“ส.ต.อ.มนตรี” จำนนด้วยหลักฐาน ยอมรับกุเรื่องนายสมชายขับรถเช่าเข้าจอด สตช.ระบุรับรถมาจาก “ร.ต.อ.” เพื่อเช่าขับวันละ 1 พัน ปัดไม่ทราบว่าเป็นรถที่มีปัญหา ขณะที่ผู้บังคับบัญชามาแปลก ลูกน้องอาจผิดแค่ขัง 30 วัน ก่อนส่งตัว 3 สันติบาล ให้ สน.มีนบุรี สอบสวน
วันนี้ (14 ก.พ.) เวลา 11.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ตรีทศ รนฤทธิวิชัย รอง ผบช.ส. และพล.ต.ต.อุดมชัย อมาตกุล ผบก.ส.3 ได้นำตัว ส.ต.อ.มนตรี เทวรัตน์ และนายเกษม สาสะกุล ผู้เสียหาย แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีพบรถตู้เหยื่อแชร์รถเช่าจอดในสำนักงนตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ตรวจดูระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อหานายสมชาย ตามที่กล่าวอ้างว่าเป็นผู้นำรถตู้คันดังกล่าวเข้ามาจอดตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ก็พบว่าที่แท้เป็น ส.ต.อ.มนตรี ซึ่งพอดีกับ บก.ส.3 รายงานเข้ามาว่า ส.ต.อ.มนตรี ได้รับสารภาพแล้วว่าเป็นคนกุเรื่องขึ้นมาเพื่อให้พ้นผิด ซึ่ง ส.ต.อ.มนตรี ก็สำนึกผิดและอยากขอโทษที่ทำให้เกิดความสับสน ดีที่รับสารภาพก่อนที่จะได้ภาพจากกล้องวงจรปิดยืนยัน
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า สำหรับ ส.ต.อ.มนตรี ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ และร.ต.อ.กรินทร์ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็จะส่งให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ทำการสอบสวนขยายผลว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการแชร์รถเช่าหรือไม่ และมีตำรวจคนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง
ส่วนการสอบสวนวินัยทั้ง 3 คน ซึ่งร่วมกันโกหกผู้บังคับบัญชา ทาง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ ผบช.ส.ตั้งคณะกรรมการในการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อเอาผิดทางวินัย ทั้งเรื่องการทำบันทึกประจำวันเท็จ การเข้าไปยุ่งกับระบบข้อมูล กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ เพื่อให้การโกหกสมจริงสมจัง เบื้องต้นพบว่ามีการพยายามเบี่ยงเบนหลักฐานเกี่ยวกับภาพในกล้องวงจรปิด ซึ่งไม่รู้ว่าไม่สามารถที่จะลบไฟล์เพราะมีระบบป้องกัน และให้ช่างเทคนิคกู้ภาพออกมาได้ ซึ่งการโกหกผู้บังคับบัญชา สร้างหลักฐานเท็จ ถือว่ามีความผิดร้ายแรง ก็ต้องสอบสวนดูข้อเท็จจริงต่างๆ ว่าจะลงโทษอย่างไร ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความสับสน หากการขยายผลพบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภาพที่ พล.ต.ท.พงศพัศ นำมายืนยันเป็นภาพที่จับได้โดยกล้องด้านข้างขณะที่ ส.ต.อ.มนตรี ขับรถตู้คันดังกล่าวเข้ามา ลดกระจกด้านคนขับมาครึ่งหนึ่ง เห็นใบหน้าชัดเจน พูดคุยทักทายกับเพื่อนตำรวจที่เห็นเพียงด้านหลัง ซึ่งก็ทราบว่าเพื่อนคนที่คุยเป็นใคร และก็ยืนยันว่า ส.ต.อ.มนตรี เป็นคนขับเข้ามา
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า สำหรับรถโตโยต้า แคมรี่ ของเหยื่อแชร์รถที่พบอยู่ที่บริเวฯแฟลตตำรวจ ซอยวัชรพล ซึ่งมีรายงานข่าวว่า ร.ต.อ.กรินทร์ เป็นคนนำไปใช้ นั้นจากการสอบสวน ร.ต.อ.กรินทร์ ยังไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งได้ให้ทางสน.มีนบุรีสอบขยายผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ซึ่งร.ต.อ.กรินทร์ก็ไปให้ปากคำที่สน.มีนบุรียังไม่กลับเข้ามา ส่วนเรื่องที่มีนยทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยนั้นถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล ต้องให้ทาง บช.น.ทำการสอบสวนแล้วรายงานผลขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลายเป็นว่า ร.ต.อ.กรินทร์ เป็นกุญแจสำคัญในเรื่องแชร์รถใช่หรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เรื่องรถตู้ที่พบในสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็อาจจะมีส่วนเข้าไปเกี่ยว ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน แต่เรื่องอื่นๆ ก็ต้องทำการตรวจสอบก่อนซึ่งถ้าทางสน.มีนบุรีทำการสอบสวนเสร็จก็จะรายงานให้ทราบ ส่วนเรื่องการดำเนินการทางวินัยตนเองไม่ติดใจเอาผิด ส.ท.ท.ชัยวัฒน์ และส.ต.อ.มนตรี เพราะสาวัตรสั่งให้ทำก็ต้องทำ แต่ตัวสารวัตรซึ่งถือว่าเป็นตำรวจผู้ใหญ่แล้วจะต้องดำเนินการวินัยค่อนข้งหนัก ซึ่งจะให้รู้ผลลงโทษทางวินัยภายในวันนี้ เพราะเป็นตำรวจผู้ใหญ่จะอ้างว่าไม่รู้ว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นมาอย่างไรไม่ได้ผิดวิสัยถือว่าเป็นเหตุที่ไม่สมควรทำ
“ประชาชนที่ได้รับความเสียหายเกี่ยวกับแชร์รถ ก็ขอให้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน และถ้าสงสัยหรือทราบว่ารถตัวเองไปจอดทิ้งไว้ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานใดก็ตาม ถ้าไม่กล้าเข้าไปขอคืนหรือไปตรวจสอบ ก็แจ้งให้ทางตำรวจเข้าไปช่วยดูให้ ซึ่งตำรวจยินดีที่จะบริการประชาชน”
ด้าน ส.ต.อ.มนตรี กล่าวว่า ขอโทษสื่อมวลชนและประชาชนที่ให้การไปวันแรกอย่างนั้นตนเองไม่ได้ตั้งใจ และไม่ทันตั้งตัว ตนเองตกใจมากและไม่รู้ว่ารถที่รับมาขับนั้นมีประวัติมาก่อน ตนไม่สบายใจและรู้สึกสำนึกผิด หลังจากเกิดเรื่อง พล.ต.ต.ตรีทศ ก็เรียกไปสอบถามด้วยตนเองจึงสารภาพเรื่องราวทั้งหมด ส่วนเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง ผบก.ส.3 เป็นผู้ดูแลนั้นตนก็ทำงานอยู่ในส่วนนี้มาเป็นเวลานานยืนยันว่ามีมาตรการที่เข้มงวดกล้องทุกตัวก็ใช้ได้ดี
ส.ต.อ.มนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับรถตู้คันดังกล่าวตนได้รับมาจาก ร.ต.อ.กรินทร์ ทองมโนกูล สว.กองรักษาการ บก.ส.3 เพียง 7 วัน โดย ร.ต.อ.กรินทร์ บอกว่าเป็นรถที่รับฝากจำนำไว้พร้อมทั้งเอาเอกสารมาให้ดู ตนจึงไม่ได้ซักไซ้อะไรมากเพราะเห็นเป็นผู้บังคับบัญชา และมีความเอ็นดูตนในฐานะลูกน้อง จึงเช่ารถเพราะปกติก็หารายได้พิเศษจากการขับรถแท็กซี่อยู่แล้ว โดยเช่าราคาวันละ 1 พันบาท เพื่อรับจ้างรับส่งนักท่องเที่ยวตามโรงแรมต่างๆ โดยตนเองเป็นคนแต่งเรื่องขึ้นเอง ร.ต.อ.กรินทร์ไม่ได้บอกให้ทำ ส่วนเรื่องบันทึกประจำวันที่ทำไว้ตนเองไม่ทราบต้องไปถาม ร.ต.อ.กรินทร์เอง
ด้าน พล.ต.ต.อุดมชัย กล่าวว่า สำหรับ ร.ต.อ.กรินทร์ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้นก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและรีบเสนอผลการสอบสวนให้ ผบช.ส.ทราบทันที หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะไม่ช่วย และหากพบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องอีกก็จะดำเนินการทั้งหมด ผลจะเป็นอย่างไรจะชี้แจงให้รับทราบ เบื้องต้นได้ตำหนิ ร.ต.อ.กรินทร์ ไปแล้วว่ารับรถมาโดยไม่มีการตรวจสอบ
พล.ต.ต.ตรีทศ กล่าวว่า เมื่อพิจารณาแล้วคาดว่าโทษคงไม่ถึงขั้นไล่ออก อาจมีการสั่งขังประมาณ 30 วัน ขึ้นอยู่กับกรรมการสอบสวนพิจารณา จากการพูดคุยเบื้องต้นกับ ร.ต.อ.กรินทร์ คาดว่าไม่เกี่ยวกับกลุ่มแชร์รถเช่า มีเพื่อนนำมาฝากจำนำไว้และรถก็ไม่ได้ถูกแจ้งหายคงไม่มีความผิดร้ายแรงขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนมีนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้นำตัวนายเกษม เจ้าของรถ พร้อมด้วย ส.ต.อ.มนตรี ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ และร.ต.อ.กรินทร์ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
“ส.ต.อ.” สันติบาลจนมุม รับขับรถโจร-แฉสารวัตรตัวการ!
สันติบาลเร่งตามหา “สมชาย” คนฝากรถโจรซุก สตช.
ตร.ฉาวอีก! พบ “พ.ต.ท.” พัวพันแก๊งแชร์รถเช่า
“เสรีพิศุทธ์” สั่งสอบสันติบาลแกล้งโง่ปล่อยรถตู้โจรเข้า สตช.หรือไม่!
นครบาลตั้งทีมขยายผลจับบริษัทหลอกเช่ารถ
จุดไต้ตำตอ! เหยื่อแชร์รถยนต์จ๊ะเอ๋ “รถของกลาง” จอดคา สตช.!
หมายจับเพิ่มอีก 5 สมาชิกแก๊งหลอกเช่ารถหรู-ตามรวบแล้ว 2
โคตรไว! บุกรวบสาวแสบเปิดบริษัทหลอกเช่ารถหรู-เชิดขายต่อนับร้อยคัน
หลอกเช่ารถหรู "วิช-ฟอร์จูนเนอร์-คัมรี่"สูญกว่า 200 คัน!
วันนี้ (14 ก.พ.) เวลา 11.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ตรีทศ รนฤทธิวิชัย รอง ผบช.ส. และพล.ต.ต.อุดมชัย อมาตกุล ผบก.ส.3 ได้นำตัว ส.ต.อ.มนตรี เทวรัตน์ และนายเกษม สาสะกุล ผู้เสียหาย แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีพบรถตู้เหยื่อแชร์รถเช่าจอดในสำนักงนตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ตรวจดูระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อหานายสมชาย ตามที่กล่าวอ้างว่าเป็นผู้นำรถตู้คันดังกล่าวเข้ามาจอดตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ก็พบว่าที่แท้เป็น ส.ต.อ.มนตรี ซึ่งพอดีกับ บก.ส.3 รายงานเข้ามาว่า ส.ต.อ.มนตรี ได้รับสารภาพแล้วว่าเป็นคนกุเรื่องขึ้นมาเพื่อให้พ้นผิด ซึ่ง ส.ต.อ.มนตรี ก็สำนึกผิดและอยากขอโทษที่ทำให้เกิดความสับสน ดีที่รับสารภาพก่อนที่จะได้ภาพจากกล้องวงจรปิดยืนยัน
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า สำหรับ ส.ต.อ.มนตรี ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ และร.ต.อ.กรินทร์ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็จะส่งให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ทำการสอบสวนขยายผลว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการแชร์รถเช่าหรือไม่ และมีตำรวจคนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง
ส่วนการสอบสวนวินัยทั้ง 3 คน ซึ่งร่วมกันโกหกผู้บังคับบัญชา ทาง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ ผบช.ส.ตั้งคณะกรรมการในการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อเอาผิดทางวินัย ทั้งเรื่องการทำบันทึกประจำวันเท็จ การเข้าไปยุ่งกับระบบข้อมูล กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ เพื่อให้การโกหกสมจริงสมจัง เบื้องต้นพบว่ามีการพยายามเบี่ยงเบนหลักฐานเกี่ยวกับภาพในกล้องวงจรปิด ซึ่งไม่รู้ว่าไม่สามารถที่จะลบไฟล์เพราะมีระบบป้องกัน และให้ช่างเทคนิคกู้ภาพออกมาได้ ซึ่งการโกหกผู้บังคับบัญชา สร้างหลักฐานเท็จ ถือว่ามีความผิดร้ายแรง ก็ต้องสอบสวนดูข้อเท็จจริงต่างๆ ว่าจะลงโทษอย่างไร ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความสับสน หากการขยายผลพบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภาพที่ พล.ต.ท.พงศพัศ นำมายืนยันเป็นภาพที่จับได้โดยกล้องด้านข้างขณะที่ ส.ต.อ.มนตรี ขับรถตู้คันดังกล่าวเข้ามา ลดกระจกด้านคนขับมาครึ่งหนึ่ง เห็นใบหน้าชัดเจน พูดคุยทักทายกับเพื่อนตำรวจที่เห็นเพียงด้านหลัง ซึ่งก็ทราบว่าเพื่อนคนที่คุยเป็นใคร และก็ยืนยันว่า ส.ต.อ.มนตรี เป็นคนขับเข้ามา
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า สำหรับรถโตโยต้า แคมรี่ ของเหยื่อแชร์รถที่พบอยู่ที่บริเวฯแฟลตตำรวจ ซอยวัชรพล ซึ่งมีรายงานข่าวว่า ร.ต.อ.กรินทร์ เป็นคนนำไปใช้ นั้นจากการสอบสวน ร.ต.อ.กรินทร์ ยังไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งได้ให้ทางสน.มีนบุรีสอบขยายผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ซึ่งร.ต.อ.กรินทร์ก็ไปให้ปากคำที่สน.มีนบุรียังไม่กลับเข้ามา ส่วนเรื่องที่มีนยทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยนั้นถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล ต้องให้ทาง บช.น.ทำการสอบสวนแล้วรายงานผลขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลายเป็นว่า ร.ต.อ.กรินทร์ เป็นกุญแจสำคัญในเรื่องแชร์รถใช่หรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เรื่องรถตู้ที่พบในสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็อาจจะมีส่วนเข้าไปเกี่ยว ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน แต่เรื่องอื่นๆ ก็ต้องทำการตรวจสอบก่อนซึ่งถ้าทางสน.มีนบุรีทำการสอบสวนเสร็จก็จะรายงานให้ทราบ ส่วนเรื่องการดำเนินการทางวินัยตนเองไม่ติดใจเอาผิด ส.ท.ท.ชัยวัฒน์ และส.ต.อ.มนตรี เพราะสาวัตรสั่งให้ทำก็ต้องทำ แต่ตัวสารวัตรซึ่งถือว่าเป็นตำรวจผู้ใหญ่แล้วจะต้องดำเนินการวินัยค่อนข้งหนัก ซึ่งจะให้รู้ผลลงโทษทางวินัยภายในวันนี้ เพราะเป็นตำรวจผู้ใหญ่จะอ้างว่าไม่รู้ว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นมาอย่างไรไม่ได้ผิดวิสัยถือว่าเป็นเหตุที่ไม่สมควรทำ
“ประชาชนที่ได้รับความเสียหายเกี่ยวกับแชร์รถ ก็ขอให้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน และถ้าสงสัยหรือทราบว่ารถตัวเองไปจอดทิ้งไว้ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานใดก็ตาม ถ้าไม่กล้าเข้าไปขอคืนหรือไปตรวจสอบ ก็แจ้งให้ทางตำรวจเข้าไปช่วยดูให้ ซึ่งตำรวจยินดีที่จะบริการประชาชน”
ด้าน ส.ต.อ.มนตรี กล่าวว่า ขอโทษสื่อมวลชนและประชาชนที่ให้การไปวันแรกอย่างนั้นตนเองไม่ได้ตั้งใจ และไม่ทันตั้งตัว ตนเองตกใจมากและไม่รู้ว่ารถที่รับมาขับนั้นมีประวัติมาก่อน ตนไม่สบายใจและรู้สึกสำนึกผิด หลังจากเกิดเรื่อง พล.ต.ต.ตรีทศ ก็เรียกไปสอบถามด้วยตนเองจึงสารภาพเรื่องราวทั้งหมด ส่วนเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่ง ผบก.ส.3 เป็นผู้ดูแลนั้นตนก็ทำงานอยู่ในส่วนนี้มาเป็นเวลานานยืนยันว่ามีมาตรการที่เข้มงวดกล้องทุกตัวก็ใช้ได้ดี
ส.ต.อ.มนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับรถตู้คันดังกล่าวตนได้รับมาจาก ร.ต.อ.กรินทร์ ทองมโนกูล สว.กองรักษาการ บก.ส.3 เพียง 7 วัน โดย ร.ต.อ.กรินทร์ บอกว่าเป็นรถที่รับฝากจำนำไว้พร้อมทั้งเอาเอกสารมาให้ดู ตนจึงไม่ได้ซักไซ้อะไรมากเพราะเห็นเป็นผู้บังคับบัญชา และมีความเอ็นดูตนในฐานะลูกน้อง จึงเช่ารถเพราะปกติก็หารายได้พิเศษจากการขับรถแท็กซี่อยู่แล้ว โดยเช่าราคาวันละ 1 พันบาท เพื่อรับจ้างรับส่งนักท่องเที่ยวตามโรงแรมต่างๆ โดยตนเองเป็นคนแต่งเรื่องขึ้นเอง ร.ต.อ.กรินทร์ไม่ได้บอกให้ทำ ส่วนเรื่องบันทึกประจำวันที่ทำไว้ตนเองไม่ทราบต้องไปถาม ร.ต.อ.กรินทร์เอง
ด้าน พล.ต.ต.อุดมชัย กล่าวว่า สำหรับ ร.ต.อ.กรินทร์ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้นก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและรีบเสนอผลการสอบสวนให้ ผบช.ส.ทราบทันที หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะไม่ช่วย และหากพบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องอีกก็จะดำเนินการทั้งหมด ผลจะเป็นอย่างไรจะชี้แจงให้รับทราบ เบื้องต้นได้ตำหนิ ร.ต.อ.กรินทร์ ไปแล้วว่ารับรถมาโดยไม่มีการตรวจสอบ
พล.ต.ต.ตรีทศ กล่าวว่า เมื่อพิจารณาแล้วคาดว่าโทษคงไม่ถึงขั้นไล่ออก อาจมีการสั่งขังประมาณ 30 วัน ขึ้นอยู่กับกรรมการสอบสวนพิจารณา จากการพูดคุยเบื้องต้นกับ ร.ต.อ.กรินทร์ คาดว่าไม่เกี่ยวกับกลุ่มแชร์รถเช่า มีเพื่อนนำมาฝากจำนำไว้และรถก็ไม่ได้ถูกแจ้งหายคงไม่มีความผิดร้ายแรงขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนมีนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้นำตัวนายเกษม เจ้าของรถ พร้อมด้วย ส.ต.อ.มนตรี ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ และร.ต.อ.กรินทร์ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
“ส.ต.อ.” สันติบาลจนมุม รับขับรถโจร-แฉสารวัตรตัวการ!
สันติบาลเร่งตามหา “สมชาย” คนฝากรถโจรซุก สตช.
ตร.ฉาวอีก! พบ “พ.ต.ท.” พัวพันแก๊งแชร์รถเช่า
“เสรีพิศุทธ์” สั่งสอบสันติบาลแกล้งโง่ปล่อยรถตู้โจรเข้า สตช.หรือไม่!
นครบาลตั้งทีมขยายผลจับบริษัทหลอกเช่ารถ
จุดไต้ตำตอ! เหยื่อแชร์รถยนต์จ๊ะเอ๋ “รถของกลาง” จอดคา สตช.!
หมายจับเพิ่มอีก 5 สมาชิกแก๊งหลอกเช่ารถหรู-ตามรวบแล้ว 2
โคตรไว! บุกรวบสาวแสบเปิดบริษัทหลอกเช่ารถหรู-เชิดขายต่อนับร้อยคัน
หลอกเช่ารถหรู "วิช-ฟอร์จูนเนอร์-คัมรี่"สูญกว่า 200 คัน!
