xs
xsm
sm
md
lg

“เสรีพิศุทธ์” จวก “ผบช.ตชด.” สั่งห้ามจับยา เตรียมเรียกอบรม!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“เสรีพิศุทธ์” จวก “ผบช.ตชด.” ต้องแสดงความเป็นผู้นำ ไม่ใช่สั่งห้าม ตชด.จับกุมคดียาเสพติด ถือเป็นการขัดอำนาจหน้าที่ของตำรวจ เตรียมเรียกอบรม พร้อมสั่งจเรตำรวจตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยไม่ให้ ตชด.คุมในเรื่องของการสอบสวน ส่วนเรื่องร้องเรียนล่าสุดหนุ่มใหญ่ทำสวนยางจากนครศรีธรรมราช เข้าร้อง ถูกแก๊ง ตชด.โฉดอุ้มลูกชายรีดเงิน ยัดยา ช็อตไฟ ติดคุกอยู่ในเรือนจำ

วันนี้ (1 ก.พ.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางมาประชุมชี้แจงและตรวจเยี่ยมการปฎิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในพื้นที่ 11 จังหวัดสังกัดตำรวจภูธรภาค 4 โดยได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีแก๊ง ตชด.อุ้มรีดค่าไถ โดยเฉพาะกรณีที่ พล.ต.ท.นิพนธ์ ศิริวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) ออกมาสั่งห้ามตำรวจตระเวนชายแดนจับกุมคดียาเสพติด โดยให้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจท้องที่และตำรวจปราบปรามยาเสพติดดำเนินการจับกุมเท่านั้นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ของการรักษาความสงบเรียบร้อย ป้องปรามปัญหาอาชญากรรม เมื่อเป็นตำรวจแล้วก็ต้องทำ โดยปัญหาไม่อยู่ที่ว่าเมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกระทำการที่ประพฤติมิชอบ แล้วไปบอกว่าไม่ให้ทำนั้นไม่ได้ ซึ่งทาง ผบช.ตชด.จะต้องแสดงความเป็นผู้นำ โดยการนำข้าราชการตำรวจภายใต้การบังคับบัญชาของตนเอง ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมาจะตัดออกไปเลยนั้นไม่ได้

ทั้งนี้ ทันทีที่เสร็จสิ้นภารกิจในหลายพื้นที่แล้วเมื่อกลับถึง สตช.ก็จะต้องมีการกำชับในเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้นได้มอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติไปตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยไม่ให้ ตชด.คุมในเรื่องของการสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง ซึ่งได้ใช้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนยอมรับได้ ซึ่งถ้าให้ ตชด.ไปคุมสำนวนเองอาจจะมีการช่วยเหลือกันได้ เพื่อให้เกิดข้อเท็จจริงที่สุด ขณะเดียวกัน ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับจะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบฐานปล่อยปละละเลย

“ในช่วงเริ่มทำงานหลังจบการศึกษาและเข้ามาเป็นตำรวจ ช่วงนั้นยังคงไม่คิดอะไรกันมาก แต่ทำไปทำมาก็เกิดมีลู่ทางของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง พอคนทำงานมาเจอสภาพแวดล้อมใจก็อ่อน และคิดแสวงหาผลประโยชน์ เริ่มจากเรื่องเล็กน้อย จนปีกกล้าขาแข็งเริ่มเหิมเกริมคิดการใหญ่โตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เมื่อมีตำรวจไม่ดีก็จะต้องตัดออกไป หรือถ้าจะไปมองว่าสวัสดิการน้อยนั้นส่วนใหญ่ก็จะเห็นว่าตำรวจนั้นอยู่อย่างสบาย ผมไปไหนจะพยายามฝึกอบรมและสอนตำรวจอยู่ตลอดเวลาว่า มาที่ขอนแก่นก็ต้องมาชี้แจงแผนพัฒนาข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อชี้ให้เห็นว่าจะประพฤติและปฏิบัติตนอย่างไร เพื่อไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆเหล่านี้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นตอนนี้มีคนมาร้องเรียนรวม 39 คดีนั้น จะต้องแยกออกจากกันว่าเป็นคดียาเสพติดขั้นพื้นฐานส่วนในเรื่องการกระทำความผิดมันต่างสถานที่จะต้องดูรายละเอียดและข้อเท็จจริงในแต่ละเรื่อง อย่างไรก็ตามขณะนี้ต้องให้ผู้ที่รับผิดชอบได้มีการสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน บางรายเป็นเหยื่อที่เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ทำ ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย รีดไถ บางทีก็อาจจะมีคนที่มาผสมโรงคือทำผิดในเรื่องยาเสพติด พอถูกดำเนินคดีไป พอเห็นท่าทางตำรวจกลุ่ม นี้อาจจะผสมเองเพื่อให้ตนเองนั้นรอด เพราะฉะนั้นอย่าพึ่งไปปักใจว่าใช่ทั้งหมด ขอให้ทีมจเรตำรวจทำหน้าที่เพื่อให้ความจริงนั้นได้ปรากฏออกมาว่าของจริงหรือของเทียม จะต้องแยกออกให้ชัดเจน และจะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้มีการร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวนี้ขึ้นมาอีก

สำหรับความคืบหน้ากรณี ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชนนิธิวณิชย์ ผบ.หมวด.426 กก.ตชด.42 จ.นครศรีธรรมราช ช่วยราชการ กก.ตชด.41 จ.ชุมพร พร้อมพวกร่วมกันขู่รีดเงินยัดยาเสพติดผู้บริสุทธิ์หลายรายนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 07.30 น.ที่ สน.บางพลัด นายเฉลิม เกตุสมบัติ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 4 ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช อาชีพทำสวนยาง เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ประภาส หยงสตาร์ พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.บางพลัด เพื่อแจ้งความแทนนายณรงค์ฤทธิ์ เกตุสมบัติ อายุ 24 ปี ลูกชายว่าเคยถูกแก๊ง ตชด.ของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ อุ้มไปซ้อมและยัดยาบ้าให้

นายเฉลิม ให้การว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย.50 ขณะที่ลูกชายตนกำลังเดินซื้อของอยู่ในตลาดจันดี ริมถนนฉวาง ก็ได้มีชายฉกรรจ์ 4-5 คน ซึ่งจำได้ว่าเป็น ตชด.แก๊งของ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ กรูกันเข้ามาอุ้มลูกชายไปกักขังไว้ที่ ตชด.42 เป็นเวลา 2 วัน โดยตลอดเวลาลูกชายถูกซ้อม และใช้ไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย พร้อมบังคับให้รับสารภาพว่ามียาบ้าไว้ในครอบครองจำนวน 102 เม็ด จากนั้นก็เอาตัวลูกชายส่งดำเนินคดีที่ สภ.ฉวาง ซึ่งต่อมาศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 5 ปี จนขณะนี้ลูกชายถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำทุ่งสง ตนจึงมาแจ้งความเพื่อร้องขอความเป็นธรรมแทนลูกชาย

จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ก่อนแนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ฉวาง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งแนะนำให้ติดต่อไปยังกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมที่เปิดรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายในคดีนี้โดยเฉพาะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ พล.ต.ต.วัจจนนท์ ถิระวัฒน์ รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนของ บช.น.ได้มีคำสั่งถึง 3 สน.ประกอบด้วย สน.ตลิ่งชัน สน.บางยี่ขัน และสน.บางพลัด ทำการตรวจสอบตามจุดต่างๆ ที่นางเพียงจิตถูกบังคับให้ไปโอนเงิน และที่กลุ่มผู้ต้องหาไปกดเงินออกมา เพื่อขอข้อมูลจากธนาคาร มาใช้ประกอบสำนวน

ต่อมาเวลา 12.00 น. นางเพียงจิต พึ่งอ้น ผู้เสียหายที่ถูกแก๊ง ตชด.อุ้มไปรีดเงิน ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ทนงค์ โศภิษฐ์กุล พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.บางพลัด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับ


นายเฉลิม เกตุสมบัติ อายุ 54 ปี ชาวจังหวัด นครศรีธรรมราช เข้าร้องเป็นรายล่าสุด

กำลังโหลดความคิดเห็น