดินทางขึ้นรถคันเดิม เพื่อไปมอบตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บ.เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
นอกจากบรรดาไฮโซ แล้ว ยังมี นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ร่วมทั้งผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน อาทิ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล
มอบตัวคดีเอสซีฯ ให้ประกัน 1 ล้าน
ต่อมาเวลา 12.10 น. คุณหญิงพจมาน เดินทางถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมอบตัวตามหมายจับ คดีปกปิดโครงสร้าง ผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซีแอสเสทฯ โดย นายพิชิฎ ชื่นบาน ทนายความ เปิดเผยว่า คุณหญิงพจมาน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้หลักประกันเป็นเงินสด 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ว่า หากจะเดินทางไปต่างประเทศจะต้องแจ้งต่อพนักงานสอบสวน ส่วนขั้นตอนต่อไปของดีเอสไอ ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนที่จะต้องรวบรวบข้อเท็จจริง
นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า หลังจากคุณหญิงพจมาน รับทราบข้อกล่าวหา ก็ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมให้รายละเอียดเป็นหนังสือบางส่วน และจะขอให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสืออีก 30 วัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อรองเวลา เพราะเห็นว่า 30 วันนานเกินไป ซึ่งทางดีเอสไอ ได้ให้เวลาชี้แจงข้อเท็จจริงมานานแล้ว การสรุปสำนวนจะเสร็จสิ้นเร็วๆนี้ เพราะขณะนี้พยานหลักฐานมีความชัดเจน และพร้อมทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างรอเพียงสรุปสำนวนเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องรอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ก็สามารถสรุปสำนวนได้พร้อมกัน โดยระบุในสำนวนว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา
แปลกดีเอสไอไม่ถามหา "ทักษิณ"
นายสุนัย กล่าวอีกว่า ในการพูดคุยกับคุณหญิงพจมาน ได้ทักทายพูดคุยเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ได้พูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะเดินทางกลับมาเมื่อใด หรือจะเดินทางเข้ามอบตัวหรือไม่ ส่วนในกรณีที่นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา และพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ซึ่งเป็นอดีต รมว.ยุติธรรม เดินทางมาด้วยนั้น นายสุนัย กล่าวยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบทางด้านจิตวิทยา หรือการดำเนินคดีแต่อย่างใด และไม่จำเป็นต้องเร่งสรุปสำนวนให้ทันก่อนจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะพนักงานสอบสวนทำไปตามขั้นตอน และเชื่อว่าจะเสร็จสิ้นก่อนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ส่วนการสอบสวนกองทุนต่างประเทศ ก็มีหลักฐานและข้อมูลพอสมควรแล้ว
ด้าน นายพรชัย อัศววัฒนาพร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปตามหลักฐานทั้งสิ้น ไม่ได้มองเรื่องของการเมือง ซึ่งเรื่องของการสืบสวนสอบสวน ก็เป็นไปตามจังหวะเวลา และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานตามหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคุณหญิงพจมาน ได้รับการประกันตัวแล้วก็เดินทางกลับบ้านพัก ซ.จรัญสนิทวงศ์ 69 เพื่อพักผ่อน
"แม้ว"แจงเหตุผลที่อ้อต้องกลับไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.45 น.ตัวแทนที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้นำแถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว มาให้กับสื่อมวลชนที่รอทำข่าวอยู่ที่พรรคพลังประชาชน โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ระบุถึงเหตุผล ในการเดินทางกลับประเทศไทย ในเช้าวันที่ 8 ม.ค.นี้ว่า
1.เพื่อเข้าถวายสักการะและถวายอาลัยพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในฐานะตัวแทนของครอบครัวชินวัตรและครอบครัวดามาพงศ์ 2.เพื่อมอบตัวต่อศาลยุติธรรม ในการต่อสู้คดี และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยได้ยื่นคำร้องขอประกันตัว พร้อมหลักทรัพย์ตามที่กฎหมายกำหนด
"ผมขอเรียนยืนยันว่า คุณหญิงพจมานและผมพร้อมที่จะต่อสู้ทุกคดี และทุกข้อกล่าวหาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของครอบครัว โดยผมและครอบครัว มีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมและความยุติธรรมจากสถาบันตุลาการ"
3.ในฐานะที่ของคนที่เป็นแม่ คุณหญิงพจมาน จึงมีความรักและห่วงใย ใกล้ชิดกับลูกๆ มาก ด้วยความคิดถึงลูกของผู้หญิงที่เป็นแม่คนหนึ่ง คุณหญิงจึงเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกๆและครอบครัว
จัด ตร.ดูแล"หญิงอ้อ" 24 ชั่วโมง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยให้ คุณหญิงพจมาน หลังจากได้ประกันตัว ว่าช่วงที่ใช้ชีวิตปกติตำรวจก็จะดูแลเรื่องความปลอดภัย เพราะเกรงมือที่สามฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวาย ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ตำรวจเข้าไปดูแล
"การดูแลความปลอดภัยจะดูแลตลอด 24 ชั่วโมง แต่ไม่ได้ถึงกับใช้กำลังตำรวจเป็นกองร้อย กองพัน โดยได้สั่งกองบัญชาการตำรวจสันติบาล จัดตำรวจหญิงดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ภายนอกจะเป็นตำรวจชาย หากไปไหนมาไหน ก็จะจัดกำลังให้ตามสมควร"ผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการข่าวพบว่ามีกลุ่มที่จะมาปองร้ายคุณหญิงหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เราต้องตั้งสมมติฐานไว้ก่อน ไม่ใช่ว่าอะไรก็ไม่มี รัฐบาลก็ดี ตำรวจก็ดี ไม่อยากให้เกิดเหตุวุ่นวาย อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อย สงบ อยากเห็นทุกฝ่ายปรองดองกัน ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลไม่อยากให้มีปัญหา จึงสั่งตนให้ดูแลเป็นพิเศษ แต่คนที่อยากเกิดความวุ่นวายมันก็มี แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็ต้องป้องกันไว้ก่อน ในส่วนของครอบครัว ก็ดูแลบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งก็ดูแลเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ส่วนลูกๆ ก็ปกติทั่วไป
เมื่อถามว่า การมาถึงของคุณหญิงพจมาน จะทำให้ยิ่งเกิดการชุมนุมประท้วงหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่น่าจะมีคนเรามาสู้คดีตามปกติ ก็ไม่น่ามีอะไร อย่างกรณีผู้ต้องหาตามหมายจับกว่าแสนหมาย ก็ได้กำชับให้ตำรวจไปดำเนินการ ซึ่งไม่กี่วันมานี้ ได้มีการไปจับผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งอยากประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ต้องหาตามหมายจับให้มามอบตัวสู้คดี ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรม ดีกว่าหลบๆ ซ่อนๆ เมื่อพ้นคดี ก็จะได้เป็นอิสระ
"สุรยุทธ์"เชื่อไม่มีเหตุแทรกซ้อน
ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรมว. มหาดไทย กล่าวถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของคุณหญิงพจมานว่า เขามีสิทธิในฐานะที่เป็นคนไทย สามารถเดินทางกลับมาได้ตลอดเวลา ส่วนเรื่องคดีความการดำเนินการต่างๆนั้น คิดว่าเป็นเรื่องของแต่ละท่านซึ่งจะมีผู้ที่ช่วยในการประสานงานต่างๆได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เกรงในเรื่องความไม่ปลอดภัย หรือเรื่องมือที่สามที่อาจจะก่อความวุ่นวาย พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการรายงานอย่างไร คิดว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องของความปลอดภัยตามปกติอยู่แล้ว คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่จะต้องช่วยกันดูแลในเรื่องความปลอดภัย
เมื่อถามว่า คิดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวในทางการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนคงไม่ได้คิดในเรื่องนั้น เมื่อถามว่า คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อีกนานหรือไม่จะกลับมา พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงเอาไว้ถามคุณหญิงพจมาน ดีกว่า ถามตนคงจะตอบได้ยาก
"บิ๊กบัง"ยังยิ้มสู้
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางกลับมาสู้คดีของคุณหญิงพจมานว่า ไม่วิจารณ์การเมือง เมื่อถามว่า ถือว่าดีหรือไม่ จะสร้างสมานฉันท์ได้หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ได้ อยู่ที่ใจ ช่วงนี้ควรสมานฉันท์
เมื่อถามว่า สำหรับตัวท่านไม่มีปัญหาอะไรหรือไม่ แม้ผลการเลือกตั้งจะออกมาว่าพรรคพลังประชาชนจะกลับมา และมองกันว่า ท่านเครียดมากในเวลานี้ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า โอ้โห ยังยิ้มอยู่ ยังยิ้มได้
เมื่อถามว่า เหตุที่ต้องนิ่งไม่ออกมาพูดในตอนนี้เพราะอะไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า มันพูดไปก็ไม่มีน้ำหนักอะไร ในเวลานี้ต้องรอเวลา เมื่อถามว่าเวลาไหนที่เหมาะสม พล.อ.สนธิ กล่าวว่า แล้วจะบอกพร้อมกับโบกมือลา แล้วเดินขึ้นรถทันที
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคมช. ได้มีพูดคุยถึงการเดินทางกลับมาสู้คดีของคุณหญิง พจมาน ชินวัตร ซึ่งเป็นการพูดคุยในภาพรวม โดยคมช.ทุกท่านรู้สึกสบายใจว่า การกลับมาของคุณหญิงพจมาน จะทำให้ทุกอย่างได้เข้าสู่กระบวนการ ยุติธรรม ถึงแม้จะเป็นจุดเริ่มต้นก็ตาม ซึ่งที่ประชุมได้เน้นย้ำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) รับผิดชอบดูแลความปลอดภัย เป็นกรณีพิเศษ
คตส.มั่นใจหลักฐานมัดแน่น
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. กล่าวว่า เป็นคนไทยก็ต้องกลับมาสู้คดี ไม่คิดว่าจะเป็นการส่งสัญญาณอะไรเป็นพิเศษ และไม่กระทบการทำงานของ คตส. โดยคตส.จะทำงานตามปกติโดยที่ไม่รู้สึกหวั่นไหวอะไร อย่างไรก็ตามในสำนวนคดีนี้ คตส. มั่นใจโดยได้มีการรวบรวมข้อเท็จจริงไว้หมดแล้ว ขาดแต่เพียงข้อกฎหมายเท่านั้น ซึ่งในสำนวนนั้นระบุว่า พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นตัวการ เป็นจำเลยที่1 ส่วนคุณหญิงพจมาน เป็นจำเลยที่ 2 โดยเป็นผู้สนับสนุน การที่คุณหญิงพจมาน เดินทางเข้าสู้คดีเพียงคนเดียว ก็ต้องขึ้นอยู่กับศาลว่าจะใช้ดุลยพินิจอย่างไร
ต่อข้อถามว่า กลัวจะมีการวิ่งเต้นคดีหรือไม่ นายนาม กล่าวว่า ตามหลักคือต้องไม่มีการวิ่งเต้น เพราะเรื่องการวิ่งเต้นเป็นเรื่องนอกกฎหมาย แต่จะมีข้อยกเว้นหรือไม่ ไม่ทราบ ทั้งนี้คุณหญิงพจมาน และ พ.ต.ท.ทักษิณ มีสิทธิ์ที่จะขอความเป็นธรรมได้ในชั้นศาล
เหน็บอย่ายึด กม.เฉพาะตอนที่ได้เปรียบ
นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การเดินทางกลับประเทศไทยของคุณหญิงพจมาน ว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะเมื่อมีคดีความที่ค้างคาอยู่ก็กลับมาต่อสู้คดีตามกระบวนการที่ถูกต้อง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน และเมื่ออะไรก็ตามที่มันดำเนินไปตามหลักของกฎหมาย หลักนิติธรรม ก็น่าจะเป็นผลดี ซึ่งก็จะนำไปสู่ข้อยุติ และก่อให้เกิดความสมานฉันท์ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้อีกหรือไม่ นายธีรภัทร์ กล่าวว่า คงไม่หรอก เพราะเรื่องนี้มันเป็นไปตามหลักของกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องของกฎหมู่ แต่เป็นเรื่องของกฎหมาย ดังนั้นไม่ว่าคุณหญิงพจมาน หรือพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาต่อสู้คดีอย่างถูกต้องตามหลักของกระบวนการยุติธรรมนั้น ก็เชื่อว่าจะเป็นข้อยุติที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
หากการเดินทางมามอบตัวสู้คดีของคุณหญิงพจมาน ไม่มีปัญหาอะไร จะส่งผลถึงการเดินทางกลับมาต่อสู้คดีของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ความจริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับมาเมื่อไรก็ได้ เพราะท่านเป็นคนไทย และมาแก้ไขคดีความต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก
"ไม่ใช่เข้ามาแล้ว มาใช้อะไรที่มันนอกเหนือจากหลักกฎหมาย คือต้องตรงไปตรงมาจริงๆ ผมคิดว่าตรงนี้ทุกฝ่ายก็จะยอมรับได้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องอื่นๆ ด้วย ผมคิดว่าบ้านเมืองของเราถ้ายึดหลักกฎหมายกฎหมายได้ ก็จะนำไปสู่ความสงบเรียบร้อย ความยุติธรรม ไม่ใช่พอตัวเองได้เปรียบก็บอกให้คนอื่นเขายึดหลักกฎหมาย พอเสียเปรียบก็บอกว่าอย่าไปยึดเลยหลักกฎหมายนี้ ซึ่งผมเห็นมาบ่อย เวลาที่ตนเองซึ่งมีส่วนได้ ส่วนเสีย ก็มักจะมองอะไรที่ไม่อิงหลักของความถูกต้อง ตรงไปตรงมา ดูจากการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เห็นอยู่แล้ว เวลาที่ได้ประโยชน์ก็พูดอย่างหนึ่ง เวลาที่เสียประโยชน์ก็พูดอีกอย่างหนึ่ง"นายธีรภัทร์ กล่าว
"ชวน"ดักคอรัฐบาลใหม่อย่าแทรกแซง
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ที่ต้องมาต่อสู้ทางคดีความตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนมองว่า ปัจจุบันกระบวนการยุติธรรมนของไทย มีความเป็นธรรม แทรกแซงยาก และเชื่อว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน จะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม หรือศาล
"ศาลไทยโดยทั่วไปเป็นที่ยอมรับ ความน่าเชื่อถือมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นยุคประชาธิปไตย หรือถูกยึดอำนาจก็ตาม การเมืองไม่สามารถเข้าไปแทรกแซง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ กระบวนการยุติธรรมขั้นต้น เพราะศาลจะพิจารณาคดีได้ เรื่องจะต้องผ่านไปจากตำรวจ และอัยการก่อน เพราะฉะนั้น การที่ไม่มีการแทรกแซงทางศาล ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่จะดียิ่งขึ้น หากไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น คือ ตำรวจ และอัยการ"
นายชวน ยังได้กล่าวถึงช่วงเปลี่ยนผ่านการเมืองในขณะนี้ว่า จะมีผลต่อการต่อสู้คดีของ คุณหญิงพจมานหรือไม่ ว่า เรื่องเหล่านี้ต้องติดตามให้ใกล้ชิด ทั้งสื่อมวลชน และประชาชน โดยรัฐบาลชุดใหม่จะต้องวางบทบาท ไม่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกฝ่ายได้บทเรียนมามากพอแล้ว จากวิกฤตของประเทศที่เกิดขึ้น จึงคิดว่าน่าจะมีความระมัดระวังมากขึ้น
ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคพลังประชาชน ออกมายืนยันตลอดว่า จะช่วยฟอกความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิง พจมาน นายชวน กล่าวว่า ต้องรอดูเจ้าหน้าที่ว่าดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคงไม่สามารถประเมินได้ว่าผลเป็นอย่างไร แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่ต้องพยายามทำให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย บ้านเมืองของเรามีวิกฤตและมีปัญหามีบทเรียนมามากพอแล้ว เรารู้ว่าสิ่งที่ก่อให้เกิดวิกฤตคือ การทำอะไรโดยไม่ยึดหลักเกณฑ์ และไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง เมื่อไรก็ตามที่มีการออกนอกกติกา กฎหมายบ้านเมือง ก็จะมีผลสะท้อนกลับมาเสมอ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ตาม
"แม้ว"ใช้"อ้อ"หยั่งกระแสสังคม
แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า การที่คุณหญิงพจมาน เดินทางกลับประเทศไทยอย่างกระทันหัน เพื่อต่อสู้คดีความต่างๆ นั้น เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประเมินแล้วเห็นว่า ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเดินทางกลับมา เนื่องจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังอยู่ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคพลังประชาชน จะจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน เพราะล่าสุดในการเจรจาตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองอื่นๆ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จึงเชื่อว่าการกลับมาในช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย และการต่อสู้คดีต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณให้ทุกฝ่าย ทั้งผู้ที่สนับสนุน และผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมจะกลับมาสู้คดีอย่างแน่นอน อีกทั้งยังเป็นการแก้เกม คมช. ที่พยายามจะสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ในเรื่องการให้ใบเหลือง ใบแดง เพราะเมื่อคุณหญิงพจมานกลับมา ก็เป็นสัญญาณว่า จะกลับมาสู้ในเรื่องนี้ด้วย ขณะเดียวกันคุณหญิงพจมาน จะมีการหารือในเรื่องของการวางตัวรัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่ด้วย นอกจากนี้ การกลับมาของคุณหญิงพจมาน ยังเป็นการหยั่งกระแสสังคมต่อการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงเดือน เม.ย. นี้ด้วย