นาทีนี้ใครไม่รู้จักโปเกมอนโก (Pokémon GO) ก็เห็นจะน่าสงสัยว่าไปอยู่ไหนมา หรืออาจจะนอนหลับไปตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วเพิ่งมาตื่นเอาวันนี้
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เกมบนโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนกลายเป็นวาระแห่งชาติไป ชนิดที่ว่าผู้สื่อข่าวต้องไปขอความเห็นจากผู้นำรัฐบาลหรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกันเลยทีเดียว
โปเกมอนโก ไม่เหมือนเกมบนโทรศัพท์มือถือเกมอื่นๆ ที่เคยฮิตกันมาก่อนหน้านี้ เช่น คุกกี้รัน หรือฟาร์มวิลล์ และก็ไม่เหมือนเกมโปเกมอนที่เคยฮิตถล่มทลายเมื่อสิบกว่าปีก่อนด้วย
เพราะมันคือการจำลองการจับตัวโปเกมอนในเกมเข้ากับโลกจริง แผนที่จริง โดยผู้เล่นเกมนี้ทุกคนจะเป็นเหมือนผู้ฝึกสอนสัตว์ประหลาด เรียกว่า “โปเกมอนเทรนเนอร์” ที่จะต้องตามจับสัตว์ประหลาดตามที่ต่างๆ มาเลี้ยงให้โต ให้เก่ง แล้วเอาไปต่อสู้กัน
ที่สนุกจนทำให้ติดใจกันทั้งบ้านทั้งเมือง ก็เพราะตัวโปเกมอนจะออกมาโผล่ให้จับได้ตามบ้านช่องที่อยู่ของเราจริงๆ เช่นอาจจะมีบางตัวมาเกิดในครัวหลังบ้านคุณก็ได้
แต่ที่ทำให้มีปัญหาจนบานปลายไปเป็นเรื่องของความมั่นคงนี่ก็เพราะว่า เจ้าพวกโปเกมอนนี้สามารถเกิดได้ไม่เลือกที่
ดังนั้น สถานที่ราชการ สถานที่สำคัญทางศาสนา วัดวาอาราม โบราณสถาน หรือแม้แต่เขตหวงห้ามต่างๆ ก็ล้วนมีโปเกมอนมาเกิดได้ทั้งสิ้น ซึ่งเรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น นอกจากจะลงเกมไว้ เราถึงจะรู้ว่าบริเวณนี้จะมีตัวอะไรมาเกิด จะว่าไปก็สนุกดี
จริงๆ การมา “เกิด” ของโปเกมอนนั้นเป็นสิ่งที่ระบบโปรแกรมของเกมเขาสุ่มขึ้นมา เช่นสุ่มว่า ในเขตนี้จะให้มีตัวอะไรมาเกิด และโปเกมอนที่มาเกิดในแต่ละเขตจะไม่เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าอยากเก็บตัวโปเกมอนให้ได้ครบทุกตัว ผู้เล่นอาจจะต้องเดินทางไปตามจุดต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้พบตัวโปเกมอนใหม่ๆ
และยิ่งถ้าจุดไหนมีรายงานว่ามีการพบตัวหายาก คนก็จะตามข่าวและไปไล่จับกันให้สนุกสนาน หรือหลายครั้งก็ลามปามไปเป็นเรื่องที่สนุกไม่ออก เช่นในต่างประเทศก็เคยมีปัญหาว่า มีคนไปรอจับโปเกมอนหายากหน้าอพาร์ตเมนต์ของชาวบ้านเขาจนไม่ได้หลับได้นอน ในที่สุดเจ้าของเขาก็ทนไม่ได้ต้องเอาน้ำสาดลงมาก็มี
หรือที่มีปัญหาก็คือว่า ในเกมนั้นจะมีการกำหนดจุดสำคัญขึ้นไว้ เรียกว่า Pokéstop ซึ่งเป็นเสาอเนกประสงค์ ที่มีหน้าที่เป็นเหมือนจุดแจกลูกบอลที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในเกมที่เอาไว้ไล่ขว้างเพื่อจับตัวโปเกมอน
และ PokémonGym ซึ่งเป็นสถานที่ให้คนเอาโปเกมอนที่จับได้และเลี้ยงไว้มาต่อสู้กัน ซึ่งเจ้ากรรมอะไรก็ไม่รู้ ที่เจ้า Pokéstop กับ PokémonGym นี้ ชอบไปตั้งอยู่ตามศาลพระภูมิบ้าง หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รูปเคารพ ป้ายซุ้มอะไรต่างๆ บ้าง รวมถึงสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ ให้เกิดปัญหา เพราะทำให้ผู้คนก็จะหลั่งไหลกันมาที่จุดนั้นเพื่อเล่นเกมเอาโปเกมอนมาสู้กัน ไปเก็บลูกบอลและอุปกรณ์อื่นในเกมหรือไม่ก็มาไล่จับโปเกมอนซึ่งเขาว่าจะมาเกิดตามเสา Pokéstop นี้
ยิ่งจุดที่มีเสาตั้งกันเยอะ โดยเฉพาะในเขตเมืองหรือห้างสรรพสินค้า ก็จะมีโปเกมอนแปลกๆ มาเกิดขึ้นแถวนั้นถี่ ยิ่งถ้ามีใครไป “โปรยดอกไม้” หรือที่ในเกมคือการใช้สิ่งของอย่างหนึ่งที่เรียกว่า Lure Module ไว้ ยิ่งทำให้มีโปเกมอนโผล่ออกมามาก และถ้าใครไป “โปรยดอกไม้” ไว้ที่เสาโปเกมอนไหน เราก็จะได้เห็นผู้คนจำนวนมากไปรายล้อมรอจับตัวโปเกมอนกันอยู่ที่นั่นเป็นม็อบย่อมๆ
อันนี้ก็เคยเป็นปัญหาในต่างประเทศอยู่เหมือนกันไม่เฉพาะในประเทศไทย เพราะเจ้าจุดเล่นโปเกมอนนี้หลายครั้งก็ไปปรากฏในจุดที่เป็นสถานที่สำคัญหรือสถานที่รำลึกที่มีผลทางจิตใจ เช่นที่กัมพูชาก็มีเสาที่ว่านี้ไปปรากฏที่อนุสรณ์สถานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง หรือที่โปแลนด์ก็มีที่ค่ายกักกันเอาชวิทซ์ ซึ่งทั้งสองที่ก็แจ้งต่อนักท่องเที่ยวและบริษัทผู้ผลิตเกมว่ากรุณางดเว้นการมาเล่นจับโปเกมอนกันในสถานที่นี้เถิด
ส่วนของไทยเราอาจจะดูขัดหูขัดตาไปบ้างที่จุดเล่นโปเกมอนไปปรากฏตามศาลพระภูมิหรือหอพระ (ซึ่งผู้ผลิตคงคิดเทียบว่าเหมือนกับรูปปั้นประจำเมืองหรือศาลต่างๆ ถ้าเทียบกับเมืองในต่างประเทศ) แต่ก็คงไม่เดือดร้อนมากนัก หากจุดนั้นจะไม่ใช่บ้านเคหสถานของเอกชน หรือสถานที่ราชการหรือสถานที่ที่ต้องอาศัยความมั่นคง
นอกจากนี้ก็มีแนวคิดจากผู้เชื่อในทฤษฎีสมคบคิด คิดว่าอาจจะเป็นแผนของมหาอำนาจมาล้วงความลับ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่น่าจะอะไรได้ขนาดนั้น เพราะข้อมูลของเกมก็เป็นแผนที่ที่มาจาก Google อยู่แล้ว ซึ่งถ้าใครเคยเล่น Google Map และ Street view คงรู้ว่าเขามีข้อมูลกันระดับตรอก ซอก ซอย แล้ว แทบไม่มีอะไรเหลือเป็นความลับอีกต่อไปในโลกไซเบอร์
ก็ไม่รู้ว่าที่ทาง กสทช. ส่งจดหมายไปขอความร่วมมือบริษัทผู้ผลิตเกมให้ถอดสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญๆ อื่นๆ ออกจากเกมจะได้ผลแค่ไหนเหมือนกัน หรือเอาเข้าจริงเกมนี้จะฮิตกันไปอีกนานเท่าไร
การโต้ตอบจากทางภาครัฐแม้หลายคนอาจจะมองว่าเหมือนไดโนเสาร์ไม่เข้าสมัย แต่หลายเรื่องนั้นก็น่ารับฟังได้เหมือนกัน
เพราะการที่โลกของเกมผนวกตัวเข้าทับซ้อนกับโลกแห่งความเป็นจริงเช่นนี้ก็เป็นดาบสองคมอยู่เหมือนกัน อย่างที่มีข่าวว่าบางคนมองแต่ “แผนที่” ในเกมในการเดินบนถนนจริง จนมอเตอร์ไซค์ล้มบ้าง หรือเกือบตกลงไปในน้ำบ้าง
หรือที่น่ากลัวและทางตำรวจมาเตือนไว้ ก็เช่นมีการไป “โปรยดอกไม้” ในจุด Pokéstop ที่เปลี่ยวๆ ล่อลวงคนมาชิงทรัพย์ หรือถ้าเป็นเด็กหรือผู้หญิงก็อาจจะถูกลักพาตัวหรือพาไปกระทำมิดีมิร้าย
หรือที่น่ากลัวกว่านั้น ในบรรยากาศแห่งการก่อการร้าย อาจจะมีผู้ไม่หวังดีหัวใส ไปปล่อยข่าวว่ามีโปเกมอนหายากเกิดที่ไหนสักแห่ง แล้วก็ไปปล่อย Lure Module หรือการ “โปรยดอกไม้” เอาไว้ ล่อให้นักจับโปเกมอนไปรวมตัวกันที่ Pokéstop สักแห่ง ที่ซุกซ่อนระเบิดเอาไว้ก็ได้ ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ไม่ไกลกว่าจินตนาการแต่อย่างใด
ดังนั้น การที่ภาครัฐจะเข้ามาดูแลควบคุมบ้าง ถ้าไม่ถึงขนาดเป็นการละเมิดเสรีภาพในการเล่นเกมจนเกินจำเป็นก็อาจจะพอฟังได้ เพราะความปลอดภัยของส่วนรวมน่าจะต้องมาก่อน คงจะไม่หาว่าเป็น “ไดโนเสาร์” เกินไปกระมัง
เชื่อกันว่าในอนาคตต่อไปเกมลักษณะที่เชื่อมต่อโลกของเกมเข้ากับโลกของความเป็นจริงเช่นนี้คงจะมีมากขึ้น เช่นต่อไปอาจจะมีเกมขับรถที่แข่งกันบนถนนจริงๆ โดยเชื่อมกับภาพบนถนนและแผนที่เข้ากับเกม หรือเกมเดินผจญภัยที่ต้องไปเดินกันในสถานที่จริงก็ได้ ซึ่งถ้ามีเช่นนั้นคงสนุกสนานโกลาหลไม่แพ้เกมโปเกมอนโกนี้
สุดท้ายนี้ ก็ขอให้เล่นกันพอหอมปากหอมคอ จะไปจับโปเกมอนที่ไหนก็มองซ้ายมองขวาให้ดี อย่าเล่นในขณะขับรถหรือขี่จักรยานยนต์ ระวังอันตรายอย่าหลงไปจับโปเกมอนในที่เปลี่ยวหรือสถานที่อันไม่น่าไว้วางใจนะครับ.
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เกมบนโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนกลายเป็นวาระแห่งชาติไป ชนิดที่ว่าผู้สื่อข่าวต้องไปขอความเห็นจากผู้นำรัฐบาลหรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกันเลยทีเดียว
โปเกมอนโก ไม่เหมือนเกมบนโทรศัพท์มือถือเกมอื่นๆ ที่เคยฮิตกันมาก่อนหน้านี้ เช่น คุกกี้รัน หรือฟาร์มวิลล์ และก็ไม่เหมือนเกมโปเกมอนที่เคยฮิตถล่มทลายเมื่อสิบกว่าปีก่อนด้วย
เพราะมันคือการจำลองการจับตัวโปเกมอนในเกมเข้ากับโลกจริง แผนที่จริง โดยผู้เล่นเกมนี้ทุกคนจะเป็นเหมือนผู้ฝึกสอนสัตว์ประหลาด เรียกว่า “โปเกมอนเทรนเนอร์” ที่จะต้องตามจับสัตว์ประหลาดตามที่ต่างๆ มาเลี้ยงให้โต ให้เก่ง แล้วเอาไปต่อสู้กัน
ที่สนุกจนทำให้ติดใจกันทั้งบ้านทั้งเมือง ก็เพราะตัวโปเกมอนจะออกมาโผล่ให้จับได้ตามบ้านช่องที่อยู่ของเราจริงๆ เช่นอาจจะมีบางตัวมาเกิดในครัวหลังบ้านคุณก็ได้
แต่ที่ทำให้มีปัญหาจนบานปลายไปเป็นเรื่องของความมั่นคงนี่ก็เพราะว่า เจ้าพวกโปเกมอนนี้สามารถเกิดได้ไม่เลือกที่
ดังนั้น สถานที่ราชการ สถานที่สำคัญทางศาสนา วัดวาอาราม โบราณสถาน หรือแม้แต่เขตหวงห้ามต่างๆ ก็ล้วนมีโปเกมอนมาเกิดได้ทั้งสิ้น ซึ่งเรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น นอกจากจะลงเกมไว้ เราถึงจะรู้ว่าบริเวณนี้จะมีตัวอะไรมาเกิด จะว่าไปก็สนุกดี
จริงๆ การมา “เกิด” ของโปเกมอนนั้นเป็นสิ่งที่ระบบโปรแกรมของเกมเขาสุ่มขึ้นมา เช่นสุ่มว่า ในเขตนี้จะให้มีตัวอะไรมาเกิด และโปเกมอนที่มาเกิดในแต่ละเขตจะไม่เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าอยากเก็บตัวโปเกมอนให้ได้ครบทุกตัว ผู้เล่นอาจจะต้องเดินทางไปตามจุดต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้พบตัวโปเกมอนใหม่ๆ
และยิ่งถ้าจุดไหนมีรายงานว่ามีการพบตัวหายาก คนก็จะตามข่าวและไปไล่จับกันให้สนุกสนาน หรือหลายครั้งก็ลามปามไปเป็นเรื่องที่สนุกไม่ออก เช่นในต่างประเทศก็เคยมีปัญหาว่า มีคนไปรอจับโปเกมอนหายากหน้าอพาร์ตเมนต์ของชาวบ้านเขาจนไม่ได้หลับได้นอน ในที่สุดเจ้าของเขาก็ทนไม่ได้ต้องเอาน้ำสาดลงมาก็มี
หรือที่มีปัญหาก็คือว่า ในเกมนั้นจะมีการกำหนดจุดสำคัญขึ้นไว้ เรียกว่า Pokéstop ซึ่งเป็นเสาอเนกประสงค์ ที่มีหน้าที่เป็นเหมือนจุดแจกลูกบอลที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในเกมที่เอาไว้ไล่ขว้างเพื่อจับตัวโปเกมอน
และ PokémonGym ซึ่งเป็นสถานที่ให้คนเอาโปเกมอนที่จับได้และเลี้ยงไว้มาต่อสู้กัน ซึ่งเจ้ากรรมอะไรก็ไม่รู้ ที่เจ้า Pokéstop กับ PokémonGym นี้ ชอบไปตั้งอยู่ตามศาลพระภูมิบ้าง หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รูปเคารพ ป้ายซุ้มอะไรต่างๆ บ้าง รวมถึงสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ ให้เกิดปัญหา เพราะทำให้ผู้คนก็จะหลั่งไหลกันมาที่จุดนั้นเพื่อเล่นเกมเอาโปเกมอนมาสู้กัน ไปเก็บลูกบอลและอุปกรณ์อื่นในเกมหรือไม่ก็มาไล่จับโปเกมอนซึ่งเขาว่าจะมาเกิดตามเสา Pokéstop นี้
ยิ่งจุดที่มีเสาตั้งกันเยอะ โดยเฉพาะในเขตเมืองหรือห้างสรรพสินค้า ก็จะมีโปเกมอนแปลกๆ มาเกิดขึ้นแถวนั้นถี่ ยิ่งถ้ามีใครไป “โปรยดอกไม้” หรือที่ในเกมคือการใช้สิ่งของอย่างหนึ่งที่เรียกว่า Lure Module ไว้ ยิ่งทำให้มีโปเกมอนโผล่ออกมามาก และถ้าใครไป “โปรยดอกไม้” ไว้ที่เสาโปเกมอนไหน เราก็จะได้เห็นผู้คนจำนวนมากไปรายล้อมรอจับตัวโปเกมอนกันอยู่ที่นั่นเป็นม็อบย่อมๆ
อันนี้ก็เคยเป็นปัญหาในต่างประเทศอยู่เหมือนกันไม่เฉพาะในประเทศไทย เพราะเจ้าจุดเล่นโปเกมอนนี้หลายครั้งก็ไปปรากฏในจุดที่เป็นสถานที่สำคัญหรือสถานที่รำลึกที่มีผลทางจิตใจ เช่นที่กัมพูชาก็มีเสาที่ว่านี้ไปปรากฏที่อนุสรณ์สถานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง หรือที่โปแลนด์ก็มีที่ค่ายกักกันเอาชวิทซ์ ซึ่งทั้งสองที่ก็แจ้งต่อนักท่องเที่ยวและบริษัทผู้ผลิตเกมว่ากรุณางดเว้นการมาเล่นจับโปเกมอนกันในสถานที่นี้เถิด
ส่วนของไทยเราอาจจะดูขัดหูขัดตาไปบ้างที่จุดเล่นโปเกมอนไปปรากฏตามศาลพระภูมิหรือหอพระ (ซึ่งผู้ผลิตคงคิดเทียบว่าเหมือนกับรูปปั้นประจำเมืองหรือศาลต่างๆ ถ้าเทียบกับเมืองในต่างประเทศ) แต่ก็คงไม่เดือดร้อนมากนัก หากจุดนั้นจะไม่ใช่บ้านเคหสถานของเอกชน หรือสถานที่ราชการหรือสถานที่ที่ต้องอาศัยความมั่นคง
นอกจากนี้ก็มีแนวคิดจากผู้เชื่อในทฤษฎีสมคบคิด คิดว่าอาจจะเป็นแผนของมหาอำนาจมาล้วงความลับ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่น่าจะอะไรได้ขนาดนั้น เพราะข้อมูลของเกมก็เป็นแผนที่ที่มาจาก Google อยู่แล้ว ซึ่งถ้าใครเคยเล่น Google Map และ Street view คงรู้ว่าเขามีข้อมูลกันระดับตรอก ซอก ซอย แล้ว แทบไม่มีอะไรเหลือเป็นความลับอีกต่อไปในโลกไซเบอร์
ก็ไม่รู้ว่าที่ทาง กสทช. ส่งจดหมายไปขอความร่วมมือบริษัทผู้ผลิตเกมให้ถอดสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญๆ อื่นๆ ออกจากเกมจะได้ผลแค่ไหนเหมือนกัน หรือเอาเข้าจริงเกมนี้จะฮิตกันไปอีกนานเท่าไร
การโต้ตอบจากทางภาครัฐแม้หลายคนอาจจะมองว่าเหมือนไดโนเสาร์ไม่เข้าสมัย แต่หลายเรื่องนั้นก็น่ารับฟังได้เหมือนกัน
เพราะการที่โลกของเกมผนวกตัวเข้าทับซ้อนกับโลกแห่งความเป็นจริงเช่นนี้ก็เป็นดาบสองคมอยู่เหมือนกัน อย่างที่มีข่าวว่าบางคนมองแต่ “แผนที่” ในเกมในการเดินบนถนนจริง จนมอเตอร์ไซค์ล้มบ้าง หรือเกือบตกลงไปในน้ำบ้าง
หรือที่น่ากลัวและทางตำรวจมาเตือนไว้ ก็เช่นมีการไป “โปรยดอกไม้” ในจุด Pokéstop ที่เปลี่ยวๆ ล่อลวงคนมาชิงทรัพย์ หรือถ้าเป็นเด็กหรือผู้หญิงก็อาจจะถูกลักพาตัวหรือพาไปกระทำมิดีมิร้าย
หรือที่น่ากลัวกว่านั้น ในบรรยากาศแห่งการก่อการร้าย อาจจะมีผู้ไม่หวังดีหัวใส ไปปล่อยข่าวว่ามีโปเกมอนหายากเกิดที่ไหนสักแห่ง แล้วก็ไปปล่อย Lure Module หรือการ “โปรยดอกไม้” เอาไว้ ล่อให้นักจับโปเกมอนไปรวมตัวกันที่ Pokéstop สักแห่ง ที่ซุกซ่อนระเบิดเอาไว้ก็ได้ ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ไม่ไกลกว่าจินตนาการแต่อย่างใด
ดังนั้น การที่ภาครัฐจะเข้ามาดูแลควบคุมบ้าง ถ้าไม่ถึงขนาดเป็นการละเมิดเสรีภาพในการเล่นเกมจนเกินจำเป็นก็อาจจะพอฟังได้ เพราะความปลอดภัยของส่วนรวมน่าจะต้องมาก่อน คงจะไม่หาว่าเป็น “ไดโนเสาร์” เกินไปกระมัง
เชื่อกันว่าในอนาคตต่อไปเกมลักษณะที่เชื่อมต่อโลกของเกมเข้ากับโลกของความเป็นจริงเช่นนี้คงจะมีมากขึ้น เช่นต่อไปอาจจะมีเกมขับรถที่แข่งกันบนถนนจริงๆ โดยเชื่อมกับภาพบนถนนและแผนที่เข้ากับเกม หรือเกมเดินผจญภัยที่ต้องไปเดินกันในสถานที่จริงก็ได้ ซึ่งถ้ามีเช่นนั้นคงสนุกสนานโกลาหลไม่แพ้เกมโปเกมอนโกนี้
สุดท้ายนี้ ก็ขอให้เล่นกันพอหอมปากหอมคอ จะไปจับโปเกมอนที่ไหนก็มองซ้ายมองขวาให้ดี อย่าเล่นในขณะขับรถหรือขี่จักรยานยนต์ ระวังอันตรายอย่าหลงไปจับโปเกมอนในที่เปลี่ยวหรือสถานที่อันไม่น่าไว้วางใจนะครับ.