เหยื่อบริษัทเช่ารถ โร่แจ้งความ ถูกหลอกให้นำรถไปให้เช่าในราคาสูง บริษัทอ้าง นำไปให้ส่วนราชการ และส.ส.เช่าต่อได้กำไรงาม สุดท้ายสูญทั้งเงินค่าเช่า และรถ ส่วนใหญ่เน้นรถหรู "วิช-ฟอร์จูนเนอร์-คัมรี่" "ผู้การวิสุทธิ์"เผย มีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก คาดมีประชาชนนำรถไปสังเวยกว่า 200 คัน คล้ายแชร์ลูกโซ่
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (บก.ปศท.) นางกัญญา คล้ายวิเชียร พร้อมผู้เสียหายจากการให้เช่ารถยนต์กว่า 20 ราย เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปศท.เพื่อให้ดำเนินคดีกับ บริษัท พาราไดซ์คาเรนท์ จำกัด และนางธัญชนก ดีสันเที๊ยะ กรรมการผู้จัดการ ฐานฉ้อโกงประชาชน กรณีนำรถไปให้บริษัทดังกล่าวเช่า แต่ปรากฏว่าภายหลังไม่ได้รับค่าเช่า และเกรงว่ารถจะสูญหาย
นางกัญญา กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพขายประกัน ได้รับการแนะนำจากลูกค้าว่า บริษัทดังกล่าวได้ประกาศเช่ารถยนต์โดยอ้างว่า จะนำไปให้ส่วนราชการ อาทิ กระทรวงพลังงาน กระทรวงแรงงาน และบริษัทอื่นๆเช่าต่ออีกทอดหนึ่ง โดยจ่ายค่าเช่าในอัตราที่สูง ตนเห็นว่า ลูกค้ารายดังกล่าวทำมาก่อน และที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไร จึงได้นำรถ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่ตนเองขับอยู่ ซึ่งขาดส่งไฟแนนซ์อยู่ 2 งวด ไปให้บริษัทดังกล่าวเช่า โดยทำสัญญาเช่า เดือนพ.ค. 2550 ระยะเวลาเช่า 2 ปี โดยบริษัทตกลงจ่ายค่าเช่าเดือนละ 38,000 บาท ซึ่งในระยะแรก ทางบริษัทจ่ายค่าเช่าตรงตามกำหนด ตนเห็นว่าได้เงินดี จึงได้ไปเช่าซื้อรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์และโตโยต้า วิช จากไฟแนนซ์ และนำรถกระบะโตโยต้า วีโก้ของสามีไปให้บริษัทดังกล่าวเช่าเพิ่ม นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2550 นางธัญชนก ได้ติดต่อขอเช่ารถเก๋งโตโยต้า รุ่นคัมรี่ ที่ตนใช้อยู่ เป็นเวลา 3 วัน โดยให้ค่าเช่ากับตนวันละ 2,500 บาท
นางกัญญา กล่าวว่า เมื่อถึงเวลานัด ทางบริษัทไม่ได้นำรถมาคืน ตนเองพยายามติดต่อแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงและขอเลื่อนนัดไปเป็นวันที่ 23 ธ.ค. โดยอ้างว่าได้ให้ส.ส.พรรคการเมืองหนึ่งเช่าไป ตนก็ยินยอม แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานัดทางบริษัทก็ยังเบี้ยวอีก พร้อมทั้งพูดจาบ่ายเบี่ยงต่างๆนานา จนกระทั่งวันที่ 27 ธ.ค.ตนจึงได้ติดตามไปที่บริษัท แจ้งว่าตนจำเป็นต้องใช้รถ พร้อมทั้งยื่นคำขาด จนบริษัทเอารถ ของลูกค้าอีกรายมาเปลี่ยนให้ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกัน หลังจากนั้น ตนรู้สึกผิดสังเกต ประกอบกับช่วงเดือนธ.ค. บริษัทเริ่มไม่จ่ายค่าเช่าตามกำหนดและทราบว่า มีผู้ที่ไม่ได้ค่าเช่าเหมือนตนอีกหลายราย จึงได้ไปตรวจสอบ จนทราบว่า บริษัทดังกล่าวไม่ได้นำรถของพวกตนไปให้ส่วนราชการที่กล่าวอ้างเช่าต่อแต่อย่างใด จึงคิดว่าพวกตนคงถูกหลอกแน่ และเกรงรถจะสูญหาย จึงเดินทางมาร้องทุกข์
ด้านนายประชารัตน์ แต้ภักดี อายุ 26 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้รับการแนะนำจากคนรู้จัก ขั้นแรกได้นำรถส่วนตัวยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ ไปให้บริษัทดังกล่าวเช่าก่อน โดยทำสัญญาเช่ากันในวันที่ 6 ก.ย.2550 ได้ค่าเช่าเดือนละ 38,000 บาท หลังผ่านไปครึ่งเดือน บริษัทได้โอนเงินค่าเช่าเข้าบัญชี ตนเห็นว่าได้เงินทันทีจึงเกิดความมั่นใจ ประกอบกับเห็นคนอื่นทำกันหลายคน จึงไปขอเช่าซื้อรถจากไฟแนนซ์เพื่อให้บริษัทดังกล่าวเช่าเพิ่มอีก 5 คัน นอกจากนี้ยังได้แนะนำพี่สาว และคนรู้จักให้นำรถมาให้บริษัทดังกล่าวเช่า กระทั่งเดือน ธ.ค.2550 บริษัทเริ่มไม่จ่ายค่าเช่าตามกำหนด ตนจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อทวงถาม แต่นางธัญชนกก็ไม่รับโทรศัพท์ หลังจากนั้นมาทราบว่า มีผู้ที่ไม่ได้ค่าเช่าเหมือนกับตนอีกนับสิบราย เชื่อว่าน่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงเดินทางไปที่บริษัทก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงตลอด นานๆเข้าพวกตนกลับถูกแจ้งความจับข้อหาบุกรุก ทั้งที่มาทวงสิทธิ์ของตัวเอง นอกจากนี้ยังทราบว่ารถของผู้ให้เช่ารายหนึ่งที่ติดตั้งระบบจีพีเอสไว้ และทราบว่ารถจอดอยู่ที่ประเทศลาว จึงเกรงว่ารถของตนเองอาจจะถูกนำออกขายประเทศเพื่อนบ้านเช่นเดียวกัน จึงอยากให้ตำรวจปศท.ช่วยติดตาม
ด้านพล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงและมีเอกสารครบ จะรับแจ้งความเอาไว้ก่อน ส่วนผู้ที่ไปเช่าซื้อรถจากไฟแนนซ์ ซึ่งกรณีดังกล่าวรถยังเป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์ จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากไฟแนนซ์จึงจะแจ้งความได้ โดยจะได้นัดผู้เสียหายทั้งหมดมาทำการสอบสวน และยื่นพยานหลักฐานต่างๆ อีกครั้งในวันทื่ 12 ก.พ.นี้ สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 100 ราย รวมรถที่ให้บริษัทดังกล่าวเช่าไปกว่า 200 คัน จึงเชื่อว่าน่าจะมีการทำกันเป็นขบวนการ จึงอยากเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อคนร้ายแก๊งนี้ ซึ่งกรณีนี้เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และพรก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 คล้ายแชร์ลูกโซ่ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเตรียมรวบพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อไป
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (บก.ปศท.) นางกัญญา คล้ายวิเชียร พร้อมผู้เสียหายจากการให้เช่ารถยนต์กว่า 20 ราย เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปศท.เพื่อให้ดำเนินคดีกับ บริษัท พาราไดซ์คาเรนท์ จำกัด และนางธัญชนก ดีสันเที๊ยะ กรรมการผู้จัดการ ฐานฉ้อโกงประชาชน กรณีนำรถไปให้บริษัทดังกล่าวเช่า แต่ปรากฏว่าภายหลังไม่ได้รับค่าเช่า และเกรงว่ารถจะสูญหาย
นางกัญญา กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพขายประกัน ได้รับการแนะนำจากลูกค้าว่า บริษัทดังกล่าวได้ประกาศเช่ารถยนต์โดยอ้างว่า จะนำไปให้ส่วนราชการ อาทิ กระทรวงพลังงาน กระทรวงแรงงาน และบริษัทอื่นๆเช่าต่ออีกทอดหนึ่ง โดยจ่ายค่าเช่าในอัตราที่สูง ตนเห็นว่า ลูกค้ารายดังกล่าวทำมาก่อน และที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไร จึงได้นำรถ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่ตนเองขับอยู่ ซึ่งขาดส่งไฟแนนซ์อยู่ 2 งวด ไปให้บริษัทดังกล่าวเช่า โดยทำสัญญาเช่า เดือนพ.ค. 2550 ระยะเวลาเช่า 2 ปี โดยบริษัทตกลงจ่ายค่าเช่าเดือนละ 38,000 บาท ซึ่งในระยะแรก ทางบริษัทจ่ายค่าเช่าตรงตามกำหนด ตนเห็นว่าได้เงินดี จึงได้ไปเช่าซื้อรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์และโตโยต้า วิช จากไฟแนนซ์ และนำรถกระบะโตโยต้า วีโก้ของสามีไปให้บริษัทดังกล่าวเช่าเพิ่ม นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2550 นางธัญชนก ได้ติดต่อขอเช่ารถเก๋งโตโยต้า รุ่นคัมรี่ ที่ตนใช้อยู่ เป็นเวลา 3 วัน โดยให้ค่าเช่ากับตนวันละ 2,500 บาท
นางกัญญา กล่าวว่า เมื่อถึงเวลานัด ทางบริษัทไม่ได้นำรถมาคืน ตนเองพยายามติดต่อแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงและขอเลื่อนนัดไปเป็นวันที่ 23 ธ.ค. โดยอ้างว่าได้ให้ส.ส.พรรคการเมืองหนึ่งเช่าไป ตนก็ยินยอม แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานัดทางบริษัทก็ยังเบี้ยวอีก พร้อมทั้งพูดจาบ่ายเบี่ยงต่างๆนานา จนกระทั่งวันที่ 27 ธ.ค.ตนจึงได้ติดตามไปที่บริษัท แจ้งว่าตนจำเป็นต้องใช้รถ พร้อมทั้งยื่นคำขาด จนบริษัทเอารถ ของลูกค้าอีกรายมาเปลี่ยนให้ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกัน หลังจากนั้น ตนรู้สึกผิดสังเกต ประกอบกับช่วงเดือนธ.ค. บริษัทเริ่มไม่จ่ายค่าเช่าตามกำหนดและทราบว่า มีผู้ที่ไม่ได้ค่าเช่าเหมือนตนอีกหลายราย จึงได้ไปตรวจสอบ จนทราบว่า บริษัทดังกล่าวไม่ได้นำรถของพวกตนไปให้ส่วนราชการที่กล่าวอ้างเช่าต่อแต่อย่างใด จึงคิดว่าพวกตนคงถูกหลอกแน่ และเกรงรถจะสูญหาย จึงเดินทางมาร้องทุกข์
ด้านนายประชารัตน์ แต้ภักดี อายุ 26 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้รับการแนะนำจากคนรู้จัก ขั้นแรกได้นำรถส่วนตัวยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ ไปให้บริษัทดังกล่าวเช่าก่อน โดยทำสัญญาเช่ากันในวันที่ 6 ก.ย.2550 ได้ค่าเช่าเดือนละ 38,000 บาท หลังผ่านไปครึ่งเดือน บริษัทได้โอนเงินค่าเช่าเข้าบัญชี ตนเห็นว่าได้เงินทันทีจึงเกิดความมั่นใจ ประกอบกับเห็นคนอื่นทำกันหลายคน จึงไปขอเช่าซื้อรถจากไฟแนนซ์เพื่อให้บริษัทดังกล่าวเช่าเพิ่มอีก 5 คัน นอกจากนี้ยังได้แนะนำพี่สาว และคนรู้จักให้นำรถมาให้บริษัทดังกล่าวเช่า กระทั่งเดือน ธ.ค.2550 บริษัทเริ่มไม่จ่ายค่าเช่าตามกำหนด ตนจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อทวงถาม แต่นางธัญชนกก็ไม่รับโทรศัพท์ หลังจากนั้นมาทราบว่า มีผู้ที่ไม่ได้ค่าเช่าเหมือนกับตนอีกนับสิบราย เชื่อว่าน่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงเดินทางไปที่บริษัทก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงตลอด นานๆเข้าพวกตนกลับถูกแจ้งความจับข้อหาบุกรุก ทั้งที่มาทวงสิทธิ์ของตัวเอง นอกจากนี้ยังทราบว่ารถของผู้ให้เช่ารายหนึ่งที่ติดตั้งระบบจีพีเอสไว้ และทราบว่ารถจอดอยู่ที่ประเทศลาว จึงเกรงว่ารถของตนเองอาจจะถูกนำออกขายประเทศเพื่อนบ้านเช่นเดียวกัน จึงอยากให้ตำรวจปศท.ช่วยติดตาม
ด้านพล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงและมีเอกสารครบ จะรับแจ้งความเอาไว้ก่อน ส่วนผู้ที่ไปเช่าซื้อรถจากไฟแนนซ์ ซึ่งกรณีดังกล่าวรถยังเป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์ จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากไฟแนนซ์จึงจะแจ้งความได้ โดยจะได้นัดผู้เสียหายทั้งหมดมาทำการสอบสวน และยื่นพยานหลักฐานต่างๆ อีกครั้งในวันทื่ 12 ก.พ.นี้ สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายกว่า 100 ราย รวมรถที่ให้บริษัทดังกล่าวเช่าไปกว่า 200 คัน จึงเชื่อว่าน่าจะมีการทำกันเป็นขบวนการ จึงอยากเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อคนร้ายแก๊งนี้ ซึ่งกรณีนี้เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และพรก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 คล้ายแชร์ลูกโซ่ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเตรียมรวบพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อไป
