“สันติบาล” ก้นร้อน ตรวจถี่ยิบรถเข้าออกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเร่งตามหา “สมชาย” คนนำรถมาฝาก “พงศพัศ” ยันหลังได้ตัวจะแถลงข่าวได้ทราบทันที พร้อมบอก “พ.ต.ท.” ร่วมขบวนการเป็นเพียงแต่ข่าว
วันนี้ (13 ก.พ.) เวลา 12.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเข้าไปเกี่ยวข้องกับรถตู้เหยื่อแชร์รถเช่านั้น พล.ต.ต.ตรีทศ รนฤทธิวิชัย รอง ผบช.ส.ได้ลงมาตรวจเช็กระบบตรวจสอบรถเข้าออกที่กองรักษาการณ์ด้วยตัวเอง พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทตรวจสอบระบบรถเข้าออกมาทำการตรวจเช็กอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่ามาทำการตรวจเช็กระบบและอุปกรณ์ตามปกติเท่านั้น ส่วน พล.ต.ต.ตรีทศ กล่าวเพียงว่ามาตรวจสอบระบบเฉยๆ ไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับในวันนี้ พล.ต.ต.อุดมชัย อมาตกุล ผบก.ส.3 ได้ลงมาตรวจสอบความเรียบร้อยควบคุมการตรวจสอบรถเข้าออกสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยตนเอง และมีการตรวจสอบรถเข้าออกอย่างเข้มงวดตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นบอกเพียงว่าทาง พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นคนแถลงเรื่องนี้เอง
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ตรีทศ รนฤทธิวิชัย รอง ผบช.ส. และพล.ต.ต.อุดมชัย อมาตกุล ผบก.ส.3 ได้ลงมาตรวจสอบระบบรถเข้าออกทางเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริเวณหน้ากองรักษาการณ์
ภายหลังการตรวจ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า วันนี้ทางกองบัญชาการตำรวจสันติบาลได้รายงานผลการดำเนินการตรวจสอบกรณีพบรถตู้ซึ่งเป็นเหยื่อแชร์รถเช่า จอดอยู่ที่ลานจอดรถหน้า สตช. โดยมี ส.ต.อ.มนตรี เทวรัตน์ และ ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ ประชาชัย เกี่ยวข้องและอ้างว่ามีชายชื่อ สมชาย นำมาฝากไว้ ได้ให้ ผบช.ส.รายงานเรื่องนี้ถึง ผบ.ตร.ตามที่สั่งการไว้ โดย ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายว่าผู้ที่จะขับรถเข้ามาใน สตช.ต้องมีใบอนุญาต และให้ติดตามตัวนายสมชายที่อ้างว่านำรถเข้ามาฝากไว้ หากหาไม่ได้ตำรวจสันติบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะหาตัวนายสมชายได้ภายในวันนี้ ซึ่งหากได้ตัวแล้วจะแถลงให้ประชาชนทราบว่าเป็นใคร โดยภาพใบหน้าของคนขับนั้นยืนยันว่าช่างเทคนิคจะสามารถหาภาพมาเปรียบเทียบได้ โดยได้ให้ช่างเทคนิคดึงภาพจากกล้องรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ 3 วันก่อนทุกมุมมาดูภายในคืนนี้ให้เสร็จเพื่อจะดูว่านายสมชายเป็นใครเปรียบเทียบกับคนที่ขับรถเข้ามาฝาก
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวอีกว่า ส่วนการขยายผลทางอาญาได้ให้ บช.น.สอบสวน ส่วนจเรให้สืบสวนในทางลับว่ามีตำรวจคนไหนเข้าไปเกี่ยวข้องร่วมกับแก๊งคนร้ายบ้าง และรายงานความคืบหน้าให้ ผบ.ตร.ทราบภายใน 3 วัน และจะส่งข้อมูลให้ตำรวจนครบาลติดตามขยายผล หากพบว่าเกี่ยวโยงไปถึงต่างจังหวัด ก็จะตั้งพนักงานสออบสวนระดับ ตร.
“ส.ต.อ.มนตรี และ ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ ที่ได้ทำการสอบสวนแล้วถือว่าให้การเป็นประโยชน์ที่จะสามารถสาวไปหาตัวนายสมชายได้เร็วๆ นี้ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีส่วนเกี่ยวกับคดี นครบาลจะเป็นผู้ติดตามขยายผลเรื่องนี้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับนายสมชายจริงหรือไม่และนำรถเข้ามาจอดที่ สตช.ได้อย่างไร แต่ก็ยอมรับว่า 2 คนนี้ให้การมีพิรุธเหมือนปิดบังบางอย่าง ซึ่งตนก็ไม่ได้เชื่อเพราะ ตร.ไม่มีนโยบายรับฝากรถ การรักษาความปลอดภัยที่ผ่านมามีความเข้มงวด หากพบว่ามีการปิดบังข้อเท็จจริงก็จะดำเนินคดีทั้งอาญา และวินัย ส่วนกรณีรับฝากรถที่ผิดกฎก็จะเอาผิดผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดที่ปล่อยปละละเลย ตำรวจทั้งสองอาจเข้าไปเกี่ยวข้องในบางลักษณะแต่ชี้ชัดว่าร่วมทำอาชญากรรมยืนยันว่าหากได้ตัวนายสมชายมาก็จะเป็นตัวจริงแน่นอนเพราะภาพจากกล้องวงจรปิดช่างเทคนิคสามารถดึงมายืนยันได้” พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าว
ส่วนกรณีที่นครบาลออกมาเปิดเผยว่าคดีนี้มีนายตำรวจระดับ พ.ต.ท.สังกัด ปศท.เข้ามาเกี่ยวข้อง พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ก็ทราบเรื่องนี้จากข่าวก็อาจเป็นแค่ข่าว เป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวนนครบาลที่จะติดตามต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อุดมชัย กล่าวว่า ปกติการรักษาความปลอดภัยในการดูแลรถเข้าออก สตช. เข้มงวดอยู่แล้ววันนี้ที่มาตรวจเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น ภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดก็ไม่ใช่ไม่เห็น แต่เราจะปรับปรุงทางเทคนิค ในวันนี้เราจะเอาภาพสมชายมาให้ได้ ขอเวลาในการทำงานเพราะเกี่ยวข้องด้านเทคนิคทั้งสองคนยืนยันปฏิเสธอยู่เราปรักปรำไม่ได้ แต่ยืนยันว่าหากพบว่าลูกน้องเกี่ยวข้องก็จะไม่ปกป้องจะดำเนินการอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน ที่ สน.มีนบุรี ยังคงมีผู้เสียหายจำนวนกว่า 50 รายที่ถูกบริษัท ยูฟูกุ เดคคอเรท หลอกเช่ารถไป ทยอยเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ถูกจัดให้คอยรับแจ้งความและสอบปากคำถึง 7 นาย
นางพยอม แขนสันเทียะ 1 ในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนกับญาติมีรถที่ถูกหลอกไปทั้งหมด 11 คัน โดยวานนี้ น.ส.ณัฐนรินทร์ ได้โทรศัพท์มาหาตนเพื่อขอไม่ให้แจ้งความ พร้อมบอกว่าจะนำรถมาคืนให้ทั้งหมด โดยจะนัดสถานที่คืนรถกันอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย วันนี้ตนจึงมาแจ้งความดักงล่าว และเท่าที่ตรวจสอบเอกสารที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาจากบริษัทก็พบว่ามีการเช่ารถไว้ถึง 700 คัน เชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายทั้งหมดในคดีนี้ไม่ต่ำกว่า 400 คน ซึ่งผู้เสียหายบางรายได้ตรวจสอบจากสัญญาณจีพีเอสก็พบว่ารถบางคันจอดอยู่ภายในกองปราบปรามอีกด้วย
พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวว่า หลังขออนุมัติหมายจับ น.ส.ณัฐนรินทร์ มูฮำหมัด ผู้ต้องหาในข้อหาฉ้อโกงประชาชนไปแล้ว ได้เข้าตรวจค้นที่บริษัทของผู้ต้องหา โดยสามารถยึดเอกสารสัญญาเช่า คอมพิวเตอร์ และตู้เซฟมาตรวจสอบ ทั้งนี้ ได้ทำการอายัดทะเบียนรถที่ทางผู้เสียหายมาแจ้งความเอาไว้แล้วกับทางกรมการขนส่งฯ นอกจากนี้จะประสานไปทางด่านชายแดนต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำรถข้ามไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน
ด้าน พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี กล่าวว่า สำหรับผู้เสียหายที่ถูกยูฟูกุ เดคคอเรท หลอกเช่ารถไปได้เข้าแจ้งความเอาไว้ที่ สน.นบุรี และมีการสอบปากคำเสร็จสิ้นไปแล้วจำนวน 102 คน เป็นรถยนต์จำนวน 125 คัน ค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า100 ล้านบาท และยังคงมีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความตลอดเวลา ส่วนของพนักงานบริษัทได้เรียกตัวมาสอบปากคำไว้หมดแล้ว
“ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลทั้ง 2 นายที่เกี่ยวข้องกับรถที่จอดอยู่ใน สตช.นั้น ยังไม่ได้เรียกตัวมาสอบปากคำ โดยทางพนักงานสอบสวนจะได้สอบพยานแวดล้อมให้เสร็จเสียก่อนจึงจะเรียกตัวมาสอบในภายหลัง” รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี กล่าว
ตร.ฉาวอีก! พบ “พ.ต.ท.” พัวพันแก๊งแชร์รถเช่า
“เสรีพิศุทธ์” สั่งสอบสันติบาลแกล้งโง่ปล่อยรถตู้โจรเข้า สตช.หรือไม่!
นครบาลตั้งทีมขยายผลจับบริษัทหลอกเช่ารถ
จุดไต้ตำตอ! เหยื่อแชร์รถยนต์จ๊ะเอ๋ “รถของกลาง” จอดคา สตช.!
หมายจับเพิ่มอีก 5 สมาชิกแก๊งหลอกเช่ารถหรู-ตามรวบแล้ว 2
โคตรไว! บุกรวบสาวแสบเปิดบริษัทหลอกเช่ารถหรู-เชิดขายต่อนับร้อยคัน
หลอกเช่ารถหรู "วิช-ฟอร์จูนเนอร์-คัมรี่"สูญกว่า 200 คัน!