บิสเนสอินไซเดอร์ - โฆษกของนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนเดโมแครต ในตอนเช้าวันอังคาร (2 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น รุดออกมาตอบโต้นายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่ท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากรีพับลิกัน ว่าใช้โวหารที่อันตราย หลังถูกมหาเศรษฐีปากเปราะเรียกอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศหญิงเป็น “นางมารร้าย” และอ้างว่าอาจมีการโกงผลเลือกตั้งหากว่าผลคะแนนออกมาสูสี
“แม้จะเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่สะท้อนตัวตนของนายทรัมป์ แต่มันเป็นเรื่องที่น่าสลดใจ และอันตรายด้วยเช่นกัน” ไบอัน ฟอลลอน โฆษกทีมหาเสียงของนางคลินตันกล่าว
นายทรัมป์กล่าวอ้างเกี่ยวกับการปรุงแต่งผลเลือกตั้งต่อตัวเขาถึง 2 ครั้งในวันจันทร์ (1ส.ค.) ครั้งแรก ณ เวทีหาเสียงในโคลัมบัส มลรัฐโอไฮโอ และต่อมาระหว่างให้สัมภาษณ์ผ่านรายการของฌอน ฮันนิตี ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ นิวส์
ณ เวทีหาเสียง นายทรัมป์บอกกับฝูงชนว่าเขามีความรู้สึกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจไม่เป็นธรรมและอาจมีการโกงเกิดขึ้น “ผมคิดว่าฝ่ายของผมจะถูกโกงถ้าผมไม่ชนะอย่างถล่มทลาย ผมได้ยินมาหนาหูขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ศึกเลือกตั้งวันที่ 8 พฤศจิกายนกำลังมาถึง” ทั้งนี้ แม้ทรัมป์จะไม่ได้หยิบยกหลักฐานใดๆ มาหนุนข้อสันนิษฐานของเขา แต่ตัวแทนพรรครีพับลิกันคนนี้ก็วอนขอให้ประชาชนและสื่อมวลเป็นหูเป็นตาช่วยกันเฝ้าระวัง
นายทรัมป์บอกกับชาวรีพับลิกันว่า “จงระวัง” ไม่อย่างนั้นผลเลือกตั้งอาจถูกแย่งไปจากเรา “ที่ผมกำลังจะบอกกับพวกคุณคือ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนเราต้องระวังให้มาก เพราะว่าจะมีการโกงเลือกตั้ง” เขากล่าว “และผมหวังว่าชาวรีพับลิกันจะจับตาอย่างใกล้ชิด”
จากนั้นนายทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายงานของฮันนิตี ย้ำว่าเขาได้ยินข่าวลือมานานว่าอาจมีการโกงการเลือกตั้ง หากคะแนนของเขากับนางคลินตันออกมาในลักษณะคู่คี่สูสีกันมาก
ระหว่างปราศรัยหาเสียง นายทรัมป์บอกด้วยว่านายเบอร์นี แซนเดอร์ส อดีตผู้สมัครชิงตัวแทนพรรคเดโมแครตลงลุ้นเก้าอี้ประธานาธิบดี ได้ทำข้อตกลงกับ “นางมาร” ตอนที่เขายอมสนับสนุนนางคลินตัน “เธอคือนางมาร” ทรัมป์อ้างถึงคลินตัน
มหาเศรษฐีชาวนิวยอร์กอาจกลายเป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีรายแรกในยุคสมัยใหม่หรือคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่อาจกล่าวโทษความพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งว่าเป็นผลจากการโกง
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน ทรัมป์เคยสวดระบบคัดเลือกตัวแทนที่จะเป็นผู้โหวตเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันว่า “หลอกลวง คดโกง” และไม่เป็นประชาธิปไตย หลังจาก “เท็ด ครูซ” คู่แข่งคนสำคัญของเขากวาดตัวแทนผู้ลงคะแนนทั้ง 34 คนของรัฐโคโลราโดไปครองแต่เพียงผู้เดียวในขั้นตอนท้ายๆ ของการเลือกตั้งขั้นต้นของรัฐนี้