xs
xsm
sm
md
lg

“อดิศร” ไฟเขียวกองปราบลุยคดีฆ่าอุ๋ยโปงลางฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบช.ก.สั่งกองปราบปรามเดินหน้าสางคดีการหายตัวไปของ “อุ๋ยโปงลางฯ” ผบก.ป.แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนระดับสัญญาบัตรแล้ว 16 นาย ด้านหัวหน้าชุดเผยสั่งเจ้าหน้าที่ออกหาเบาะแสศพนิรนามทั่วประเทศ พบแล้วกว่า 10 ศพอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า เป็น น.ส.ชลธิชา หรือไม่ ก่อนดำเนินคดีเสี่ยคนสนิทในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพต่อไป

วันนี้ (3 ก.พ.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี น.ส.ชลธิชา บรรเทาทึก หรือ น้องอุ๋ย อายุ 23 ปี บัณฑิตสาวจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม และ อดีตแดนเซอร์วงโปงลางสะออน ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากห้องพักเลขที่ 308 ชั้น 8 รุ่งทรัพย์แมนชั่น ปิ่นเกล้า เลขที่ 121 ซอยสมเด็จพระปิ่นเกล้า 7 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม.ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา ว่า ล่าสุด ทาง พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม เข้าไปทำคดีนี้อย่างเต็มที่เพื่อนำตัวคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ น.ส.ชลธิชา มาดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างเด็ดขาด

ต่อมา พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบคดีดังกล่าวแล้ว เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นคดีเกี่ยวกับชีวิตและร่างกายที่มีความยุ่งยากสลับซับซ้อนและประชาชนให้ความสนใจ เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและมีความเป็นธรรม จึงมีคำสั่งที่ 08/2551 แต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวนชั้นสัญญาบัตร เข้าคลี่คลายคดีดังกล่าว จำนวน 16 นาย โดยมี พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.1 บก.ป.เป็นหัวหน้าชุด โดยให้เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ได้รับการแต่งตั้งมีอำนาจหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น และหากสอบสวนทราบว่ามีบุคคลอื่นร่วมกระทำผิด หรือมีความผิดอื่นที่เกี่ยวพันกันก็ให้มีอำนาจสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดนั้นๆ ด้วย และรายงานให้ทราบผลการปฏิบัติให้ทราบตลอดเวลา

ด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า หลังได้รับการแต่งตั้งจากผู้บังคับบัญชา ทางตนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบทุกสัปดาห์ เพื่อเร่งคลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว โดยแบ่งสายออกหาเบาะแสศพไร้ญาติทั่วประเทศ ล่าสุด มีข้อมูลมาว่า พบศพไร้ญาติแล้วจำนวน 10 กว่าศพ ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบว่า เป็นศพ น.ส.ชลธิชา หรือไม่ ทั้งนี้ รอเพียงเจอศพก็สามารถตั้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ แก่เสี่ยคนสนิทอย่างแน่นอน เพราะหลักฐานและพยานแวดล้อมทางเราได้มาเกือบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่เจอศพก็ไม่สามารถเอาผิดได้ เหมือนคดีทนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความมุสลิมที่หายตัวไปเมื่อไม่เจอศพก็ไม่สามารถเอาผิดใครในข้อหาฆ่าผู้อื่นได้

“คดีดังกล่าวถือเป็นคดีสะเทือนขวัญ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษได้ เนื่องจากยังหาศพไม่เจอ แต่อย่างไรก็ตาม ผมจะดำเนินการคลี่คลายคดีนี้อย่างเต็มความสามารถเชื่อว่าไม่นานจะมีความชัดเจนกว่านี้ คนทำผิดต้องถูกดำเนินคดี เราไม่ปล่อยให้ลอยนวลอยู่ในสังคมแน่นอน” พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น