หน้าแหกกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหยื่อบริษัทรถเช่า จากคดีแชร์รถยนต์โร่ไปร้องทุกข์กับ ผบ.ตร.แต่ดันไปจ๊ะเอ๋รถยนต์หรูของตนเองที่ถูกบริษัทรถเช่าฉ้อโกงไป จอดอยู่กลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำเอาโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกอกตกใจ ต้องเรียกรอง ผบช.น.มาดำเนินการสอบสวน สุดท้ายยังไม่รู้ว่า รถปริศนาคันดังกล่าวใครเป็นผู้ขับเข้ามาจอด!
วันนี้ (12 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กลุ่มผู้เสียหายแชร์รถยนต์ บริษัท ยูฟูกุ เดคคอเรท จำกัด และ บริษัท พาราไดส์คาร์เรนท์ จำกัด ประมาณ 50 คน เดินทางเข้าร้องเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.เพื่อให้เข้าตรวจสอบหลังถูกโกงค่าเช่ารถ
ทั้งนี้ ขณะที่ นายเกษม เสะกุล หนึ่งในผู้เสียหาย ได้ขับรถวนหาที่จอดรถ ปรากฏว่า เห็นรถตู้โตโยต้า คอมมูเตอร์ หมายเลขทะเบียน ฮค 6064 กทม.ซึ่งเป็นรถที่ให้ บริษัท ยูฟูกุ เดคคอเรท จำกัด เช่าไป พบว่า ถูกนำมาจอดที่ลานจอดรถด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี ส.ต.อ.มนตรี เทวารัตน์ ผบ.หมู่กองกำกับการ 3 ผก.ส.3 ซึ่งแต่งกายนอกเครื่องแบบขับเข้ามาจอด ซึ่งภายในรถ พบมีเครื่องแบบตำรวจและเอกสารที่มีรายชื่อและแผนที่ โดยบนแผนที่เขียนชื่อส.ต.อ.มนตรี และเบอร์โทรศัพท์ของคนชื่อแหม่ม เมื่อไปสอบถามที่กองรักษาการด้านหน้า ทราบว่า รถคันดังกล่าว มีผู้ชายชื่อสมชายขับมาจอดไว้ ตั้งแต่วานนี้ (11 ก.พ.) จากนั้นนำกุญแจมาฝากไว้โดยไม่ได้บอกอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มของผู้เสียหายได้นำคลิปภาพถ่าย และวิดีโอ ตลอดจนสำเนาเอกสารที่พบในรถ ที่เชื่อว่า เป็นของ ส.ต.อ.มนตรี มาให้ผู้สื่อข่าว โดยในภาพคลิปเป็นภาพของ ส.ต.อ.มนตรี ในชุดนอกเครื่องแบบกำลังขับรถคันดังกล่าวมาจอดที่ด้านข้างกองรักษาการ และภาพถ่ายส.ต.อ.กำลังคุยโทรศัพท์ภายหลังถูกกลุ่มผู้เสียหายรุมสอบถามเรื่องรถคันนี้
ต่อมา พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มารับเรื่องดังกล่าว พร้อมกับเรียก ส.ต.อ.มนตรี และ ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ ประชาชัย ผบ.หมู่ ผก.ส.3 ซึ่งเป็นคนรับฝากกุญแจรถคันดังกล่าวไว้มาสอบถาม และได้ไปตรวจกล้อมวงจรปิดในช่วงเวลาที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการเอากุญแจมาฝากไว้ พบว่ารถคันดังกล่าวเข้ามาจริงในช่วงเวลา 17.35 น.ของวันที่ 11 ก.พ.แต่กล้องไม่สามารถมองเห็นคนขับรถได้
ด้าน ส.ต.อ.มนตรี ชี้แจงว่า ตนกลับจากขับแท็กซี่ เพื่อรอเข้าเวรในตอนเช้า เข้ามาพบ ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ ขอช่วยให้เลือนรถคันดังกล่าว เนื่องจากจอดในที่ผู้บังคับบัญชา รุ่งเช้าก่อนเข้าเวร ตนก็มาเลื่อนรถมาจอดที่ข้างกองรักษาการก็เท่านั้น
ด้าน ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า มีชายนำรถเข้ามาจอดและได้รับฝากกุญแจรถคันดังกล่าวไว้ หลังจากที่ออกเวรตอนเช้า ได้ส่งกุญแจต่อให้กับ ส.ต.อ.มนตรี ซึ่งที่ผ่านมา เคยมีกรณีที่มีการนำกุญแจมาฝาก หรือนำของมาฝากไว้ให้คนอื่นมาเอา ทั้งนี้ ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้ว่า นายสมชายนำมาฝาก แต่ไม่ได้ระบุนามสกกุล และไม่ได้รับแลกบัตรเอาไว้ สำหรับนายสมชายสูงประมาณ 170 ซม.หน้าตาคล้ายคนเขมร
“ผมเข้าเวรตั้งแต่ 08.00 น.ของเมื่อวานจนถึง 08.00 น.ของวันนี้ ช่วงดึกก็เจอ ส.ต.อ.มนตรี ขับรถแท็กซี่เข้ามา ซึ่งคิดว่าเป็นคนเดียวที่ขับรถได้ ผมขับไม่ได้ จึงฝากกุญแจรถไว้ให้ ช่วยเลื่อนรถ เพราะไปจอดในที่ผู้บังคับบัญชา เกรงว่า จะเป็นการขัดขวางที่จอดรถผู้บังคับบัญชา” ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.กรินทร์ ทองมโนกุล สว.กองรักษาการณ์ กล่าวว่า กรณีนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมผู้ใต้บังคับบัญชา ตนเองทราบจากลูกน้องว่ามีคนนำรถมาฝากและฝากกุญแจไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีกรณีที่ผู้บังบัญชาเช่ารถเอาไว้แล้วให้คนนำรถมาส่ง และฝากกุญแจใว้ ซึ่งลูกน้องก็คงคิดว่า กรณีนี้จะเป็นเหมือนครั้งที่ผ่านมา อยากให้มีการตรวจสอบให้ชัดเจน ก่อนที่จะตัดสินว่าลูกน้องตนเองผิด
หลังจากรับเรื่องราวร้องทุกข์แล้ว พล.ต.ท.พงศพัศ และ พล.ต.ต.จุติ ธรรมโนวาณิชน์ รองผบช.น.รับผิดชอบเกี่ยวกับการจารกรรมรถยนต์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว กล่าวว่า กรณีที่มีการมาเจอรถและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลมาเกี่ยวข้องได้มอบให้ทาง พ.ต.ต.กรินทร์ ไปตรวจสอบ ว่าเรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร รถเข้ามาได้อย่างไร ทำไมถึงมีการย้ายรถถึง 2 ครั้ง ประชาชนสามารถตั้งข้อสงสัยได้เมื่อเกิดเรื่องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และในลักษณะโจ่งแจ้ง ตนเองก็ตกใจที่มีเรื่องนี้ขึ้น แต่ต้องให้ความเป็นธรรมได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกระทำความผิดก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
“ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายร้องเรียนทั้งสองบริษัท ให้นครบาลตรวจสอบเรื่องแชร์รถ โดยตั้งเป็นคณะทำงานในระดับนครบาล ซึ่งหากพบว่ามีการทำผิดกรณีนี้ในพื้นที่อื่น ก็ต้องไปดำเนินการ ถ้ามีผู้เสียหายกรณีเช่ารถเหตุเกิดที่ไหนก็ไปแจ้งพื้นที่นั้น และให้ทางนครบาลเป็นผู้รวบรวม ซึ่งหากมีการขยายผล พบว่ามีการกระทำผิดในหลายที่รวมทั้งต่างจังหวัดก็อาจจะตั้งในระดับตร.ต่อไป” โฆษก ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายเกษม เจ้าของรถตู้ได้นำกุญแจรถของตนมาไขรถและขับรถตู้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ปทุมวัน สำหรับตำรวจสันติบาลทั้งสองนายมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด เพราะที่ผ่านมาการเข้าออกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องมีบัตรเข้าออกจึงจะเข้าออกได้ หรือกรณีไม่มีบัตรผ่าน เจ้าหน้าที่ก็จะให้แลกบัตรโดยใช้บัตรประชาชนหรือใบขับขี่ ซึ่งการนำรถเข้ามาจอดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่มีบัตรผ่านหรือแลกบัตรเป็นไปได้ยาก ยกเว้นแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นคนขับรถเข้ามาจอดเอง และในกรณีนี้ ในรถตู้ยังพบหมวกและเอกสารที่ชี้ว่าจะต้องนำรถไปส่งให้ใครที่ไหน จึงเชื่อว่า ตำรวจทั้งสองนายน่าจะมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย
หมายจับเพิ่มอีก 5 สมาชิกแก๊งหลอกเช่ารถหรู-ตามรวบแล้ว 2
โคตรไว! บุกรวบสาวแสบเปิดบริษัทหลอกเช่ารถหรู-เชิดขายต่อนับร้อยคัน
หลอกเช่ารถหรู "วิช-ฟอร์จูนเนอร์-คัมรี่"สูญกว่า 200 คัน!
วันนี้ (12 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กลุ่มผู้เสียหายแชร์รถยนต์ บริษัท ยูฟูกุ เดคคอเรท จำกัด และ บริษัท พาราไดส์คาร์เรนท์ จำกัด ประมาณ 50 คน เดินทางเข้าร้องเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.เพื่อให้เข้าตรวจสอบหลังถูกโกงค่าเช่ารถ
ทั้งนี้ ขณะที่ นายเกษม เสะกุล หนึ่งในผู้เสียหาย ได้ขับรถวนหาที่จอดรถ ปรากฏว่า เห็นรถตู้โตโยต้า คอมมูเตอร์ หมายเลขทะเบียน ฮค 6064 กทม.ซึ่งเป็นรถที่ให้ บริษัท ยูฟูกุ เดคคอเรท จำกัด เช่าไป พบว่า ถูกนำมาจอดที่ลานจอดรถด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี ส.ต.อ.มนตรี เทวารัตน์ ผบ.หมู่กองกำกับการ 3 ผก.ส.3 ซึ่งแต่งกายนอกเครื่องแบบขับเข้ามาจอด ซึ่งภายในรถ พบมีเครื่องแบบตำรวจและเอกสารที่มีรายชื่อและแผนที่ โดยบนแผนที่เขียนชื่อส.ต.อ.มนตรี และเบอร์โทรศัพท์ของคนชื่อแหม่ม เมื่อไปสอบถามที่กองรักษาการด้านหน้า ทราบว่า รถคันดังกล่าว มีผู้ชายชื่อสมชายขับมาจอดไว้ ตั้งแต่วานนี้ (11 ก.พ.) จากนั้นนำกุญแจมาฝากไว้โดยไม่ได้บอกอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มของผู้เสียหายได้นำคลิปภาพถ่าย และวิดีโอ ตลอดจนสำเนาเอกสารที่พบในรถ ที่เชื่อว่า เป็นของ ส.ต.อ.มนตรี มาให้ผู้สื่อข่าว โดยในภาพคลิปเป็นภาพของ ส.ต.อ.มนตรี ในชุดนอกเครื่องแบบกำลังขับรถคันดังกล่าวมาจอดที่ด้านข้างกองรักษาการ และภาพถ่ายส.ต.อ.กำลังคุยโทรศัพท์ภายหลังถูกกลุ่มผู้เสียหายรุมสอบถามเรื่องรถคันนี้
ต่อมา พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มารับเรื่องดังกล่าว พร้อมกับเรียก ส.ต.อ.มนตรี และ ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ ประชาชัย ผบ.หมู่ ผก.ส.3 ซึ่งเป็นคนรับฝากกุญแจรถคันดังกล่าวไว้มาสอบถาม และได้ไปตรวจกล้อมวงจรปิดในช่วงเวลาที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการเอากุญแจมาฝากไว้ พบว่ารถคันดังกล่าวเข้ามาจริงในช่วงเวลา 17.35 น.ของวันที่ 11 ก.พ.แต่กล้องไม่สามารถมองเห็นคนขับรถได้
ด้าน ส.ต.อ.มนตรี ชี้แจงว่า ตนกลับจากขับแท็กซี่ เพื่อรอเข้าเวรในตอนเช้า เข้ามาพบ ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ ขอช่วยให้เลือนรถคันดังกล่าว เนื่องจากจอดในที่ผู้บังคับบัญชา รุ่งเช้าก่อนเข้าเวร ตนก็มาเลื่อนรถมาจอดที่ข้างกองรักษาการก็เท่านั้น
ด้าน ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า มีชายนำรถเข้ามาจอดและได้รับฝากกุญแจรถคันดังกล่าวไว้ หลังจากที่ออกเวรตอนเช้า ได้ส่งกุญแจต่อให้กับ ส.ต.อ.มนตรี ซึ่งที่ผ่านมา เคยมีกรณีที่มีการนำกุญแจมาฝาก หรือนำของมาฝากไว้ให้คนอื่นมาเอา ทั้งนี้ ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้ว่า นายสมชายนำมาฝาก แต่ไม่ได้ระบุนามสกกุล และไม่ได้รับแลกบัตรเอาไว้ สำหรับนายสมชายสูงประมาณ 170 ซม.หน้าตาคล้ายคนเขมร
“ผมเข้าเวรตั้งแต่ 08.00 น.ของเมื่อวานจนถึง 08.00 น.ของวันนี้ ช่วงดึกก็เจอ ส.ต.อ.มนตรี ขับรถแท็กซี่เข้ามา ซึ่งคิดว่าเป็นคนเดียวที่ขับรถได้ ผมขับไม่ได้ จึงฝากกุญแจรถไว้ให้ ช่วยเลื่อนรถ เพราะไปจอดในที่ผู้บังคับบัญชา เกรงว่า จะเป็นการขัดขวางที่จอดรถผู้บังคับบัญชา” ส.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.กรินทร์ ทองมโนกุล สว.กองรักษาการณ์ กล่าวว่า กรณีนี้ ต้องให้ความเป็นธรรมผู้ใต้บังคับบัญชา ตนเองทราบจากลูกน้องว่ามีคนนำรถมาฝากและฝากกุญแจไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีกรณีที่ผู้บังบัญชาเช่ารถเอาไว้แล้วให้คนนำรถมาส่ง และฝากกุญแจใว้ ซึ่งลูกน้องก็คงคิดว่า กรณีนี้จะเป็นเหมือนครั้งที่ผ่านมา อยากให้มีการตรวจสอบให้ชัดเจน ก่อนที่จะตัดสินว่าลูกน้องตนเองผิด
หลังจากรับเรื่องราวร้องทุกข์แล้ว พล.ต.ท.พงศพัศ และ พล.ต.ต.จุติ ธรรมโนวาณิชน์ รองผบช.น.รับผิดชอบเกี่ยวกับการจารกรรมรถยนต์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว กล่าวว่า กรณีที่มีการมาเจอรถและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลมาเกี่ยวข้องได้มอบให้ทาง พ.ต.ต.กรินทร์ ไปตรวจสอบ ว่าเรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร รถเข้ามาได้อย่างไร ทำไมถึงมีการย้ายรถถึง 2 ครั้ง ประชาชนสามารถตั้งข้อสงสัยได้เมื่อเกิดเรื่องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และในลักษณะโจ่งแจ้ง ตนเองก็ตกใจที่มีเรื่องนี้ขึ้น แต่ต้องให้ความเป็นธรรมได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกระทำความผิดก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
“ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายร้องเรียนทั้งสองบริษัท ให้นครบาลตรวจสอบเรื่องแชร์รถ โดยตั้งเป็นคณะทำงานในระดับนครบาล ซึ่งหากพบว่ามีการทำผิดกรณีนี้ในพื้นที่อื่น ก็ต้องไปดำเนินการ ถ้ามีผู้เสียหายกรณีเช่ารถเหตุเกิดที่ไหนก็ไปแจ้งพื้นที่นั้น และให้ทางนครบาลเป็นผู้รวบรวม ซึ่งหากมีการขยายผล พบว่ามีการกระทำผิดในหลายที่รวมทั้งต่างจังหวัดก็อาจจะตั้งในระดับตร.ต่อไป” โฆษก ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายเกษม เจ้าของรถตู้ได้นำกุญแจรถของตนมาไขรถและขับรถตู้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ปทุมวัน สำหรับตำรวจสันติบาลทั้งสองนายมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด เพราะที่ผ่านมาการเข้าออกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องมีบัตรเข้าออกจึงจะเข้าออกได้ หรือกรณีไม่มีบัตรผ่าน เจ้าหน้าที่ก็จะให้แลกบัตรโดยใช้บัตรประชาชนหรือใบขับขี่ ซึ่งการนำรถเข้ามาจอดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่มีบัตรผ่านหรือแลกบัตรเป็นไปได้ยาก ยกเว้นแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นคนขับรถเข้ามาจอดเอง และในกรณีนี้ ในรถตู้ยังพบหมวกและเอกสารที่ชี้ว่าจะต้องนำรถไปส่งให้ใครที่ไหน จึงเชื่อว่า ตำรวจทั้งสองนายน่าจะมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย
หมายจับเพิ่มอีก 5 สมาชิกแก๊งหลอกเช่ารถหรู-ตามรวบแล้ว 2
โคตรไว! บุกรวบสาวแสบเปิดบริษัทหลอกเช่ารถหรู-เชิดขายต่อนับร้อยคัน
หลอกเช่ารถหรู "วิช-ฟอร์จูนเนอร์-คัมรี่"สูญกว่า 200 คัน!