“พจมาน ชินวัตร” จำเลยคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ ได้รับการประกันตัวชั่วคราว วงเงิน 5 ล้านบาท ศาลฎีกาฯ กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ พร้อมทำสัญญาประกันยึดสมุดเงินฝากแจ้งอายัด ย้ำหากกระทำการใดอันเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่การดำเนินคดีจะถอนประกันทันที
วันนี้ ( 8 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 2 ในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกมูลค่า 700 ล้านบาทเศษ ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ร่วมกันเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐฯ ปฎิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดีและเป็นเจ้าพนักงาน และผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 ม.4, 100 และ 102 ประมวลกฎหมายอาญา ม.33, 83, 86, 91, 152 และ 157 ได้เดินทางเข้ารายงานตัวต่อศาลฎีกาฯ ตามหมายจับคดีดำเลขที่ อม.1/2550 จากนั้นเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาฯ ได้เชิญคุณหญิงพจมาน และคณะผู้ติดตาม ไปที่ห้องพิจารณาคดี ชั้น 4 ทันที โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคดีแต่อย่างใด
ในการส่งตัวตามหมายจับครั้งนี้ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์มูลค่า 5 ล้านบาทขอประกันตัวมารดาต่อศาลฎีกา โดยศาลฎีกาฯพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 5 ล้านบาท และให้เพิกถอนหมายจับ ทั้งกำหนดเงื่อนไขห้ามคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 เดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามกระทำการใดอันเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดี มิฉะนั้นจะถอนประกัน และมีคำสั่งให้ยกคดีในส่วนของคุณหญิงพจมาน จำเลยที่ 2 ขึ้นมาพิจารณา โดยนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 23 ม.ค. นี้ เวลา 10.00 น.
ภายหลังนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายครอบครัวชินวัตร กล่าวว่า จากนี้ไปคุณหญิงพจมาน จะอยู่ในประเทศไทยและพร้อมต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม มี นายพิชิฎ ชื่นบาน เป็นหัวหน้าทีมรับผิดชอบว่าความ ซึ่งขอย้ำว่าการเดินทางมาศาลครั้งนี้เป็นการเข้ามอบตัวของคุณหญิงพจมานเอง ไม่ได้ถูกจับกุมตามหมายจับ อย่างไรก็ตามวันนี้ศาลได้ให้ความกรุณาให้ประกันตัวคุณหญิงพจมาน ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศาลได้สอบถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ด้วยหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ศาลได้ไม่ถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคดียังคงถูกจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ส่วนการเดินทางกลับของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เท่าที่คุยกันไว้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดิมที่จะเดินทางกลับประมาณกลางเดือนเมษายน แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ก็ต้องดูอีกครั้งว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการนำ พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ม.100 มายื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณว่า ตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 และ ตัวกฎหมาย ป.ป.ช. ต้องการให้นำกฎหมายไปใช้กับข้าราชการทั่วไปด้วย แต่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดที่ผ่านมากลับกำหนดตำแหน่งที่จะให้มีการบังคับใช้กฎหมายเพียงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่จะต้องระมัดระวังในการตีความและบังคับใช้กฎหมายจะต้องทำให้ดีที่สุด โดยประเด็นนี้เป็นเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งตนเชื่อว่าทีมทนายความจะนำไปใช้ต่อสู้ในชั้นการพิจารณาของศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงพจมาน เดินทางมาถึงศาลฎีกา ฯ เมื่อเวลา 11.00 น. โดยสวมชุดกระโปรงสีดำ ใส่แว่นตาดำ ซึ่งมาพร้อมกับนายพานทองแท้ น.ส.แพทองธาร บุตรชายและบุตรสาว ด้วยรถยนต์ไคร์สเลอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ธค 1991 กรุงเทพ ขณะที่ น.ส.พิณทองทา บุตรสาวอีกคนเดินทางมารอรับมารดาอยู่ก่อนแล้ว เมื่อคุณหญิงพจมานก้าวลงมาจากรถยนต์ที่มาจอดเทียบยังบันไดศาลฎีกา บรรดาผู้สนับสนุนซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับม็อบเชียร์อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่มี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ประมาณ 20 คน รวมทั้ง นางดารุณี กฤตบุญญาลัย และนายไอยคุปต์ หรือน้ำนิ่ง บุตรชาย น.ส.ทัศนวลัย หรือฮาน่า องอาจสิทธิชัย นักแสดง และบรรดาไฮโซ มาส่งเสียงเชียร์ตะโกนเรียกชื่อ “คุณหญิงพจมานๆ” พร้อมมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ ซึ่งคุณหญิงพจมาน ก็ส่งยิ้มพร้อมรับไหว้ตอบกลับเหล่าบรรดากองเชียร์ โดยปฎิเสธไม่ตอบคำถามของกองทัพผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศที่มาดักรอ แล้วรีบขึ้นลิฟท์ไปยังห้องพิจารณาชั้น 4 โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที ศาลจึงมีสั่งอนุญาตให้ประกันตัว จากนั้น คุณหญิงพจมาน เดินลงมาจากศาลฎีกาฯพร้อมบุตรชายบุตรสาวและผู้ติดตาม ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ขณะที่กลุ่มกองเชียร์ต่างก็ร้องตะโกน “คุณหญิงพจมาน สู้ๆ” ก่อนที่คุณหญิงพจมานจะเดินทางขึ้นรถคันเดิมเพื่อไปมอบตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บ.เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
นอกจากบรรดาไฮโซแล้ว วันนี้ยังมีนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ร่วมทั้งผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่สอบได้ อาทิ ร.ต.ท.เชาวรินทร์ ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.ราชบุรี นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หรือเสี่ยติ่ง ส.ส.เชียงราย และผู้สมัคร ส.ส.ที่สอบตก อาทิ น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล
สำหรับการดูแลความปลอดภัยบริเวณศาล มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น. 1 สน.ชนะสงคราม สน.ดุสิต สน.บางซื่อ และ สน.นางเลิ้ง ทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวน 50 นาย ซึ่งนำโดยพล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. มาเฝ้ารักษาการณ์ ขณะเดียวกันมีการนำแผงเหล็กมากั้นเป็นแนวยาวตั้งแต่บริเวณทางเข้าประตูศาลฎีกา จนถึงหน้าอาคารศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้ขบวนรถคุณหญิงพจมานผ่านมาโดยสะดวก
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.10 น. คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยาอดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอแล้ว โดยมีรถตำรวจนำขบวนมา และเมื่อถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขบวนรถของคุณหญิงพจมานได้ขับขึ้นไปยังลานจอดรถทันที โดยมีคำสั่งห้ามกลุ่มผู้สื่อข่าวขึ้นไปบนตึกดีเอสไอเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลล ร่วมกับตำรวจจากกองปราบปราม ได้ส่งกำลังมาดูแลความสงบเรียบร้อยรอบบริเวณกรมสอบสวนคดีพิเศษจำนวนหนึ่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา ได้เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมกล่าวว่า ตนเองมาให้กำลังใจคุณหญิงอ้อ หลังจากที่ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์เมื่อเช้านี้ โดยก่อนหน้านี้ ได้เดินทางไปที่ศาลฏีกา แต่ได้ทักทายเพียงสั้นๆเท่านั้น เพราะคนเยอะและคุณหญิงติดธุระเรื่องเซ็นเอกสาร ถึงแม้ตนเองจะเป็นทีมกฏหมายของพรรคพลังประชาชนแต่เชื่อวว่าไม่จำเป็นต้องแนะนำเรื่องคดีแก่คุณหญิงอ้อ เพราะคุณหญิงอ้อก็มีทีมกฏหมายส่วนตัวอยู่แล้ว และการเดินทางกลับมาเมืองไทยก็เพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการกฏหมาย
นายพงษ์เทพกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ตนเองจะเคยเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ไม่กลัวว่าจะถูกมองเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี ขอยืนยันไม่มีการเข้าไปแทรกแซงการดำเนินคดีอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหน้าดีเอสไอก็ทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนตัวอธิบดีดีเอสไอ ตอนที่ตนเองเป็น รัฐมนตรีอยู่ นายสุนัยก็ไม่ได้ดำรงตำแหน่ง ส่วนกรณีที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัวไปแล้ว และพนักงานสอบสวนดีเอสไอจะให้ประกันตัวหรือไม่ ก็เป็นขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญซึ่งคดีที่ไม่มีโทษร้ายแรงการขอปล่อยตัวชั่วคราวถือเป็นเรื่องปกติ และ การที่พรรคพลังประชาชนจะจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้คดีของคุณหญิงพจมาน
นายพิชิฎ ชื่นบาน ทนายความ เปิดเผยว่า คุณหญิงพจมาน มีเจตนามามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีและเข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยคุณหญิงพจมาน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวนดีเอสไอได้อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้หลักประกันเป็นเงินสด 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ว่าหากจะเดินทางไปต่างประเทศจะต้องแจ้งต่อพนักงานสอบสวน ส่วนขั้นตอนต่อไปของดีเอสไอ ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนที่จะต้องรวบรวบข้อเท็จจริงซึ่งคุณหญิงพจมาน ก็จะรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อต่อสู้คดี การที่คุณหญิงพจมาน เดินทางกลับประเทศเพราะเต็มใจปฏิบัติตามขั้นตอนของกฏหมาย ซึ่งอธิบดีสุนัยได้มารับคุณหญิงด้วยตัวเอง และล่าสุด คุณหญิงพจมาน พร้อมคณะติดตามได้เดินทางออกจาก ดีเอสไอ แล้ว
นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยหลังจากที่ดีเอสไอ อนุญาตให้คุณหญิงพจมานประกันตัวออกไปด้วยหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศที่จะต้องขออนุญาตต่อพนักงานสอบสวนก่อน โดยจะต้องแจ้งรายละเอียดว่าจะเดินทางไปที่ใด และใช้เวลานานเท่าใด ซึ่งการรับทราบข้อกล่าวหาของคุณหญิงพจมาน ก็ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมให้รายละเอียดเป็นหนังสือบางส่วน และจะขอให้การเพิ่มเติ่มเป็นหนังสืออีก 30 วัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อรองเวลา เพราะเห็นว่า 30 วันนานเกินไป ซึ่งทางดีเอสไอได้ให้เวลาชี้แจงข้อเท็จจริงมานานแล้ว การสรุปสำนวนจะเสร็จสิ้นเร็วๆนี้ เพราะขนาดนี้พยานหลักฐานมีความชัดเจนและพร้อมทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างรอเพียงสรุปสำนวนเท่านั้นและไม่จำเป็นต้องรอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาก็สามารถสรุปสำนวนได้พร้อมกัน โดยระบุในสำนวนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา
นายสุนัย กล่าวอีกว่า การพูดคุยกับคุณหญิงพจมานในวันนี้ก็ได้ทักทายพูดคุยเรื่องส่วนตัว ไม่ได้พูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าจะเดินทางกลับมาเมื่อใด หรือ จะเดินทางเข้ามอบตัวหรือไม่ ส่วนในกรณีที่นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา และ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ซึ่งเป็นอดีต รมว.ยุติธรรม เดินทางมา นายสุนัย กล่าวยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบทางด้านจิตวิทยาหรือการดำเนินคดีแต่อย่างใดและไม่จำเป็นต้องเร่งสรุปสำนวนให้ทันก่อนจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะพนักงานสอบสวนทำไปตามขั้นตอนและเชื่อว่าจะเสร็จสิ้นก่อนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ส่วนการสอบสวนกองทุนต่างประเทศก็มีหลักฐานและข้อมูลพอสมควรแล้ว
นายสุนัย กล่าวต่อว่า ไม่หนักใจว่าจะมีการเมืองเข้าแทรกแซงส่วนพนักงานสอบสวนก็ไม่จำเป็นต้องหนักใจขอให้ทำไปตามหน้าที่ ทั้งนี้ตนเองพยายามสร้างดีเอสไอ ให้เป็นองค์กรอิสระไม่ให้นักการเมืองเข้ามามีอิทธิพลได้ และเชื่อว่าผู้ที่จะเข้ามามีอำนาจในองค์กรนี้ก็จะคำนึงถึงเรื่องนี้เช่นกันทุกคนคงมีความเห็นว่าต้องเป็นองค์กรที่มีความเป็นอิสระและรักษาความเป็นธรรมกับประชาชนและประเทศชาติ
นายสุนัย กล่าวว่า เมื่อพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งฟ้องไปยังอัยการก็มั่นใจว่าอัยการจะสั่งฟ้อง แม้ที่ผ่านมาคดีใหญ่บางคดีที่ส่งสำนวนสั่งฟ้องไปยังอัยการและอัยการไม่สั่งฟ้องหรือศาลยกฟ้องในที่สุด ถือว่ามีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับดุลพินิจของอัยการ แต่ในส่วนตัวก็เชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มีอยู่ สำหรับโทษในคดีนี้มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท แต่กรณีนี้มีความผิด 4 กรรม จึงมีโทษจำคุกเป็นเวลา 8 ปี
ด้านนายพรชัย อัศววัฒนาพร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปตามหลักฐานทั้งสิ้น ไม่ได้มองเรื่องของการเมือง ซึ่งเรื่องของการสืบสวนสอบสวนก็เป็นไปตามจังหวะเวลาและยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานตามหน้าที่
