นครบาลตั้งทีมขยายผลจับบริษัทหลอกเช่ารถ

นครบาลตั้งคณะทำงานขยายผลแก๊งตุ๋นแชร์รถยนต์ หาจุดเชื่อมโยง เชื่อน่าจะมีบริษัทลักษณะเดียวกันอีก พร้อมส่งหนังสือเวียนทุกพื้นที่ตรวจสอบ เหตุผู้ต้องหาอ้างใช้สถานที่ราชการเป็นที่จอดเพราะปลอดภัย ขณะที่เจ้าของรถตู้ซุกใน สตช.เข้าให้ปากคำเพิ่ม หลังแจ้งจับตำรวจสันติบาล

วันนี้ (13 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จุตติ ธรรมมโนวานิช รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้เสียหายถูกบริษัท ยูฟูกุ เดคคอเรท และบริษัท พาราไดซ์ จำกัด ฉ้อโกงรถยนต์จนมีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมากว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการมายัง พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ให้สืบสวนเร่งรัดจับกุมขบวนการฉ้อโกงต้มตุ๋นรถยนต์ตามที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความไว้อย่างเร่งด่วน ซึ่ง พล.ต.ท.อัศวินได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการในส่วนนี้มี พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี หัวหน้าศูนย์สืบสวนนครบาล เป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมกับฝ่ายสืบสวนที่เกี่ยวข้อง 3 ฝ่ายประกอบด้วยฝ่ายสืบสวนท้องที่มีผู้เสียหายมาร้องเรียน คือ สน.บางพลัด และ สน.มีนบุรี ชุดสืบสวนศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ บช.น. และฝ่ายสืบสวนศูนย์สืบสวนนครบาลลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกรวบรวมพยานหลักฐานให้สามารถสาวไปถึงต้นตอของขบวนการดังกล่าว โดยตนจะเข้าไปกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิด

รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (13 ก.พ.) จะเรียกประชุมผู้กี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางการสืบสวนอีกครั้งให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของชาติอย่างกว้างขวาง ส่วนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อนั้นขอให้นำเอกสารหลักฐานตำหนิรูปพรรณของท่านมามอบให้พนักงานสอบสวนพร้อมให้ข้อมูลในการตรวจสอบติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป และขณะนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ออกหนังสือเวียนไปยังทุกหน่วยงานในสังกัดพร้อมประสานความร่วมมือไปยังตำรวจภูธรภาคต่างๆ ช่วยตรวจสอบรถของผู้เสียหายซึ่งมีจำนวนมากกว่า 500-1,000 คัน ตามที่มีการร้องเรียนไว้เนื่องจากผู้เสียหายเชื่อว่ารถของกลางที่หายไปนั้นจะถูกส่งไปใช้งาน หรือนำไปจอดไว้ตามสถานที่ราชการต่างๆ ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เพราะถือว่ามีความปลอดภัยมากที่สุด

รอง ผบช.น.ยังกล่าวต่ออีกว่า กล่าวถึงกรณีคนร้ายนำรถตู้ของรถตู้โตโยต้า ทะเบียน ฮค 6064 กทม.ของนายเกษม สาสะกุล หนึ่งในผู้เสียหายมาจอดไว้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน นำรถของกลางไปตรวจสอบและเก็บไว้ที่ สน.ปทุมวันแล้ว ซึ่งต้องสอบสวนขยายผลที่มาว่านอกจาก บริษัทยูฟูกุ เดคคอเรท และบริษัทพาราไดซ์ จำกัด ซึ่งพฤติการณ์คล้ายคลึงกันแล้วยังโยงใยถึงบริษัทไหนมีใครเกี่ยวข้องบ้างหากพบหลักฐานพัวพันถึงจะดำเนินการออกหมายจับต่อไป

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)นายเกษม สาสะกุล ผู้เสียหายกรณีแชร์รถเช่าเจ้าของรถตู้ที่พบในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.มีนบุรี ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้สอบปากคำและลงบันทึกประจำวันไว้ และนัดให้มาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันนี้เวลา 12.00 น. ตนก็ได้เตรียมเอกสารที่พบในรถซึ่งเป็นของ ส.ต.อ.มนตรี เทวารัตน์ มาด้วย เพื่อที่จะแจ้งความดำเนินคดีส่วนจะเป็นข้อหาอะไรบ้างนั้นคงต้องรอปรึกษาพนักงานสอบสวนก่อน ส่วนรถที่พบหลังจากให้ตำรวจตรวจสอบก็นำกลับมาบ้านแล้ว แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากตำรวจสันติบาล หรือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลยคาดว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

นายเกษม กล่าวอีกว่า สำหรับรถคันนี้ได้ให้ บ.ยูฟูกุ ตั้งอยู่ที่ ซอยรามอินทรา 117 เช่าไปตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 50 โดยทำสัญญาเช่าเดือนละ 51,000 บาท เพื่อใช้สำหรับทำเป็นรถนำเที่ยวรับจ้างนักท่องเที่ยวจากสนามบินสุวรรณภูมิ หลังทำสัญญาก็ได้ค่าเช่ารถเพียงเดือนเดียวเท่านั้น และถูกบริษัทผัดผ่อนมาตลอด จนครั้งสุดท้ายที่ติดต่อได้ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทางบริษัทรับปากว่าจะคืนรถให้ภายใน 45 วัน หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเมื่อไปที่บริษัทก็พบว่าปิดตัวไปแล้ว จึงรวมตัวมาร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและพบรถของตนเข้าดังกล่าว

จุดไต้ตำตอ! เหยื่อแชร์รถยนต์จ๊ะเอ๋ “รถของกลาง” จอดคา สตช.!
หมายจับเพิ่มอีก 5 สมาชิกแก๊งหลอกเช่ารถหรู-ตามรวบแล้ว 2
โคตรไว! บุกรวบสาวแสบเปิดบริษัทหลอกเช่ารถหรู-เชิดขายต่อนับร้อยคัน
หลอกเช่ารถหรู "วิช-ฟอร์จูนเนอร์-คัมรี่"สูญกว่า 200 คัน!